เมื่อเวลา 17.00 น.วันที่ 31 พ.ค.65 ที่รัฐสภา นายสุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายว่า จากงบ 63 หลังการเลือกตั้งถึงปัจจุบันงบ 66 ภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และรมว.กลาโหม ยังเหมือนเดิม เป็นงบไม่ยอมเปลี่ยนแปลง ตั้งงบมา 3.18 ล้านล้านบาท ส่วนต่างระหว่างงบลงทุนกับรายจ่ายลงทุน ไม่มีรายการมาแสดงทั้งที่เงื่อนไขตามกฎหมาย รายจ่ายลงทุนจะต้องมากกว่าหรือเท่ากับ 20% แต่มีรายการมาแสดงเพียง 15.45% เท่าที่มีรายละเอียดของงบลงทุนที่นับได้ว่าเป็นการพัฒนาประเทศมีอยู่ 2.6 แสนล้านบาทเท่านั้น
โดยงบลงทุนด้านคมนาคมสูงสุดแบบทิ้งห่าง ปีนี้รับไป 1.68 แสนล้านบาท คิดเป็น 34% ซึ่งงบกระทรวงคมนาคมมีลักษณะกระจุกตัว กรมทางหลวงรับไปประมาณ 1.2 แสนล้านบาท กรมทางหลวงชนบทอีกประมาณ 4.7 หมื่นล้านบาท และส่วนกลางก็แย่งงบกันไปสร้างถนน ตัวอย่างความล้มเหลวของการใช้งบประมาณ คือ โครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองสายบางปะอิน – สระบุรี – นครราชสีมา ที่ใช้งบทั้งสิ้น 8.5 หมื่นล้านบาท แต่วันนี้ยังไม่สามารถเปิดใช้ได้ ยังอยู่ระหว่างการก่อสร้างอีก 17 สัญญา มีความคืบหน้าเพียง 95%
นายสุรเชษฐ์ ยังกล่าวถึงความเหลื่อมล้ำระหว่างงบประมาณของกรมทางหลวงกับท้องถิ่น ที่ส่วนกลางงบมากเหลือล้นผลาญไปกับโครงการซ้ำซ้อนระหว่างเมือง แต่ท้องถิ่นยากจนสุดขีด ตัวอย่างความเหลื่อมล้ำของการจัดสรรงบโดยส่วนกลาง ในส่วนของงบซ่อมถนนของกรมหลวงกับทางหลวงชนบท จ.บุรีรัมย์ นำโด่ง ได้มากกว่าค่าเฉลี่ย 4.29 เท่า รองลงมาคือ จ.สุรินทร์ 3.58 เท่า ท่านไม่สงสารจังหวัดอื่นๆที่ได้ต่ำกว่าค้าเฉลี่ยบ้างหรือ เราจะอยู่ในระบบมือใครยาวสาวได้สาวเอาแบบนี้หรือ ตรงไหนคือการกระจายงบที่เป็นธรรมอย่างที่นายกฯชอบพูด ดังนั้น เราต้องลดความเหลื่อมล้ำทั้งเรื่องของงบประมาณและอำนาจ ตนและพรรคก้าวไกลไม่ขอรับหลักการร่างพ.ร.บ.งบฯ 66