วันที่ 31 พ.ค. ที่ลานกีฬาแฟลตดินแดง เขตดินแดง นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. ให้สัมภาษณ์ภายหลังคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) มีมติรับรองตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม.อย่างเป็นทางการ ว่า ขอบคุณทุกคนสำหรับทุกคะแนนเสียงที่ให้มา รวมถึงทุกคะแนนเสียงที่ไม่ได้ให้ด้วย ในฐานะตัวแทนของผู้สมัครทั้ง 31 คน จากนี้เมื่อ กกต.รับรองก็ก้าวเดินต่อไป จะเป็นผู้ว่าฯ กทม.ของทุกคน ดูแลทุกคนเหมือนกัน เชื่อว่า 5 วันที่ผ่านมา เป็นบทพิสูจน์ว่าคนกรุงเทพฯ มีความหวัง และเราเดินไปด้วยกันไม่มีความแตกต่างกันเลย ทุกพรรคการเมืองเดินไปด้วยกัน ทั้งพรรคพลังประชารัฐ พรรคก้าวไกล พรรคเพื่อไทย พรรคประชาธิปัตย์ เราเชิญทุกฝ่ายมาอย่างยินดี ประชาชนไม่สนใจว่าอยู่พรรคไหน เพราะประชาชนอยากได้ชีวิตที่ดีขึ้น เป็นเมืองที่มีความหวังขึ้น 

"เป็นก้าวต่อไปที่สำคัญ ผมเชื่อว่าหลายๆ อย่าง จากนโยบายที่เขียนไว้หลายๆ ข้อ เจ้าหน้าที่ กทม.ก็นำไปทำเลย เป็นการเริ่มขยับถึงแม้เราจะยังไม่เข้าไปทำงานก็ตาม ถือเป็นเรื่องที่ดีที่ประชาชนร่วมมือร่วมใจ "นายชัชชาติ ระบุ

นายชัชชาติ กล่าวต่อว่า เท่าที่เดินมาถึงแม้จะดูปัญหาเป็นจุดๆ แต่จริงๆ แล้วเป็นการส่งสัญญาณว่าทุกคนต้องมาดูประชาชน เช่น ไปดูการก่อสร้างที่เดอะ มอลล์ ท่าพระ แต่ทุกจุดในกรุงเทพฯ ก็ต้องลงมาดูไม่รอให้ผู้ว่าฯ กทม.ลงไปแก้ ทั้งนี้ ขอบคุณทุกคนที่ตรวจสอบ ทำให้เรายิ่งสง่างามด้วยซ้ำ เป็นการตรวจสอบเต็มที่ก็ต้องขอบคุณ นายศรีสุวรรณ จรรยา ขอบคุณ กกต. เพราะยิ่งตรวจสอบเราก็ยิ่งให้มีความชอบธรรมมากขึ้น ดีกว่าไม่มีการตรวจสอบ ถ้าตรวจสอบเราก็ดีใจ เราก็ให้เกียรติ กกต.ไม่เคยเร่งรัด 


ผู้สื่อข่าวถามว่า หลายฝ่ายมองการร้องเรียนของนายศรีสุวรรณ เป็นการกลั่นแกล้งทางการเมือง นายชัชชาติระบุว่า "ไม่เป็นไรผมไม่ได้มองแบบนั้น เพราะนายศรีสุวรรณ ก็ทำหน้าที่ตรวจสอบมานานแล้ว เราก็ทำใจร่มๆ มองไปในอนาคต"


นายชัชชาติ ยังระบุด้วยว่า ส่วนในวันที่ 1 มิ.ย. จะเปิดตัวทีมงานได้ทั้งหมด 3 ทีม ประกอบด้วย 1.ทีมรองผู้ว่าฯ กทม.- เลขานุการผู้ว่าฯ กทม. 2.ทีมที่ปรึกษา และ 3.ทีมเทคนิค ซึ่งทีมนี้ไม่ได้รับเงินเดือน และการเข้า กทม.วันที่ 1 มิ.ย.จะเชิญทีมข้างราชการมาพูดคุยทั้งปลัด กทม.และรองปลัด กทม.เพื่อฟังความเห็นเกี่ยวกับนโยบายทั้ง 214 เรื่อง ว่ามีความคิดเห็นอย่างไร โดยให้ข้าราชการมีส่วนร่วม และเดินไปด้วยกัน 


สำหรับการลงพื้นที่ ของนานชัชชาติ วันนี้มีประชาชน ได้เข้ามาแสดงความยินดีกับนายชัชชาติ เป็นจำนวนมาก โดยส่วนใหญ่ได้เข้ามาพูดคุย และขอถ่ายรูปเป็นระยะระหว่างการลงพื้นที่ นอกจากนี้ ในขณะลงพื้นที่ได้มีนักเรียนหญิงคนหนึ่ง เข้ามายื่นเอกสารร้องเรียนในเรื่องเกี่ยวกับข้อบังคับเรื่องทรงผม สีผม และเครื่องแบบนักเรียนของโรงเรียนในสังกัด กทม. เพื่อให้สนับสนุน ควรมีการปรับข้อบังคับเรื่องทรงผม สีผม และเครื่องแบบ โดยคำนึงถึงเรื่องสิทธิเสรีภาพของนักเรียนให้มากขึ้น