นครพนม ชูกัน กุลวงษา อดีต ส.ส.ขวัญใจประชาชน ประกาศจุดยืนไม่ลาออกจาก ตำแหน่ง ขอทำงานคู่ขนาน ตำแหน่งรองนายก อบจ.นครพนม กับสร้างฐานการเมืองภูมิใจไทย หลัง หมออลงกต ประกาศลาออก เพื่อเตรียมพร้อมสู้ศึกเลือกตั้ง ส.ส. ขอเดินหน้าพัฒนาท้องถิ่น แก้ปัญหางบกระจุก เน้นกระจายงบประมาณ พัฒนาชุมชนทั้ง 12 อำเภอ ยืนยันเลือกตั้ง ส.ส.สมัยหน้า สังกัดภูมิใจไทย สู้ศึกเขตเลือกตั้งที่ 4 มั่นใจทำงานการเมืองระดับชาติควบคู่ตำแหน่งรองนายก ไม่กระทบการพัฒนาท้องถิ่น

เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ จ.นครพนม ความคืบหน้ากรณี นายแพทย์ อลงกต มณีกาศ รอง นายก อบจ.นครพนม อดีต ส.ส.พรรคเพื่อแผ่นดิน ประกาศลาออกจากตำแหน่งรองนายก อบจ.มีผลวันที่ 1 มิถุนายน 2565 หลังร่วมทีมบริหาร กับ นางสาวศุภพานี โพธิ์สุ หรือนายกขวัญ นายก อบจ.นครพนม ลูกสาว นายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาผู้แทนคนที่ 2 ส.ส.นครพนม เขต 1 พรรคภูมิใจไทย ในช่วงระยะเวลาเกือบ 2 ปี โดยนายแพทย์ อลงกต มณีกาศ รอง นายก อบจ.นครพนม ให้เหตุผลว่า ป้องกันข้อครหา ใช้เวลาราชการ เอาตำแหน่งหน้าที่เป็นฐานในการหาเสียง ในการลงสมัคร สู้ศึกเลือกตั้ง ส.ส.สมัยหน้า ซึ่งปัจจุบันสังกัดพรรคภูมิใจไทย เป็นการเตรียมพร้อมสร้างฐานสู้ศึกเลือกตั้ง ส.ส. ขณะเดียวกันทางด้าน นายชูกัน กุลวงษา รองนายก อบจ.นครพนม อีกคน อดีต ส.ส.ขวัญใจประชาชน เคยสังกัดเป็น ส.ส.พรรคเพื่อไทย เขต 4 นครพนม ก่อนย้ายมาสังกัดพรรคพลังประชารัฐ แต่สอบตก และหันมาร่วมทีมบริหาร นั่งรอง นายก อบจ.นครพนม และย้ายมาสังกัดพรรคภูมิใจไทย เพื่อเตรียมสู้ศึกเลือกตั้ง ส.ส.สมัยหน้า ในเขตเลือกตั้งที่ 4 นครพนม ทั้งนี้ได้ประกาศจุดยืนไม่ขอลาออกจาก รองนายก อบจ.แต่ขอทำงานคู่ขนาน พัฒนาท้องถิ่น ร่วมกับการสร้างฐานการเมืองกับพรรคภูมิใจไทย       

นายชูกัน กุลวงษา รองนายก อบจ.นครพนม อดีต ส.ส.นครพนม เปิดเผยว่า หลังทาง นายแพทย์ อลงกต มณีกาศ รองนายก อบจ.ลาออกจากตำแหน่ง เชื่อว่าเป็นเหตุผลส่วนตัว ไม่มีปัญหาขัดแย้งเรื่องการทำงาน ส่วนตนยังประกาศจุดยืน ในเมื่ออาสาเข้ามาพัฒนาท้องถิ่น และรับหน้าที่จาก นายก อบจ.นครพนม แล้ว จะต้องทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ส่วนงานภาคประชาชน จะมีการทำงานคู่ขนานกันไปในขณะที่ทำงานรอง นายก อบจ.นครพนม กับการสร้างฐานการเมืองกับพรรคภูมิใจไทย สำหรับเส้นทางการเมืองระดับชาติ ปัจจุบันตนสังกัดพรรคภูมิใจไทย โดยทำหน้าที่เสนอนโยบายพรรค ให้ประชาชนได้รับรู้ถึงนโยบายการพัฒนา อาทิ เรื่องนโยบายการปลูกกัญชา ถือเป็นนโยบายสำคัญที่พรรคภูมิใจไทยริเริ่ม นำกัญชามาใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ และจะเป็นสิ่งที่ประชาชนได้ประโยชน์ และประชาชนให้ความสนใจ ไปจนถึงนโยบายการฟอกไตฟรี เพราะเป็นค่าใช้จ่ายที่ประชาชนได้รับผลกระทบเรื่องค่าใช้จ่าย ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขมีนโยบายฟอกไตฟรี สามารถช่วยเหลือชาวบ้านได้เป็นอย่างดี ถือเป็นนโยบายที่เข้าถึงประชาชน รวมถึงโครงการบัตร 30 บาทรักษาทุกโรค ที่มีการเปลี่ยนแปลง ภายใต้การนำของ นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข มีการเสนอให้บัตร 30 บาทรักษาทุกโรค สามารถรักษาได้ทุกที่ ไม่กำหนดเขตพื้นที่จังหวัด  นอกจากนี้ยังมีนโยบายเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหา หนี้ กองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษา ที่ไม่สามารถส่งคืนได้ทำให้ถูกฟ้องร้องดำเนินคดี รวมถึงญาติพี่น้องต้องรับผิดชอบ ทางพรรคภูมิใจไทย จึงมีการแก้ไข ไม่ต้องมีการค้ำประกัน ไม่ต้องเกิดปัญหาภายหลัง จึงถือว่าเป็นประโยชน์แก่ประชาชน ที่ประสบปัญหา

นายชูกัน กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ยืนยันลงสมัครแน่นอน ในการเลือกตั้ง ส.ส.สมัยหน้า ในสังกัดพรรคภูมิใจไทย เขตเลือกตั้งที่ 4 นครพนม แต่จะต้องทำหน้าที่รองนายก อบจ.นครพนม ควบคู่ไปด้วย จนกว่าจะมีการเลือกตั้ง ส.ส. ส่วนเรื่องการพัฒนาท้องถิ่น หลังเข้ามาร่วมบริหารงาน กับ ทีม นายก อบจ.นครพนม ถือว่านครพนม มีการพัฒนามาต่อเนื่อง แต่ยังมีบางส่วนในพื้นที่หมู่บ้านชุมชน จะต้องมีการพัฒนาด้านสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน จะได้จัดสรรงบประมาณลงพื้นที่ ไม่ให้งบประมาณกระจุกอยู่ที่เดียว อีกปัญหาสำคัญจะต้องพัฒนาเรื่องการศึกษาให้กับลูกหลานเยาวชน ได้รับการศึกษาที่ดี เพื่อมีอนาคต ควบคู่กับการส่งเสริมกีฬาให้แก่เยาวชน ซึ่งมีโรงเรียนกีฬารองรับ ที่ผ่านมาถือว่าประสบความสำเร็จให้ลูกหลานเยาวชนที่มีความสามารถด้านกีฬาก้าวสู่นักกีฬาอาชีพ โดยตนยังจะขอทำหน้าที่ให้ดีที่สุด เพื่อชาว จ.นครพนม