วันที่ 29 พ.ค.65 นายสำราญ ตันพาณิชย์ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำกรุงเทพมหานคร (กกต.กทม.) กล่าวว่า เมื่อวันที่ 23 และ 26 พ.ค กกต.กทม.ได้รายงานผลการเลือกตั้งเรื่องร้องเรียนและสำนวนการสอบสวนรวมทั้งความเห็นของกกตกทมเกี่ยวกับการเลือกตั้งสมาชิกสภากรุงเทพมหานครและผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครไปยังกกต.กลางแล้วและทราบว่าในวันที่ 24 พ.ค. ทางผู้ตรวจการเลือกตั้งก็ได้มีการรายงานผลการตรวจสอบไปยังกกต. กลางแล้วเช่นกัน หลังจากนี้อยู่ที่ที่ประชุมกกต. จะพิจารณาวินิจฉัยอย่างไร ทั้งนี้ กรณีสำนวนเรื่องร้องเรียนที่ทางกกต.กทม.ได้สืบสวนและมีความเห็นส่งไปแล้วนั้นจนถึงขณะนี้ทางสำนักงานกกต. หรือกกต.กลางยังไม่ได้ส่งกลับ หรือมีคำสั่งให้มีการสอบเพิ่มเติมแต่อย่างใด นายสำราญ กล่าวว่า สำนวนร้องเรียนที่กกต.กทม.เสนอไป กกต.กลางจะพิจารณาว่าเกี่ยวข้องทำให้การเลือกตั้งไม่สุจริตเที่ยงธรรมหรือไม่ตามที่มาตรา 17 พ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น 2562 กำหนด หากพบว่ามีผลทำให้การเลือกตั้งไม่สุจริตเที่ยงธรรมก็จะยังไม่ประกาศผลการเลือกตั้งโดยจะต้องไปดำเนินการสืบสวนสอบสวนต่อไป ซึ่งมีเวลา 60 วันตามที่กฎหมายกำหนด แต่ถ้าเรื่องร้องเรียนพิจารณาแล้วไม่ได้ทำให้การเลือกตั้งไม่สุจริตก็จะประกาศผลการเลือกตั้ง เมื่อถามว่าคนมองว่านายชัชชาติได้คะแนนเสียงเป็นล้านคะแนน หากพรุ่งนี้กกต.ไม่รับรองอาจไม่เป็นธรรม นายสำราญ กล่าวว่า กกต.จะดูว่าเรื่องร้องเรียนเป็นทำให้การเลือกตั้งไม่สุจริต เที่ยงธรรมหรือไม่ เป็นหลักการพิจารณาที่ใช้กับการเลือกตั้งทุกระดับ ไม่เกี่ยวว่าผู้ได้รับเลือกตั้ง หรือผู้สมัครได้คะแนนนิยมมากหรือน้อย แหล่งข่าวจากกกต.ระบุว่า กรณีดังกล่าวจะเข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมกกต.วันที่ 30 พ.ค. นี้โดยการพิจารณาประกาศผลการเลือกตั้งของ กกต.ยึดหลักว่าจะไม่ประกาศเมื่อมีเหตุที่เชื่อได้ว่าทำให้การเลือกตั้งไม่สุจริตเที่ยงธรรม เช่นพบมีการซื้อเสียง ไม่ใช่มีเรื่องร้องเรียน ร้องคัดค้านแล้วไม่ประกาศรับรองผลทันที เพราะกฎหมายให้อำนาจกกต.ในการสอบสวนเรื่องร้องเรียน ร้องคัดค้านภายหลังได้อยู่แล้ว ส่วนการเลือกตั้งนายกและสมาชิกสภาเมืองพัทยา มีปัญหาเรื่องบัตรหายซึ่งยังอยู่การตรวจสอบ สำนักงานกกต.จึงยังจะไม่มีการเสนอให้ที่ประชุมกกต.พิจารณา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เรื่องร้องเรียนผู้สมัครผู้ว่าฯกทม.และผู้สมัครส.ก.มีทั้งสิ้น24เรื่อง โดยนายชัชชาติ ถูกร้องเรียนใน 2 ประเด็นคือกรณีการจัดทำป้ายหาเสียงเข้าข่ายให้ เสนอให้ ประโยชน์อื่นใดอันอาจคำนวณเป็นเงินได้เพื่อจูงใจผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง และการพูดในลักษณะดูถูกระบบราชการ