ชาว ต.ชะอม อ.แก่งคอยสระบุรีเดือดร้อนปิดถนนประท้วงขอจุดกลับรถยูเทริน์หลังไปกลับไกลกว่า 8 กิโลเมตร วันที่ 27 พ.ค. 2565 เวลา 11.00 น.ที่บริเวณหลัก ก.ม.ที่ 19-20 ถนนสายแก่งคอย-บ้านนา ท้องที่ ต.ชะอม อ.แก่งคอย จ.สระบุรี พากันรวมตัวกันราว 300 คน เข้าชื่อ-ถือป้ายข้อความต่างๆ ถึงนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ปิดถนน (ชั่วคราว) เรียกร้องให้ แขวงการทางสระบุรี เปิดจุดกลับรถ ตรงบริเวณดังกล่าว เพื่อเป็นการสะดวกต่อการเข้าออกและสัญจรไป-มาของ ชาวบ้าน ม.1 และ ม.10 ใน ต.ชะอม ที่มีบ้านพักในหมู่บ้าน (ตาดเหนือ/ตาดใต้)หลายร้อยครัวเรือน ประชากร หลายพันคน ที่ยึดอาชีพ ทำการเกษตร ปลูกไม้ขุดล้อม และปลูกสวนผลไม้ ซึ่งได้รับความเดือดร้อน จากการที่มีการก่อสร้างขยายผิวการจราจรจาก 2 เลนเป็น 4 เลน เพิ่มเกาะกลางถนนทำให้ไม่มีจุดกลับรถ โดยมี นายทองย้อย กองแก้ว อายุ 58 ปี พักอยู่บ้านเลขที่ 230 ม.10 ต.ชะอม เจ้าของแผงไม้(ขุดล้อม) กองแก้ว เป็นแกนนำ และมีนายพยุง เชียงทอง นายก อบต.ชะอม มาร่วมสังเกตการณ์ ซึ่งระหว่างการชุมนุมมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แก่งคอย ฝ่ายความมั่นคง เดินทางมาคอยอำนวยความสะดวกรักษาความสงบเรียบร้อยด้วย นายทองย้อย กองแก้ว แกนนำผู้ชุมนุมเปิดเผยว่า การรวมตัวกันมาเรียกร้องครั้งนี้ สืบเนื่องจาก ชาวบ้าน กำลังได้รับความเดือดร้อนจากการที่ มีการก่อสร้างขยายผิวการจราจรบนถนนสายแก่งคอย-บ้านนา จาก 2 เลน เป็น 4 เลน มีเกาะกลางถนน ส่งผลให้ไม่มีจุดกลับรถ ชาวบ้านตาดเหนือ/บ้านตาดใต้ ต.ชะอม และ ต.ท่ามะปราง อ.แก่งคอย สัญจรไป-มา อย่างยากลำบาก พ่อ-แม่ รับส่งลูกหลาน ไปโรงเรียนชาวบ้านไป ตลาดชะอม จะกลับเข้าหมู่บ้านต้องขับขี่รถย้อนศร เกือบ 1 ก.ม.เกรงได้รับอันตราย ปัจจุบัน ต.ชะอม ซึ่งเป็นแหล่งจำหน่าย “ไม้ขุดล้อม” แหล่งใหญ่ที่สุดในประเทศไทย มีผืนที่อยู่ติดกับแนวเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่สามารถปลุกผลไม้เช่น ทุเรียน มังคุด เงาะ มะปราง ได้ผลดี กำลังมีชื่อเสียง ก่อนหน้าต้องประสบกับภาวะเศรษฐกิจจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 เมื่อโควิด เริ่มดีขึ้นเศรษฐกิจกำลังฟื้นตัว ต้องประสบกับ ราคาน้ำมันแพง และ ความยากลำบากในการเดินทางสัญจรไป-มา เพราะไม่มีจุดกลับรถที่อยู่ห่างออกไปจากจุดทางเช้าหมู่บ้าน ถึง 4.4 ก.ม. ไป-กลับเกือบ 9 ก.ม. นอกจากอันตรายแล้ว ยังต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มจากเดิม ดังนั้นจึงขอเรียกร้องให้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องโปรด พิจารณาเปิดจุดกลับรถ ให้ชาวบ้านด้วย เสียงชาวบ้านอีกคน ร้อง ( อุ้มลูก ) แทนที่จะเปิดทางให้หน้าโรงเรียนไม่ถึงร้อยเมตร ต้องไปกลับรถไกลกว่า 4 กม.ต้องกลับรถวนไปวนมากว่าจะเข้าโรงเรียนได้ สรุปไปกลับ กว่า 8 กม. ซึ่งน้ำมันก็ลิตรละ 40 กว่าบาท ใช้เฉพาะกลับรถอย่างเดียวก็หมดแล้ว ทุกวันนี้แต่ละเดือนต้องคอยเติมน้ำมันอย่างเดียว เฉพาะลูกกินก็หมดแล้วยังจะมาเสียน้ำมันในการยูเทิร์นอีก ทำไมทาง ต.ชะอม กิโลหนึ่งก็มีแล้วทางกลับรถ ทำไมทางนี้ถึงไม่ยอมทำให้ ซึ่งแฟนตัวเองขับรถปูนก็เข้าไม่ได้แล้ว เพราะจะกลับรถทีไกลน้ำมันก็แพง ซึ่งทางบริษัทมีจำนวนลิตรของน้ำมันให้ ตอนนี้พ่อกับลูกไม่เคยได้เจอกันเลย ต่อมานายเผ่าเทพ ทามนตรี หัวหน้าหมวดการทางแก่งคอย เดินทางมารับข้อเรียกร้องจากชาวบ้าน และชี้แจง กับชาวบ้านผู้ชุมนุมว่า ขณะนี้ผู้รับเหมากำลังดำเนินการก่อสร้างใกล้แล้วเสร็จและจะมอบคืนพื้นที่ให้กับแขวงการทาง ในอีก 2 เดือนข้างหน้านี้ ซึ่งหลังจากตนรับเรื่องแล้วจะรีบ นำเสนอให้แขวงทางหลวงสระบุรีทราบ เพื่อนำมาพิจาณาและผลักดันแก้ไขปัญหาให้ พี่น้องประชาชนชาว ต.ชะอมโดยเร็ว ซึงชาวบ้าน ผู้ชุมนุม ต่างเรียกร้อง ผ่านนายเผ่าเทพ ว่า ชาวบ้านได้รับผลกระทบเดือดร้อนมากขอให้แขวงช่วยเปิดจุดกลับรถ “ชั่วคราว” ในทันทีเลยได้หรือไม่ ซึ่ง นายเผ่าเทพ ชี้แจงว่า ไม่สามารถ กระทำได้ เพราะผู้รับเหมาก่อสร้าง (เอกชน) ยังไม่คืนพื้นที่ แขวง ก็ยังไม่สามารถพิจารณาแก้ไขแบบหรือดำเนินการใดๆได้ โดย นายเผ่าเทพ ได้ ให้การยืนยันต่อผู้ชุมนุมว่าจะพยายามช่วยเหลือ และผลักดันเรื่องนี้อย่างเต็มที่ โดยให้หมายเลขโทรศัพท์ กับแกนนำผู้ชุมนุมไว้ติดต่อ และทวงถามความคืบหน้าทุกระยะ ทำให้ชาวบ้าน พอใจ แต่ยังคงกล่าวกับนายเผ่าเทพ ว่า หากยังคงไม่ได้รับการแก้ไข ความเดือดร้อนให้ชาวบ้าน ครั้งต่อไป จะนำรถบรรทุก ไม้ขุดล้อม รถยก รถบรรทุก จากแผงไม้ขุดล้อมที่มีอยู่ นับร้อยแห่งปิดถนนอย่างแน่นอน.