วันที่ 26 พฤษภาคม 2565 เวลาประมาณ 09.00 น. ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่บ้านเลขที่ 73 หมู่ที่ 7 ต.หนองนกไข่ อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ภายหลังจากที่ได้รับทราบว่า เมื่อคืนที่ผ่านมาเวลาประมาณ 21.00 น. ได้มีคนร้ายใช้อาวุธปืนไม่ทราบขนาดซุ่มยิงนายณรงค์ฤทธิ์ เกตุแก้ว อายุ 58 ปี เจ้าของบ้านหลังดังกล่าว โดยกระสุนปืน 1 นัด เข้าที่บริเวณศีรษะ ได้รับบาดเจ็บสาหัสและถูกนำตัวส่งเข้ารับการผ่าตัดที่โรงพยาบาล ขณะนี้ยังคงต้องรักษาตัวอยู่ในห้องไอ.ซี.ยู
จากการสอบถามนางสาวบี หลานสาวของผู้ได้รับบาดเจ็บเล่าว่า เมื่อคืนนี้ ตนเองกับตาและยายนั่งอยู่ด้วยกันที่บริเวณหน้าบ้าน โดยหลังจากที่ตากลับมาจากไปงานศพก็เข้าไปอาบน้ำแล้วก็มานั่งอ่านเอกสารบนเก้าอี้พลาสติกหน้าบ้าน ส่วนตนกับยายนั่งอ่านหนังสือและดูทีวีอยู่ไม่ไกลมากนัก จากนั้นสักพักก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้นจำนวน 1 นัด ก่อนที่ตาจะก้มหน้าลง จึงทำให้ทราบว่าถูกยิงเข้าที่บริเวณศีรษะ ก็ได้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่กู้ภัยในทันที ซึ่งตนและยายไม่ทราบว่าใครเป็นคนก่อเหตุ และไม่ทราบทิศทางของวิถีกระสุนว่ามาจากทางไหน เพราะตอนนั้นมืดมาก ได้ยินเพียงแค่เสียงปืนดังขึ้น 1 นัด เท่านั้น แต่ก็คาดว่าคนร้ายน่าจะซุ่มดักรออยู่ตรงสวนกล้วยไม้หน้าบ้าน ซึ่งมีระยะห่างจากจุดที่ตานั่งอยู่เกือบ 50 เมตร
ด้าน นางสาวบีฯยังบอกอีกว่า สำหรับตานั้น มีอาชีพทำสวน ค้าขายพืชผักผลไม้ และยังมีตำแหน่งเป็นเลขานุการนายก อบต.หนองนกไข่ (คนใหม่) นี้ด้วย โดยรับตำแหน่งมาเกือบ 1 ปีแล้ว ซึ่งโดยปกติตานั้นจะเป็นคนคุยสนุก อารมณ์ดี ไม่เคยพูดถึงปัญหาอะไรให้บรรดาลูกๆ หลานๆ ฟังเลย ส่วนใหญ่ตาจะปรึกษาปัญหากับยายเพียงคนเดียวเท่านั้น ดังนั้นทุกคนจึงไม่รู้ว่าตามีปัญหาอะไรกับใครที่ไหน จนทำให้ถูกคนร้ายมาซุ่มยิงเช่นนี้ แต่ทางญาติๆ ก็เชื่อกันว่าน่าจะเป็นประเด็นมาจากเรื่องการเมืองท้องถิ่นนั่นเอง ทั้งนี้ก็คงต้องขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยติดตามตัวคนร้ายมาให้ได้โดยเร็วที่สุด เพื่อจะได้ทราบถึงสาเหตุที่แท้จริง อีกทั้งตอนนี้ไม่เพียงแต่ตาเท่านั้นที่ได้รับอันตราย แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็ทำให้คนในครอบครัวและญาติๆ รู้สึกหวาดกลัวความไม่ปลอดภัยในชีวิตไปด้วยเช่นเดียวกัน
ขณะที่ พ.ต.อ.เสรีฐกาญจน์ จันทร์ด้วง ผกก.สภ.กระทุ่มแบน ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า หลังเกิดเหตุก็ได้มีการระดมทีมเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวน และสอบสวนของ สภ.กระทุ่มแบน และภูธรจังหวัดสมุทรสาคร ลงพื้นที่เพื่อเก็บรายละเอียดข้อมูลทั้งหมดให้ได้ครอบคลุมมากที่สุด รวมถึงหลักฐานของเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานด้วย ซึ่งทางผู้บังคับบัญชาก็ได้สั่งการให้เร่งคลี่คลายคดีให้ได้โดยเร็ว แต่ต้องทำงานภายใต้ความรอบคอบ รัดกุม และที่สำคัญคือการรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมดให้ได้มากที่สุด ทั้งพยานบุคคล และพยานสิ่งแวดล้อมอื่นๆ รวมถึงภาพจากกล้องวงจรปิดในบริเวณที่เกิดเหตุและเส้นทางการหลบหนีของคนร้าย ซึ่งก็ต้องขอเวลาให้เจ้าหน้าที่ตำรวจฯ ทำงานในส่วนตรงนี้ก่อนเพื่อจะได้ไม่กระทบต่อสำนวนคดี และนำไปสู่การตั้งประเด็นของการลอบยิงในครั้งนี้ได้ชัดเจนมากที่สุด โดยตอนนี้สันนิษฐานได้ว่า สาเหตุน่าจะมาจากความขัดแย้งส่วนตัว แต่จะเรื่องอะไรนั้นยังไม่สามารถระบุได้