เฟสบุ๊คไกรสร กองฉลาด โพสต์ข้อความว่า อุ๊ยพระบิดาพระองค์ลงทุนแจ้งความจับผู้ว่าชัยภูมิเลยรึขอรับ นับเป็นความภาคภูมิใจ ในชีวิตรับราชการ อย่างยิ่ง อิอิ จากนั้นก็มีสมาชิกออกมาคอมเมนท์เป็นจำนวนมาก ทั้งให้กำลังใจ และให้คำแนะนำ ในการโพสต์ข้อความของ แอดมิน บางรายก็แสดงความวิตกกังวล เกรงว่าผู้ว่าจะถูกฟ้อง บางรายก็ให้ข้อเสนอแนะว่าผู้ว่าอย่าไปพาดพิงพระมารดา และยังมีอีกหลาย คอมเม้นต์ ที่ยังไม่เชื่อว่าถ้าบิดาจะแจ้งความผู้ว่า เพื่อความกระจ่างและชัดเจน ผู้สื่อข่าวจึงสอบถามทางโทรศัพท์ ไปยัง พ.ต.อ.วัฒนชัย จันทาทุม ผกก.สภ.คอนสาร ได้รับ คำยืนยันว่า เป็นเครื่องจริง โดยพระบิดาได้มอบหมายให้ทนายความส่วนตัว เดินทางมาดำเนินการแจ้งความ ในข้อหา เป็นพนักงานของรัฐปฎิบัติหน้าที่มิชอบด้วยกฏหมาย ซึ่งในครั้งแรกที่ทนายความส่วนตัวของพระบิดาเดินทางมาถึง แจ้งความประสงค์จะแจ้งความดำเนินคดีทั้งสื่อมวลชนและหมอปลา แต่หลังจากที่พนักงานสอบสวนได้เจรจาพูดคุยพร้อมกับให้ คำแนะนำ ปรากฏว่าทนายความส่วนตัวของพระบิดาตัดสินใจแจ้งความเฉพาะ นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิเพียงคนเดียว พ.ต.อ.วัฒนชัย จันทาทุม ผกก.สภ.คอนสาร กล่าวเพิ่มเติมว่ากรณีที่ทนายความส่วนตัวของพระบิดาแจ้งความนี้ เป็นเศษส่วนตัวในฐานะที่เป็นคนไทยสามารถกระทำได้ ส่วนจะเข้าข้อกฎหมายใดนั้นก็ขึ้นอยู่ที่พยานหลักฐาน ในส่วนข้อกล่าวหาของเรื่องนี้ เข้าประเด็นของปปช. ซึ่งพนักงานสอบสวนก็จะทำการรวบรวมพยานหลักฐาน จากนั้นก็จะนำสำนวนทั้งหมดส่งมอบให้กับ ปปช. เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป เบื้องต้นได้สอบพยานฝ่าย ผู้ร้องไปแล้ว ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนของการเรียกพยานหลักฐานจากผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ ถึงบางส่วนพยานหลักฐานอยู่กับพนักงานสอบสวน สภ.คอนสารแล้ว จึงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเชิญตัวนายไกรสอน กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิมาให้ปากคำแต่อย่างใด ขณะที่ทางด้านนายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ ได้ออกมายอมรับกับผู้สื่อข่าวทางโทรศัพท์ว่าทราบเรื่องที่พระบิดามอบหมายให้ทนายไปแจ้งความจับที่ สภ.คอนสารแล้ว ไม่รู้สึกกังวลใดๆ เนื่องจากมั่นใจว่าตนปฏิบัติตามหน้าที่ ซึ่งก่อนที่ตนจะเข้าดำเนินการตรวจค้นนั้น มีกลุ่มของหมอปลาไปถึงพื้นที่ก่อนหน้านี้แล้ว และแจ้งมายังตน ตนในฐานะหน่วยงานภาครัฐที่รับผิดชอบก็ต้องปฏิบัติตามหน้าที่ ซึ่งหากตนไม่ไปตามที่ชาวบ้าน(หมอปลา)แจ้งมา ก็เท่ากับตนละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ผิดมาตรา 157 ทันที และในการเข้าตรวจค้นตนก็กระทำโดยละมุนละม่อม ให้เกียรติต่อสถานที่ ตรวจยึดพียงสิ่งของที่ผิดกฏหมายเบี้องต้นเท่านั้น ส่วนการตรวจค้นอย่างละเอียด ก็กระทำการโดยการขอหมายศาลเข้าดำเนินการ โดยมอบหมายให้รองผวจ.ทำหน้าที่แทน ก็ขอยืนยันทำตามขั้นตอนและถูกต้องไม่กังวลว่าจะถูกฟ้องอีกด้วย