ความคืบหน้ากรณีเพจ “อยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทริน์ part 3” ได้โพสต์คลิปเด็กนักเรียนชายโรงเรียนสุรนารีวิทยา 2 (ส.ร.น 2) ต.หนองกระทุ่ม อ.เมือง จ.นครราชสีมา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษานครราชสีมา (สพม.นม.) ซึ่งเป็นโรงเรียนขนาดใหญ่และยอดนิยมของท้องถิ่น ในระหว่างเสร็จภารกิจรวมตัวเข้าแถวเคารพธงชาติพร้อมสวดมนต์และฟังโอวาทของผู้บริหาร ได้มีครูผู้ชายสอนวิชาพลศึกษาและทำหน้าที่ฝ่ายปกครองใช้กรรไกรตัดกล้อนผมนักเรียนชั้น ม.2 นับสิบคนจนผมแหว่ง ซึ่งเพจระบุข้อความ เปิดเทอมใหม่กับปัญหาเดิมๆ ที่มีทุกปี ทรงผมกับการตัดของครู น้องๆ เรียกร้องสิทธิทางโรงเรียนต่างๆ ก็สื่อสารประชาสัมพันธ์กฎระเบียบและทำความเข้าใจในกฎกระทรวงทั้งตัวน้องๆ และครูอาจารย์โรงเรียนด้วย มันไม่สมควร โดนเลยค่ะ แล้วนักเรียนจะแก้ทรงยังไง แล้วเสียความมั่นใจในตัวเองอีกครูทำแบบนี้ไปเพื่อไรคะ #โรงเรียนย่านหลังเดอะมอลล์โคราช” หลังคลิปถูกแชร์ต่อกันได้มีการแสดงความคิดเห็นและวิพากษ์วิจารณ์ส่วนใหญ่ระบุเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสมและเป็นการละเมิดสิทธิของเด็กนักเรียน ล่าสุด เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 23 พฤษภาคม นายทวีศักดิ์ สมนอก รอง ผอ.สพม.นม. พร้อมนายพิษณุ คุณชื่น ผู้อำนวยการ รร.ส.ร.น 2 ได้เชิญผู้ปกครองและนักเรียนชั้น ม. 2 ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ทั้งทางตรงและทางอ้อมจำนวน 29 คน มาพูดคุยและทำความเข้าใจกับระเบียบของกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) บรรยากาศเป็นไปอย่างชื่นมื่น ครูที่เป็นคู่กรณีได้กล่าวขอโทษผู้ปกครองและนักเรียนซึ่งเข้าใจกับบริบทที่เกิดขึ้นและยืนยันไม่ติดใจต่อการกระทำเพียงแต่กำชับอย่าให้มีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอีก จากนั้นได้มีทำบันทึกลายลักษณ์อักษร เพื่อสร้างความสบายใจให้ทั้งสองฝ่าย นายพิษณุ ผอ.รร.ส.ร.น 2 เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุการณ์ได้เรียกครูที่ปรากฏอยู่ในคลิปและเด็กนักเรียนที่ถูกกล้อนผมมาสอบถามข้อเท็จจริง ซึ่งครูยอมรับผิดและกล่าวขอโทษเด็กนักเรียนทุกคน จากนั้นได้ทำบันทึกเป็นลายลักษณ์อักษรว่ากล่าวตักเตือนโดยครูคนดังกล่าวรับปากจะไม่กระทำการเช่นนี้อีกรวมทั้งได้รายงานเรื่องราวให้ สพม.นม.รับทราบแล้ว ครูมีความตั้งใจอยากให้เด็กนักเรียนเรียบร้อยและอยู่ในกฎ ระเบียบวินัยเลยกระทำการลงไป ซึ่งตนได้กำชับให้ครูและบุคลากรระมัดระวังการพูดคุยและการลงโทษเด็กนักเรียนและให้ถือปฏิบัติตามกฎระเบียบอย่างเคร่งครัด ด้านนายทวีศักดิ์ รอง ผอ.สพม.นม. กล่าวว่า ได้เน้นย้ำการลงโทษนักเรียน มีเพียง 4 สถานเท่านั้น คือ ว่ากล่าวตักเตือน,ทำทัณฑ์บน,ตัดคะแนนความประพฤติและทำกิจกรรม เพื่อให้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม อีกทั้งการลงโทษตามระเบียบมีเจตนาเพียงเพื่อให้ครูใช้แก้นิสัยและความประพฤติไม่ดีของนักเรียนให้รู้สำนึกในความผิดและกลับมาประพฤติตนในทางที่ดีต่อไป มิใช่การลงโทษด้วยวิธีรุนแรงหรือแบบกลั่นแกล้งหรือลงโทษด้วยความโกรธหรือด้วยความพยาบาท ได้สั่งการให้ครูและบุคลากรของโรงเรียนมัธยมศึกษา 50 แห่ง ในสังกัด สพม.นม. เข้าใจตรงกัน การลงโทษนักเรียนด้วยการตัดผม รวมถึงการใช้ความรุนแรงอื่น เช่น การใช้ไม้เรียว การหยิก ตบ ตีร่างกายหรือการประจานให้อับอาย ฯลฯ ถือเป็นการละเมิดสิทธิทั้งทางร่างกายและจิตใจของนักเรียนและไม่สามารถกระทำการลงโทษได้ เพราะขัดต่อระเบียบของ ศธ.และผิดกฎหมาย