ที่จ.อุดรธานี มีผู้ปกครองเด็กอายุ 12 ปี คาใจ ทำไมโรงเรียนไม่รีบเรียกรถพยาบาลมารับหลานที่แขนหักทันที ติครูขาดความรู้ในการปฐมพยาบาลเบื้องต้น แนะโรงเรียนซ้อมแผนเผชิญเหตุและให้ความรู้กับครู ด้าน ผอ.แจงครูตัดสินใจเองเลยล่าช้า และมีผู้ปกครองมาถึงก่อนรถพยาบาลจึงให้ผู้ปกครองพาไปรักษาเอง วันนี้ (20 พ.ค.65) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ใช้เฟสบุ๊คชื่อ Watcharagorn Chaiwan ได้โพสต์รูปและข้อความ โดยระบุว่า โรงเรียนประถมชื่อดัง ในเมืองอุดรปล่อยให้นักเรียนแขนหักผิดรูปนอนเจ็บปวดในห้องพยาบาลของโรงเรียนเป็นชั่วโมง ครูโทรให้ผู้ปกครองมารับพาไปโรงพยาบาลเอง เค้นถาม สาเหตุ บอกว่า อยู่ในช่วงเปลี่ยนประกันภัย เด็กไม่มีประกัน ขอถามนะครับ 1. ชีวิตเด็ก มันไม่สำคัญเหร๋อครับ รู้ทั้งรู้ว่า แขนผิดรูป ทำไมไม่โทรเรียกรถพยาบาล หรือกู้ภัยให้นำคนเจ็บส่งโรงพยาบาลโดยด่วน 2. ทำไมแค่โรงเรียนยังไม่ทำประกันอุบัติเหตุ 3. แค่รู้ว่าไม่มีประกัน ทำไมไม่ยอมพาเด็กไปโรงพยาบาล 4. ครูห้องพยาบาล มีความรู้หรือไม่ ทำไมไม่ประเมินเด็ก และทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้น หรือถ้าทำไม่เป็นทำไมไม่แจ้ง 1669 พวกคุณสมควรเป็นครูอยู่มั้ย ปล่อยให้เด็ก ป.4 ต้องทรมานเป็นชั่วโมง รู้มั้ยครับ ว่า ตากับยาย แก่ๆต้องพาหลานไปโรงพยาบาลเอง ต่อมาผู้สื่อข่าวจึงติอต่อเข้าสอบถามกรณีดังกล่าว นายศมกร ไชยสุรินทร์ อายุ 69 ปี คุณตาและนายวัชรากร ไชยวาน อายุ 33 ปี คุณน้า เปิดเผยว่า ก่อนอื่นต้องขอออกตัวไว้ก่อนว่าอุบัติเหตุครั้งนี้เราไม่ได้โทษโรงเรียน เพียงแต่เรามีความรู้สึกคาใจว่าเด็กที่ประสบอุบัติเหตุควรจะได้รับการดูแลเร่งด่วนและอย่างดี เด็กประสบอุบัติเหตุได้รับบาดเจ็บแขนหัก แต่กลับให้คุณตาไปรับเพื่อส่งโรงพยาบาล ซึ่งทันที่ที่พาตัวเด็กไปถึงโรงพยาบาลเจ้าหน้าที่พยาบาลเห็นยังบอกเลยว่าเด็กมีแขนผิดรูป รีบนำไปเอกซเรย์ดูรีบตรวจดูทันที ล่าสุดอาการของหลาน แขนยังบวมมีอาการผิดรูป กำลังรอแพทย์ผ่าตัด และมีอาการเจ็บแผลมาก ซึ่งโรงเรียนได้ให้ครูเข้าไปเยี่ยมแล้วที่โรงพยาบาลอุดรธานี อยากจะถามกลับไปยังทางโรงเรียนว่า ครูคิดเห็นอย่างไรในการที่เอาเด็กไปนอนอยู่ห้องพยาบาลทั้งที่เด็กมีอาการเจ็บมากแล้วไม่ยอมโทรแจ้งรถพยาบาลให้มารับตัว ความเป็นจริงแล้วโรงเรียนที่ตั้งอยู่ในเมืองโทรเรียกรถพยาบาลไม่เกิน 5 นาทีรถพยาบาลก็จะมาถึง แต่กลับโทรหาผู้ปกครองในเวลา 15:58 น กว่าคุณตาจะขับรถออกจากบ้านไปถึงโรงเรียนก็ 16:40 น กว่าแล้ว เพราะช่วงเวลานี้เป็นช่วงเวลาที่รถติดทุกโรงเรียนเลิกเรียน เท่าที่สอบถามหลานรู้ว่าหลานกระโดดเล่นที่บริเวณอัศจรรย์แล้วพลัดตกลงมา จากนั้นแขนงัดกับอัศจรรย์ ซึ่งเหตุเกิดเวลาประมาณ 15:00 น ซึ่งเป็นเวลาเลิกเรียนและกำลังรอผู้ปกครองมารับ "ฝากเคสนี้เป็นอุทาหรณ์และขอให้เกิดเคสนี้เป็นเคสสุดท้าย" หากเกิดเคสต่อไปก็อยากให้ครูสามารถดูแลเด็กมากกว่านี้ อยากให้ทางโรงเรียนซักซ้อมแผนรับมือแผนเผชิญเหตุ ซ้อมการประสบภัยกรณีต่างๆ โรงเรียนควรจะมีหลักสูตรนี้เพื่อพัฒนาบุคลากรให้สามารถเผชิญเหตุได้ ขอฝากไปยังกระทรวงศึกษาธิการควรหันกลับมามองถึงปัญหาเรื่องการส่งต่อผู้ป่วยหากไม่มีพยาบาลก็ให้ครูมีความรู้เบื้องต้นในการปฐมปฐมพยาบาล กรณีนี้โรงเรียนแห่งนี้เป็นโรงเรียนขนาดใหญ่น่าจะมีความพร้อมมากกว่านี้ และฝากถึงโรงเรียนที่อยู่ในประเทศไทยทุกโรงเรียน ถ้าครูบุคลากรไม่มีความรู้ด้านการปฐมพยาบาลกรณีเด็กได้รับบาดเจ็บและอันตราย เราไม่รู้ว่าเด็กเจ็บตรงไหนให้รีบโทรแจ้ง 1669 คนที่มีความรู้เขาจะเข้ามาประเมินอาการเพื่อให้ผู้ได้รับบาดเจ็บมีความปลอดภัย ด้านนายสมพงษ์ พลบูรณ์ ผู้อำนวยการโรงเรียน บอกว่า กรณีนี้นั้นเป็นช่วงที่เด็กเลิกเรียน แล้วมีการไปเล่นกันที่บริเวณอัศจรรย์ โดยวิ่งหยอกล้อเล่นกันกับเพื่อนเพื่อรอผู้ปกครองมารับ ระหว่างนั้นเด็กจึงพลัดตกลงมารู้สึกว่าแขนจะเข้าไปงัดกับอะไรสักอย่าง เพื่อนจึงพาไปปฐมพยาบาลที่เรือนพยาบาล และครูได้ปฐมพยาบาลให้เบื้องต้น จากนั้นครูจึงโทรแจ้งรถพยาบาลและผู้ปกครองพร้อมกัน แต่ผู้ปกครองมาถึงก่อนจึงให้รับเด็กไปก่อน กรณีประกันภัยอุบัติเหตุนั้น ขอชี้แจงว่า ประกับอุบัติเหตุหมู่เราทำให้อยู่แล้วโดยไม่ได้ขาดต่อประกันและไม่ได้เป็นปัญหาแต่อย่างใด ล่าสุดหลังเกิดเรื่องตนเองได้เชิญคณะบุคลากรและครูมาหารือ โดยสั่งการไปว่า หากเกิดเหตุการณ์และหากตัดสินใจไม่ได้ให้โทรประสานผู้อำนวยการเป็นการเร่งด่วน เพื่อที่จะได้ตัดสินใจให้ชัดเจนขึ้น กรณีนี้ครูตัดสินใจเองจึงทำให้เหตุการณ์ล่าช้า ทั้งนี้ทางโรงเรียนมีแผนรับมือกรณีเกิดอุบัติเหตุแบบนี้อยู่แล้ว โดยหากเกิดเหตุเราจะโทรประสานกับทางโรงพยาบาลให้มารับและแจ้งให้ญาติรับรู้ ++++++++++