เมืองพัทยาเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงระดับโลก แต่ละปีจะมีการสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวนับแสนล้านบาท จากนักท่องเที่ยวถึง 10 กว่าล้านคนต่อปี ตั้งแต่อดีตที่ผ่านมาเมืองพัทยาเป็นเพียงเมืองชายทะเลขนาดเล็กที่มีการปกครองในระบบสุขาภิบาล ก่อนจะปรับเปลี่ยนมาเป็นการปกครองในรูปแบบผู้จัดการเมืองพัทยา หรือ CITY MNANAGER ตามแบบของการปกครองในประเทศสหรัฐอเมริกา แต่ปรากฏว่าการเลือกตั้งนายกเมืองพัทยาไม่ได้เข้ามาทำหน้าที่บริหารโดยตรงแต่กลับเป็นปลัดเมืองพัทยาที่มาจากการว่าจ้าง จึงมีปัญหาการบริหารมาโดยตลอด
กระทั่งมีการนำเสนอให้ปรับเปลี่ยนรูปแบบการปกครองใหม่มาเป็นรูปแบบพิเศษเหมือน กทม.ในปี 2542 ที่มีการเลือกตั้งนายกเมืองพัทยาโดยตรง และสมาชิกสภาเมืองพัทยาที่ทำหน้าที่ฝ่ายนิติบัญญัติอีก 4 เขตเลือกตั้ง โดยนายกเมืองพัทยาจะเป็นผู้ว่าจ้างรองนายกเมืองพัทยาขึ้นมาช่วยในการบริหาร งานถึง 4 ตำแหน่ง โดยการปกครองในรูปแบบพิเศษนี้เมืองพัทยามีสิทธิ์พิเศษในการนำเสนอขอจัดสรรงบประมาณจากรัฐบาลโดยตรงเฉลี่ยปีละ 2,000 ล้านบาท ด้วยมองเห็นว่ามีศักยภาพในการเป็นเมืองระดับนานาชาติ และมีการวางแผนที่จะปรับเปลี่ยนเมืองพัทยาให้เป็นศูนย์กลางทางการลงทุนและการท่องเที่ยวของ EEC โดยมีการทุ่มงบประมาณนับหมื่นล้านบาทในการพัฒนาระบบขนส่ง สาธารณูปโภคมากมาย อาทิ รถฟ้าความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน การพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาให้เป็นสนามบินพานิชย์แห่งที่ 3 ของประเทศ การสร้างศูนย์ซ่อมอากาศยานขนาดใหญ่ รวมไปถึงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง และท่าเรือนำลึกในพื้นที่อำเภอสัตหีบให้มีศักยภาพในการรองรับการเดินทางและขนส่งได้
แต่จากปัญหาทางด้านการเมืองที่ผ่านมารับตั้งแต่การทำรัฐประหารในปี 2557 เมืองพัทยาห่างหายจากการเลือกตั้งมานานกว่า 10 ปี เนื่องจากถูกแทรกแซงโดยคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) โดยนายกเมืองพัทยาคนสุดท้ายได้แก่ นายอิทธิพล คุณปลื้ม ซึ่งผ่านการเลือกตั้งครั้งสุดท้ายมาในปี 2552 ดังนั้นนการเลือกตั้งใหม่ครั้งนี้จึงถือเป็นหน้าประวัติศาสตร์ที่ประชาชนชาวเมืองพัทยาที่มีสิทธิ์ มีเสียงในการเลือกตั้งกว่า 74,000 คน จะมีโอกาสในการเลือกตั้งนายกและสมาชิกสภาเมืองพัทยาเป็นครั้งแรก โดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่นที่เพิ่งเข้าเกณฑ์การเลือกตั้งที่มีกว่า 1,500 ราย และกลุ่มที่ครบอายุแต่ไม่ทันการเลือกตั้งเมื่อ 10 ปีที่ผ่านมา อีกจำนวนมาก
การเลือกตั้งครั้งใหม่นี้มีผู้สมัครทั้งสิ้น 4 ราย รายแรกเบอร์ 1 นายปรเมศวร์ งามพิเชษฐ์ จากกลุ่มเรารักพัทยา ซึ่งถือเป็นกลุ่มในการสนับสุนนของนายสนธยา คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยาคนล่าสุดที่ได้รับการแต่งตั้งจาก คสช.ที่ครั้งนี้ตัดสินใจไม่ลงสมัครลงชิงตำแหน่ง เบอร์ 2 ได้แก่ นายศักดิ์ชัย แตงฮ่อ อดีตนายอำเภอบางละมุงแหวนเพชร และอดีตรองอธิบดีกรมการปกครอง ส่วนเบอร์ 3 จากพรรคก้าวหน้า ที่สนับสนุนโดยนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ คือนาย กิตติศักดิ์ นิลวัฒโฆชัย ที่หวังคนรุ่นใหม่ หัวก้าวหน้า ที่มุ่งเปลี่ยนแปลงเมืองพัทยา สุดท้ายกับนายสินธฺไชย วัฒนศาสตร์สาธร อดีตนายกสมาคมนักธุรกิจและการท่องเที่ยวเมืองพัทยา 2 สมัย น้องชาย นายนิรันดร์ วัฒนศาสตร์สาธร อดีตนายกเมืองพัทยา ที่ประกาศถึงเจตนารมณ์ในการลงสมัครครั้งนี้ว่าทนสภาพความเสื่อมโทรมของเมืองพัทยาไม่ไหว และต้องการให้เมืองพัทยากลับมาปกครองโดยคนท้องถิ่นที่รู้ปัญหาเป็นอย่างดี ส่วนผลการเลือกตั้งจะเป็นอย่างไรวันอาทิตย์ที่ 22 พฤษภาคมนี้ ตั้งแต่เวลา 08.00-17.30 น.ก็จะทราบผลอย่างเป็นทางการ
++++++++++
กระทั่งมีการนำเสนอให้ปรับเปลี่ยนรูปแบบการปกครองใหม่มาเป็นรูปแบบพิเศษเหมือน กทม.ในปี 2542 ที่มีการเลือกตั้งนายกเมืองพัทยาโดยตรง และสมาชิกสภาเมืองพัทยาที่ทำหน้าที่ฝ่ายนิติบัญญัติอีก 4 เขตเลือกตั้ง โดยนายกเมืองพัทยาจะเป็นผู้ว่าจ้างรองนายกเมืองพัทยาขึ้นมาช่วยในการบริหาร งานถึง 4 ตำแหน่ง โดยการปกครองในรูปแบบพิเศษนี้เมืองพัทยามีสิทธิ์พิเศษในการนำเสนอขอจัดสรรงบประมาณจากรัฐบาลโดยตรงเฉลี่ยปีละ 2,000 ล้านบาท ด้วยมองเห็นว่ามีศักยภาพในการเป็นเมืองระดับนานาชาติ และมีการวางแผนที่จะปรับเปลี่ยนเมืองพัทยาให้เป็นศูนย์กลางทางการลงทุนและการท่องเที่ยวของ EEC โดยมีการทุ่มงบประมาณนับหมื่นล้านบาทในการพัฒนาระบบขนส่ง สาธารณูปโภคมากมาย อาทิ รถฟ้าความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน การพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาให้เป็นสนามบินพานิชย์แห่งที่ 3 ของประเทศ การสร้างศูนย์ซ่อมอากาศยานขนาดใหญ่ รวมไปถึงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง และท่าเรือนำลึกในพื้นที่อำเภอสัตหีบให้มีศักยภาพในการรองรับการเดินทางและขนส่งได้
แต่จากปัญหาทางด้านการเมืองที่ผ่านมารับตั้งแต่การทำรัฐประหารในปี 2557 เมืองพัทยาห่างหายจากการเลือกตั้งมานานกว่า 10 ปี เนื่องจากถูกแทรกแซงโดยคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) โดยนายกเมืองพัทยาคนสุดท้ายได้แก่ นายอิทธิพล คุณปลื้ม ซึ่งผ่านการเลือกตั้งครั้งสุดท้ายมาในปี 2552 ดังนั้นนการเลือกตั้งใหม่ครั้งนี้จึงถือเป็นหน้าประวัติศาสตร์ที่ประชาชนชาวเมืองพัทยาที่มีสิทธิ์ มีเสียงในการเลือกตั้งกว่า 74,000 คน จะมีโอกาสในการเลือกตั้งนายกและสมาชิกสภาเมืองพัทยาเป็นครั้งแรก โดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่นที่เพิ่งเข้าเกณฑ์การเลือกตั้งที่มีกว่า 1,500 ราย และกลุ่มที่ครบอายุแต่ไม่ทันการเลือกตั้งเมื่อ 10 ปีที่ผ่านมา อีกจำนวนมาก
การเลือกตั้งครั้งใหม่นี้มีผู้สมัครทั้งสิ้น 4 ราย รายแรกเบอร์ 1 นายปรเมศวร์ งามพิเชษฐ์ จากกลุ่มเรารักพัทยา ซึ่งถือเป็นกลุ่มในการสนับสุนนของนายสนธยา คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยาคนล่าสุดที่ได้รับการแต่งตั้งจาก คสช.ที่ครั้งนี้ตัดสินใจไม่ลงสมัครลงชิงตำแหน่ง เบอร์ 2 ได้แก่ นายศักดิ์ชัย แตงฮ่อ อดีตนายอำเภอบางละมุงแหวนเพชร และอดีตรองอธิบดีกรมการปกครอง ส่วนเบอร์ 3 จากพรรคก้าวหน้า ที่สนับสนุนโดยนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ คือนาย กิตติศักดิ์ นิลวัฒโฆชัย ที่หวังคนรุ่นใหม่ หัวก้าวหน้า ที่มุ่งเปลี่ยนแปลงเมืองพัทยา สุดท้ายกับนายสินธฺไชย วัฒนศาสตร์สาธร อดีตนายกสมาคมนักธุรกิจและการท่องเที่ยวเมืองพัทยา 2 สมัย น้องชาย นายนิรันดร์ วัฒนศาสตร์สาธร อดีตนายกเมืองพัทยา ที่ประกาศถึงเจตนารมณ์ในการลงสมัครครั้งนี้ว่าทนสภาพความเสื่อมโทรมของเมืองพัทยาไม่ไหว และต้องการให้เมืองพัทยากลับมาปกครองโดยคนท้องถิ่นที่รู้ปัญหาเป็นอย่างดี ส่วนผลการเลือกตั้งจะเป็นอย่างไรวันอาทิตย์ที่ 22 พฤษภาคมนี้ ตั้งแต่เวลา 08.00-17.30 น.ก็จะทราบผลอย่างเป็นทางการ
++++++++++