วันที่ 19 พฤษภาคม 2565 เวลา 14.30 น. ศูนย์บัญชาเหตุการณ์ตอบโต้โรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จ.นครราชสีมา รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคติดต่อร้ายแรงในพื้นที่ 32 อำเภอ พบผู้ป่วยรายใหม่ 1,595 ราย รักษาอยู่ 16,943 ราย รักษาหาย 145,161 ราย ป่วยสะสม 162,353 ราย เสียชีวิตรายใหม่ 5 ราย เป็นหญิงอายุ 81 ปี ต.โนนตาเถร อ.โนนแดง รับวัคซีน 1 เข็ม ชายอายุ 77 ปี ต.บัวลาย อ.บัวลาย ประวัติเป็นโรคความดันโลหิตสูง รับวัคซีน 2 เข็ม หญิงอายุ 47 ปี ต.ธงชัยเหนือ อ.ปักธงชัย ประวัติเป็นผู้ป่วยติดเตียง ไม่เคยรับวัคซีน ชายอายุ 82 ปี ต.ด่านนอก อ.ด่านขุนทด ประวัติโรคประจำตัวความดันโลหิตสูง รับวัคซีน 3 เข็ม และชาย อายุ 70 ปี ต.หนองสาหร่าย อ.ปากช่อง ประวัติโรคประจำตัวความดันโลหิตสูง ไม่เคยรับวัคซีน เสียชีวิตสะสม 249 ราย
ด้านนายวิเชียร จันทรโณทัย ผวจ.นครราชสีมา ในฐานะประธานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า ถือเป็นข่าวดีของชาวโคราช เร็วๆนี้ ศบค.ส่วนกลาง จะประกาศให้ จ.นครราชสีมา ซึ่งผ่านเกณฑ์การประเมินของ ท.ท.ท ให้เป็นพื้นที่นำร่องท่องเที่ยวหรือพื้นที่สีฟ้าที่มีการผ่อนคลายกิจกรรมทางสังคมสามารถรวมกลุ่มได้ตามความเหมาะสม
ส่วนการเตรียมเป็นโรคประจำถิ่น ชาวโคราชต้องฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นให้มากที่สุด ซึ่งมีตัวเลขประมาณร้อยละ 30 โดยเฉพาะกลุ่มเด็กยังมีจำนวนค่อนข้างต่ำ เราตั้งเป้าหมายภายในเดือนมิถุนายนนี้ ต้องมีจำนวนไม่ต่ำกว่าร้อยละ 50 ขณะนี้ทุกภาคส่วนได้จัดกิจกรรมเชิงรุกลงพื้นที่รณรงค์พร้อมอำนวยความสะดวกรูปแบบ “นำเข็มไปหาแขน” ระดมอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) เจ้าหน้าที่งานปกครอง องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) และบุคลากรสาธารณสุขออกเดินเคาะประตูบ้าน เพื่อให้บริการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นให้ครอบคลุมมากที่สุดและหากรวมกลุ่ม 4-5 คน ก็จะมีเจ้าหน้าที่ให้บริการฉีดวัคซีนที่บ้านทันทีและเมื่อเข้าสู่โรคประจำถิ่น พี่น้องประชาชนการ์ดต้องไม่ตกและดำเนินชีวิตตามมาตรการสาธารณสุข เพื่อป้องกันการแพร่ระบาด ต่อไปสภาพเศรษฐกิจก็ฟื้นตัวขึ้น
ด้านนายวิเชียร จันทรโณทัย ผวจ.นครราชสีมา ในฐานะประธานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า ถือเป็นข่าวดีของชาวโคราช เร็วๆนี้ ศบค.ส่วนกลาง จะประกาศให้ จ.นครราชสีมา ซึ่งผ่านเกณฑ์การประเมินของ ท.ท.ท ให้เป็นพื้นที่นำร่องท่องเที่ยวหรือพื้นที่สีฟ้าที่มีการผ่อนคลายกิจกรรมทางสังคมสามารถรวมกลุ่มได้ตามความเหมาะสม
ส่วนการเตรียมเป็นโรคประจำถิ่น ชาวโคราชต้องฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นให้มากที่สุด ซึ่งมีตัวเลขประมาณร้อยละ 30 โดยเฉพาะกลุ่มเด็กยังมีจำนวนค่อนข้างต่ำ เราตั้งเป้าหมายภายในเดือนมิถุนายนนี้ ต้องมีจำนวนไม่ต่ำกว่าร้อยละ 50 ขณะนี้ทุกภาคส่วนได้จัดกิจกรรมเชิงรุกลงพื้นที่รณรงค์พร้อมอำนวยความสะดวกรูปแบบ “นำเข็มไปหาแขน” ระดมอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) เจ้าหน้าที่งานปกครอง องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) และบุคลากรสาธารณสุขออกเดินเคาะประตูบ้าน เพื่อให้บริการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นให้ครอบคลุมมากที่สุดและหากรวมกลุ่ม 4-5 คน ก็จะมีเจ้าหน้าที่ให้บริการฉีดวัคซีนที่บ้านทันทีและเมื่อเข้าสู่โรคประจำถิ่น พี่น้องประชาชนการ์ดต้องไม่ตกและดำเนินชีวิตตามมาตรการสาธารณสุข เพื่อป้องกันการแพร่ระบาด ต่อไปสภาพเศรษฐกิจก็ฟื้นตัวขึ้น