หญิงวัย 44 ชาว​ บุรีรัมย์ ที่รับโอนเงินผิดบัญชีเกือบ 3 แสนบาท​ ปิดล็อกบ้านเงียบไม่รู้หายไปไหน ปล่อยแมวทิ้งไว้ 3 ตัว เพื่อนบ้านสงสารช่วยดูแลให้น้ำอาหาร –อาหารแทน ผญบ.เผยเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อนผู้เสียหายได้มาหาคู่กรณีถึงที่บ้านแต่ไม่เจอ แต่ตอนนี้ก็ยังไม่มี ตร.มาติดต่อประสานส่งหมายเรียก ความคืบหน้ากรณีที่ น.ส.วิราวรรณ ชวดพงษ์ อายุ 40 ปี ชาว ต.บางหญ้าแพรก อ.เมือง จ.สมุทรสาคร ผู้ประกอบกิจการจำหน่ายอาหารทะเลแช่แข็ง และวัตถุดิบหมูกระทะทุกชนิด ได้เข้าแจ้งความที่ สภ.เมืองสมุทรสาคร ว่าเมื่อวันที่ 28 เม.ย.ที่ผ่านมา ได้โอนเงินผิดบัญชี โดยตั้งใจจะโอนเงินจ่ายค่าเนื้อหมูให้กับคู่ค้าคนหนึ่งยอดรวมจำนวน 293,439 บาท โดยโอนผ่านแอพพลิเคชั่น แต่กดเลขบัญชีผิดไปหนึ่งตัว จึงทำให้เงินไปเข้าบัญชีของนางเสาวณีย์ (ขอสงวนนามสกุล) ซึ่งปัจจุบันมีภูมิลำเนาอยู่ที่ ต.เสม็ด อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ หลังจากพยายามติดต่อกับนางเสาวนีย์ ก็ได้กลับเงินมาคืนแล้ว 160,000 บาท ยังคงเหลืออีก 133,439 บาท แต่นางเสาวนีย์อ้างว่าใช้เงินไปหมดแล้ว ล่าสุดทราบว่าพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสมุทรสาคร ได้ออกหมายเรียกนางเสาวนีย์ หญิงชาวจ.บุรีรัมย์ ซึ่งรับเงินโอนผิดบัญชีแล้ว วันนี้ (17 พ.ค.65) ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังบ้านหนองข่า​ หมู่​ 8​ ต.เสม็ด อ.เมือง จ.บรีรัมย์ อีกครั้งไต่ไม่พบนางเสาวนีย์ อยู่ที่บ้านพักแต่อย่างใด พบว่า​ ประตูบ้านล็อก จากการสอบถามเพื่อนบ้าน​ บอกว่า​ ไม่เจอทั้งนางเสาวนีย์ และสามีอยู่ที่บ้านมา 2 วันแล้ว แต่ก็ไม่รู้ว่าหายไปไหน​ พบเพียงแมว 3 ตัวอยู่ที่บ้านลำพัง เพื่อนบ้านเห็นแล้วสงสารจึงช่วยให้น้ำ และอาหารแทน เพราะกลัวแมวจะหิว จากการสอบถามนายตีน้อย วารัมย์ ผู้ใหญ่บ้านบ้านหนองข่า บอกว่า เมื่อ 2 สัปดาห์ก่อนทางผู้เสียหายจาก​ จ.สมุทสาคร ได้เดินทางมาหานางเสาวนีย์ ที่บ้านหลังดังกล่าว แต่ก็ไม่ได้เจอกันเพราะนางเสาวนีย์ไม่อยู่บ้าน แต่เห็นว่าทั้งสองได้มีการโทรศัพท์พูดคุยกันแล้วเบื้องต้น และเห็นว่ามีการคืนเงินกันไปแล้วบางส่วน จากนั้นตนก็ไม่ได้ติดตามเรื่องต่อเพราะคิดว่ามีการพูดคุยกันแล้ว กระทั่งเมื่อวานนี้ (16 พ.ค.65) ได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาถามหานางเสาวนีย์ ที่บ้านแต่ก็ไม่พบ มีเพียงสามีอยู่บ้าน แต่พอสอบถามสามีก็บอกว่าไม่รู้เรื่องกับภรรยา และไม่รู้ว่าภรรยาหายไปไหน เจ้าหน้าที่จึงแจ้งว่าหากพบตัวนางเสาวนีย์ ให้ช่วยแจ้งว่าให้ไปพบเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วย เพื่อจะได้พูดคุยเกี่ยวกับกรณีที่เกิดขึ้น แต่จนถึงวันนี้ก็ยังไม่พบนางเสาวนีย์ แต่อย่างใด ซึ่งเรื่องดังกล่าวแม้จะเป็นเรื่องส่วนตัว แต่ในฐานะผู้ใหญ่บ้านเมื่อเจ้าหน้าที่มาติดต่อสอบถาม ตนเองก็ต้องให้ความร่วมมือและอำนวยความสะดวก แต่จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่เห็นมีเจ้าหน้าที่มาติดต่อประสานเรื่องการส่งหมายเรียกให้กับนางเสาวนีย์ แต่อย่างใด แต่หากมีหมายเรียกมาจริงเจ้าหน้าที่ก็คงมาแจ้งเพื่อให้ช่วยประสานลูกบ้าน หรือญาติเพื่อเซ็นรับหมายเรียกตามขั้นตอน ++++++