เมื่อวันที่ 13 พ.ค.65 ร.ต.ท.เอกลักษณ์ วงศ์ษา รอง สว.(สอบสวน) สภ.ขลุง จ.จันทบุรี ได้รับแจ้งเหตุ มีชาวบ้านถูกคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงเสียชีวิต ภายในบ้านกลางสวนผลไม้ บ้านวันยาว ต.ซึ้ง อ.ขลุง จ.จันทบุรี โดยคนร้ายเป็นชาย 1 ราย หลังก่อเหตุได้ขับรถกะบะอีซูซุ สีบรอนซ์ ทะเบียน ผฉ-8196 นครศรีธรรมราช หลบหนีไปทางโรงเรียนขลุงรัชดาภิเษก เจ้าหน้าที่ได้วิทยุแจ้งประสานกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ใกล้เคียง ตั้งด่านตรวจสกัด ทั้งถนนสายหลักและสายรอง ที่คาดว่าคนร้ายจะหลบหนี จากนั้นจึงลงพื้นที่ตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.ชัชวาล โตโสภณ ผกก.สภ.ขลุง เจ้าหน้าที่วิทยาการกองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์เวรโรงพยาบาลขลุง และกำลังเจ้าหน้าที่กู้ชีพ ขลุงมูลนิธิ ที่เกิดเหตุเป็นบ้านพักชั้นเดียว พบศพ นายเรืองศักดิ์ อายุ 60 ปี เป็นเจ้าของบ้าน นอนเสียชีวิตจมกองเลือด มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบชนิด เข้าที่กลางหลัง 2 นัด ทะลุหน้าอก ที่บริเวณโคนขาด้านซ้าย 1 นัด และ เอวด้านขวาอีก 1 นัด รวม 4 นัด นอกจากนี้ยังพบปลอกกระสุนปืนขนาด 9 มม. ตกอยู่ที่พื้น 2 ปลอก เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน จากการสอบสวนทราบว่า มือปืนที่ก่อเหตุคือ นายนนทภัทร อายุ 41 ปี เป็นลูกเขยของผู้เสียชีวิต ขณะที่ นางพูลผล อายุ 57 ปี พี่สาวของ นายนนทภัทร ให้การว่า ผู้เสียชีวิตกับผู้ก่อเหตุเป็นพ่อตากับลูกเขยกัน ส่วนชนวนสังหารมาจากเรื่องที่ นายนนทภัทร ถูกผู้เสียชีวิตกล่าวหาว่ายักยอกเงินซื้อขายมังคุด กว่า 200,000 บาท ซึ่งเคยทะเลาะมีปากเสียงกันบ่อยครั้ง ก่อนเกิดเหตุ นายนนทภัทร ได้แวะมาหาลูกเมียที่บ้านของผู้เสียชีวิต จากนั้นทั้ง 2 คนก็เกิดมีปากเสียงทะเลาะกันเรื่องเงิน 2 แสนบาท โดยที่ผู้เสียชีวิตได้หลุดปากตะโกนด่าด้วยถ้อยคำหยาบคาย จน นายนนทภัทร ทนไม่ไหวชักอาวุธปืนขึ้นมารัวยิงใส่จนเสียชีวิต ก่อนหลหนีไป ต่อมา นายนนทภัทร ได้ขับรถกระบะย้อนกลับมาเข้ามอบตัวที่ สภ.ขลุง พร้อมกับอาวุธปืนของกลางที่ใช้ก่อเหตุ โดย นายนนทภัทร ให้การับสารภาพโดยอ้างว่า ตนเป็นผู้ก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงพ่อตาจริง เนื่องจากบันดาลโทสะ ที่ถูกพ่อตากล่าวหาว่ายักยอกเงินซื้อขายมังคุด 2 แสนบาท แถมถูกด่าทอด้วยถ้อยคำหยาบคาย จึงบันดาลโทสะใช้อาวุธปืนที่พกติดตัวขึ้นมายิงใส่ 4 นัด จากนั้นตำรวจจึงแจ้งข้อกล่าวหา ก่อนส่งตัวดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ++++++++++++++