นายก อบจ.ราชบุรี พร้อม ส.ส.ราชบุรี เปิดโครงการ อบจ.ร่วมใจท้องถิ่นพัฒนา และตลาดปันสุขจำหน่ายข้าวสารราคาถูกช่วยเหลือชาวบ้านช่วงโควิด นำร่องปากท่อเป็นอำเภอแรก อนาคตเตรียมสัญจรให้ครบทั้ง 10 อำเภอ
( 12 พ.ค. 65 ) นายวิวัฒน์ นิติกาญจนา นายก อบจ. ราชบุรี พร้อมนางบุญยิ่ง นิติกาญจนา ส.ส. เขต 2 ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ นายสุทธิพงษ์ พุทธจันทรา นายอำเภอปากท่อ คณะผู้บริหาร สมาชิกสภา อบจ. ผู้บริหารท้องถิ่น ร่วมเปิดโครงการองค์การบริหารส่วนจังหวัดราชบุรี ร่วมใจท้องถิ่นพัฒนา ที่โรงเรียนวัดสันติการรามวิทยา ในพระบรมราชานุเคราะห์ หมู่ 15 ต.ทุ่งหลวง อ.ปากท่อ ซึ่งเป็นโรงเรียนที่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 พระราชทานทรัพย์ส่วนพระองค์เป็นทุนเริ่มแรก รวมทั้งทุนของรัฐบาล พ่อค้า ประชาชน ทรงพระราชทานแนวพระราชดำริการจัดตั้งโรงเรียนขึ้น เพื่อสงเคราะห์เด็กยากจน เปิดสอนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1- 6 โดยมี ดร.กนกพร พิริยวุฒิกรอุดม ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดสันติการามวิทยา ในพระบรมราชานุเคราะห์ คณะครู นักเรียน และชาวบ้านในพื้นที่เข้าร่วม โดยคณะของ อบจ. ได้จัดกิจกรรมตลาดปันสุข อบจ.ไม่ทิ้งกัน นำข้าวสารมาจำหน่ายในราคาถูก เพื่อช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด -19
จากนั้นนาย อบจ.ราชบุรี ได้มอบเงินอุดหนุนให้กับโรงเรียนในเขตพื้นที่ อ.ปากท่อ โรงพยาบาล อ.ปากท่อ เทศบาลตำบลปากท่อ อีกทั้งร่วมเปิดห้องปฏิบัติการเทคโนโลยีโค๊ตติ้ง และไมโครครอนโทรลเลอร์ พร้อมประชุมบูรณาการกับหน่วยงานท้องถิ่นพร้อมหาแนวทางแก้ไขปัญหาร่วมกันระหว่าง อบจ. ผู้นำท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำไปสู่การแก้ไขปัญหาอย่างเป็นรูปธรรมที่ชัดเจน
นายวิวัฒน์ นิติกาญจนา นายก อบจ.ราชบุรี เปิดเผยว่า โครงการ อบจ.รวมใจท้องถิ่นพัฒนา เพื่อต้องการรับฟังปัญหาพื้นที่ของแต่ละอำเภอ ว่าปัญหาการทำงานเข้าสู่โครงการและการบรรจุแผนต่าง ๆ วิธีการจะมีขั้นตอนเพื่อบูรณาการให้ได้แนวทางการพัฒนาที่มีระยะเวลาถูกต้อง โครงการที่ท้องถิ่น เทศบาล อบต.ขอเข้ามานั้นที่เกินศักยภาพของท้องถิ่นจะดำเนินการ อาศัยงบประมาณของ อบจ. จะดำเนินการได้เมื่อไหร่ วันนี้มีกำนัน ผู้แทนท้องถิ่น อบต. เทศบาลมาร่วมกันหารือ ยังมีหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องลงมารับฟัง พร้อมตอบปัญหาเรื่องต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อช่วยเหลือประชาชนทั้งเรื่องการพัฒนาถนน การพัฒนาแหล่งน้ำ การใช้เครื่องจักรที่ อบจ.มีใช้อยู่ อนาคต ทาง อบจ.จัดกิจกรรมนี้ทั้ง 10 อำเภอ ปากท่อเป็นอำเภอนำร่องแห่งแรกที่ได้ดำเนินโครงการ การมาครั้งนี้ยังจัดกิจกรรมตลาดปันสุข เพื่อพบประชาชน มีข้าวสารถุงละ 5 กก.จำนวน 1,000 ถุง มาจำหน่ายราคาถูกถุงละ 50 บาท เป็นข้าวดีมีคุณภาพ จำหน่ายให้ครอบครัวละ 2 ถุง ถือเป็นการเริ่มต้นที่ดีของ อบจ. มีความห่วงใยช่วงสถานการณ์โควิดช่วยบรรเทาความเดือดร้อน ช่วยลดค่าครองชีพให้กับประชาชนในพื้นที่ได้ ส่วนงบประมาณที่ใช้ไม่ได้ใช้งบของทางราชการ แต่ใช้งบของ ส.ส.บุญยิ่ง นิติกาญจนา และเพื่อนๆที่สนับสนุนมาช่วยกันนำไปซื้อข้าวสารมาช่วยเหลือประชาชน
ซึ่งขณะนี้ทาง อบจ.กำลังดำเนินการตัดถนนสายหนึ่ง หากเดินทางจาก อ.บ้านคาจะไปราชบุรี จะต้องไปผ่าน ต.ชัฏป่าหวาย อ.สวนผึ้งเป็นเส้นทางที่อ้อมเข้าสู่เมืองราชบุรี แต่ตอนนี้ได้ตัดถนนเส้นหนึ่งที่จะผ่าน ต.หนองพันจันทร์ อ.บ้านคา ไปทางห้วยต้นห้าง เพื่อให้เข้าสู่เส้นทางเมืองราชบุรีได้รวดเร็วกว่า โดยถนนสายนี้ระยะทาง 7 กิโลเมตร เดิมทียังไม่มีการพัฒนา หากมีดำเนินการแล้วเสร็จจะลดระยะทางไปได้ประมาณ 20 กิโลเมตร ตอนนี้ อบจ.ราชบุรีอยู่ระหว่างนำเครื่องจักรเข้าดำเนินการ และอยู่ระหว่างประสานกรมป่าไม้ พื้นที่ที่เป็นป่าไม้ก็จะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยว จะดำเนินการเฉพาะเส้นทางเดิมที่มีอยู่เดิม จะเร่งดำเนินการลาดยางให้แล้วเสร็จโดยเร็ว เพื่อให้ประชาชนได้ใช้สัญจรได้ผ่านอย่างสะดวกสบายต่อการเดินทางมากยิ่งขึ้น
( 12 พ.ค. 65 ) นายวิวัฒน์ นิติกาญจนา นายก อบจ. ราชบุรี พร้อมนางบุญยิ่ง นิติกาญจนา ส.ส. เขต 2 ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ นายสุทธิพงษ์ พุทธจันทรา นายอำเภอปากท่อ คณะผู้บริหาร สมาชิกสภา อบจ. ผู้บริหารท้องถิ่น ร่วมเปิดโครงการองค์การบริหารส่วนจังหวัดราชบุรี ร่วมใจท้องถิ่นพัฒนา ที่โรงเรียนวัดสันติการรามวิทยา ในพระบรมราชานุเคราะห์ หมู่ 15 ต.ทุ่งหลวง อ.ปากท่อ ซึ่งเป็นโรงเรียนที่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 พระราชทานทรัพย์ส่วนพระองค์เป็นทุนเริ่มแรก รวมทั้งทุนของรัฐบาล พ่อค้า ประชาชน ทรงพระราชทานแนวพระราชดำริการจัดตั้งโรงเรียนขึ้น เพื่อสงเคราะห์เด็กยากจน เปิดสอนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1- 6 โดยมี ดร.กนกพร พิริยวุฒิกรอุดม ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดสันติการามวิทยา ในพระบรมราชานุเคราะห์ คณะครู นักเรียน และชาวบ้านในพื้นที่เข้าร่วม โดยคณะของ อบจ. ได้จัดกิจกรรมตลาดปันสุข อบจ.ไม่ทิ้งกัน นำข้าวสารมาจำหน่ายในราคาถูก เพื่อช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด -19
จากนั้นนาย อบจ.ราชบุรี ได้มอบเงินอุดหนุนให้กับโรงเรียนในเขตพื้นที่ อ.ปากท่อ โรงพยาบาล อ.ปากท่อ เทศบาลตำบลปากท่อ อีกทั้งร่วมเปิดห้องปฏิบัติการเทคโนโลยีโค๊ตติ้ง และไมโครครอนโทรลเลอร์ พร้อมประชุมบูรณาการกับหน่วยงานท้องถิ่นพร้อมหาแนวทางแก้ไขปัญหาร่วมกันระหว่าง อบจ. ผู้นำท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำไปสู่การแก้ไขปัญหาอย่างเป็นรูปธรรมที่ชัดเจน
นายวิวัฒน์ นิติกาญจนา นายก อบจ.ราชบุรี เปิดเผยว่า โครงการ อบจ.รวมใจท้องถิ่นพัฒนา เพื่อต้องการรับฟังปัญหาพื้นที่ของแต่ละอำเภอ ว่าปัญหาการทำงานเข้าสู่โครงการและการบรรจุแผนต่าง ๆ วิธีการจะมีขั้นตอนเพื่อบูรณาการให้ได้แนวทางการพัฒนาที่มีระยะเวลาถูกต้อง โครงการที่ท้องถิ่น เทศบาล อบต.ขอเข้ามานั้นที่เกินศักยภาพของท้องถิ่นจะดำเนินการ อาศัยงบประมาณของ อบจ. จะดำเนินการได้เมื่อไหร่ วันนี้มีกำนัน ผู้แทนท้องถิ่น อบต. เทศบาลมาร่วมกันหารือ ยังมีหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องลงมารับฟัง พร้อมตอบปัญหาเรื่องต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อช่วยเหลือประชาชนทั้งเรื่องการพัฒนาถนน การพัฒนาแหล่งน้ำ การใช้เครื่องจักรที่ อบจ.มีใช้อยู่ อนาคต ทาง อบจ.จัดกิจกรรมนี้ทั้ง 10 อำเภอ ปากท่อเป็นอำเภอนำร่องแห่งแรกที่ได้ดำเนินโครงการ การมาครั้งนี้ยังจัดกิจกรรมตลาดปันสุข เพื่อพบประชาชน มีข้าวสารถุงละ 5 กก.จำนวน 1,000 ถุง มาจำหน่ายราคาถูกถุงละ 50 บาท เป็นข้าวดีมีคุณภาพ จำหน่ายให้ครอบครัวละ 2 ถุง ถือเป็นการเริ่มต้นที่ดีของ อบจ. มีความห่วงใยช่วงสถานการณ์โควิดช่วยบรรเทาความเดือดร้อน ช่วยลดค่าครองชีพให้กับประชาชนในพื้นที่ได้ ส่วนงบประมาณที่ใช้ไม่ได้ใช้งบของทางราชการ แต่ใช้งบของ ส.ส.บุญยิ่ง นิติกาญจนา และเพื่อนๆที่สนับสนุนมาช่วยกันนำไปซื้อข้าวสารมาช่วยเหลือประชาชน
ซึ่งขณะนี้ทาง อบจ.กำลังดำเนินการตัดถนนสายหนึ่ง หากเดินทางจาก อ.บ้านคาจะไปราชบุรี จะต้องไปผ่าน ต.ชัฏป่าหวาย อ.สวนผึ้งเป็นเส้นทางที่อ้อมเข้าสู่เมืองราชบุรี แต่ตอนนี้ได้ตัดถนนเส้นหนึ่งที่จะผ่าน ต.หนองพันจันทร์ อ.บ้านคา ไปทางห้วยต้นห้าง เพื่อให้เข้าสู่เส้นทางเมืองราชบุรีได้รวดเร็วกว่า โดยถนนสายนี้ระยะทาง 7 กิโลเมตร เดิมทียังไม่มีการพัฒนา หากมีดำเนินการแล้วเสร็จจะลดระยะทางไปได้ประมาณ 20 กิโลเมตร ตอนนี้ อบจ.ราชบุรีอยู่ระหว่างนำเครื่องจักรเข้าดำเนินการ และอยู่ระหว่างประสานกรมป่าไม้ พื้นที่ที่เป็นป่าไม้ก็จะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยว จะดำเนินการเฉพาะเส้นทางเดิมที่มีอยู่เดิม จะเร่งดำเนินการลาดยางให้แล้วเสร็จโดยเร็ว เพื่อให้ประชาชนได้ใช้สัญจรได้ผ่านอย่างสะดวกสบายต่อการเดินทางมากยิ่งขึ้น