เมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 11 พ.ค.65 พ.ต.อ.ถาวร นาใจเย็น ผกก.สภ.พนัสนิคม พร้อมด้วยพ.ต.ท.ธีรเชษฐ์ ธิชาญ สว.(สอบสวน) สภ.พนัสนิคม ได้รับแจ้งมีเหตุฆาตรกรรมฆ่าปาดคอหญิงสาวภายในปั้มน้ำมันแห่งหนึ่งในหมู่ 5 ต.หนองปรือ อ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งรีบไปตรวจสอบพร้อมหน่วยกู้ภัยสว่างเหตุบ้านทุ่งเหียงพนัสนิคมในที่เกิดเหตุพบเป็นบ้านพักชั้นเดียวภายในห้องนอนพบร่างนางสาวมิญฑิชา (สงวนนามสกุล)อายุ 31 ปีอยู่บ้านต.เฉลียง อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา นอนหงายเสียชีวิตอยู่บนที่นอน มีบาดแผลถูกปาดคอเกือบขาดจากการตรวจสอบมีร่องรอยการต่อสู้ห่างจากศพ 1 เมตร พบมีดขอตัดหญ้ายาวประมาณ 1.20 เมตร มีคราบเลือดติดอยู่ที่คมมีด
จากการสอบถาม ญาติเจ้าของปั้มเผยว่าเมื่อคืนเวลาประมาณ 03.00 น. ทางผู้ก่อเหตุคือ นายณัฐวุฒิ (สงวนนามสกุล)อายุ 27 ปี ซึ่งเป็นสามีของผู้ตายได้ส่งแชทมาบอกว่าจะกลับต่างจังหวัดให้มาเปิดปั้มด้วย รุ่งเช้ามาเรียกหาผู้ตาย แต่ไม่มีใครตอบและประตูปิดทุกบาน จนกระทั่งเอากุญแจสำรองมาเปิดดูพบผู้ตายนอนอยู่ในสภาพสยอง ตนตกใจจึงปิดประตูและรีบแจ้งตำรวจมาตรวจสอบ ส่วนสาเหตุไม่มีใครรู้ว่าทะเลาะกันเรื่องอะไรกัน
ด้านแม่ค้าที่ขายของอยู่ข้างปั้มเล่าว่า 2 ผัวเมียคู่นี้เป็นคนนิสัยดีไม่เคยเห็นทะเลากัน บางทีมาซื้อข้าวซื้อของกินก็นั่งกินกัน 3 พ่อแม่ลูก รักกันดีและเมื่อคืนก็ยังเห็นคุยกันดีๆ อยู่ จนกระทั่งเช้านี้มีคนมาเรียกเพราะเหมือนไม่มีใครอยู่ตนก็เดินไปดู หลังจากที่เปิดประตูก็พบว่าฝ่ายหญิงเสียชีวิตแล้ว ตนก็ยังตกใจเพราะเพิ่งคุยกันไปเมื่อคืน
ทางด้าน พ.ต.อ.ถาวร นาใจเย็นผกก.สภ.พนัสนิคมได้เปิดเผยว่า หลังจากที่ได้รับแจ้งมีเหตุฆาตรกรรมจึงรีบมาตรวจสอบในที่เกิดทันทีและจากการตรวจสอบในที่เกิดเหตุพบมีร่องรอยการต่อสู้เกิดขึ้น และสภาพศพถูกมีดฟันที่คอหลายครั้งจนเกือบขาด และรู้ตัวผู้ก่อเหตุแล้วคือนายณัฐวุฒิ (สงวนนามสกุล) อายุ 27 ปี ซึ่งเป็นสามีของผู้ตาย สาเหตุหลักน่าจะมาจากการทะเลาะกัน จนทำให้มีเรื่องทำร้ายกัน หลังจากก่อเหตุแล้วผู้ก่อเหตุได้ขับรถโตโยต้า รีโว่ สีดำ ทะเบียนนครราชสีมาหลบหนีกลับบ้านที่จังหวัดนครราชสีมา ไปกับลูกสาววัย 6 ขวบ เมื่อเวลาประมาณ 23.00 น. หลังจากได้ทำการประสานไปยังตำรวจท้องที่ ให้ไปตรวจสอบที่บ้านต.เฉลียง อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นบ้านของผู้ก่อเหตุ พบว่านายณัฐวุฒิ ได้ผูกคอเสียชีวิตแล้ว สภาพศพแข็งนอนเสียชีวิตบนที่นอน ส่วนลูกมีญาติดูแล ส่วนเรื่องคดีจะให้ทางพนักงานสอบสวน ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
