'ศิธา ทิวารี'ประกาศ ลาขาดน้ำรอการระบาย ระบุกทม.ต้องพร่องน้ำคลองรอรับน้ำฝน ยืนยันบริหารจัดการให้ดีได้ ไม่ต้องใช้งบฯเพิ่ม ลั่นขอแก้ปัญหาน้ำรอระบายตั้งแต่วันแรก หากได้เป็นผู้ว่ากทม. วันที่ 10 พ.ค.65 ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า ที่แฟลตการเคหะคลองจั่น เขตบางกะปิ น.ต.ศิธา ทิวารี ผู้สมัครผู้ว่า กทม. พรรคไทยสร้างไทย เบอร์ 11 แถลงนโยบาย "การบริหารน้ำรอระบาย เพื่อชาวกรุงเทพฯและการระบายน้ำที่บึงลำพังพวย เขตบางกะปิ โดยพบว่ายังไม่มีการพร่องน้ำหรือระบายน้ำในคลองออก เพื่อรอรับน้ำฝน ซึ่งจะทำให้ กทม.เจอปัญหาน้ำท่วมขังหรือรอระบายอย่างแน่นอน หากตนได้เป็นผู้ว่า กทม.จะทดสอบระบบระบายน้ำตั้งแต่สัปดาห์แรก ซึ่งน้ำท่วมใน กทม.มาจาก 3 ที่มาคือ น้ำฝน น้ำเหนือ และน้ำหนุน จึงต้องพร่องน้ำออกก่อนฝนจะตกลงมา น.ต.ศิธา ระบุว่า สำหรับปีนี้หลังเลือกตั้งเสร็จ กทม.ต้องรับมือน้ำท่วมขังและควรเตรียมตัวตั้งแต่ตอนนี้ เพราะเข้าฤดูฝนแล้ว โดยต้องพร่องน้ำหรือปล่อยน้ำในคลองหรือลดระดับลงให้ต่ำกว่าท่อระบายน้ำเพียง 0.5-1 เมตร เมื่อประเมินได้ว่าฝนจะตก ก็สามารถแก้ปัญหาน้ำท่วมขังได้ น้ำก็จะไปรอระบายอยู่ในคลอง ซึ่งคลองใน กทม.แทบทั้งหมดมีประตูระบายน้ำ มีสถานีสูบน้ำที่มีกำลังสูงมากอยู่แล้ว ขณะที่กรมอุตินิยมวิทยาก็มีการพยากรณ์อากาศที่แม่นยำ เพียงบริหารจัดการโดยไม่ต้องลงทุนเพิ่มเติมมากมาย แต่ทำให้งบประมาณของ กทม.ที่ลงทุนไปแล้วหลายแสนล้านบาท กับการแก้ปัญหาน้ำท่วมทั้งระบบ ให้ใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพ จากเดิมเพียง 60 % เชื่อว่าสามารถเพิ่มให้ถึง 90% ได้เป็นอย่างน้อย เบื้องต้นต้องสูบน้ำออกจากคลองแต่ละแห่งให้หมดเพื่อทดสอบระบบ และยังจะทำให้เห็นได้ว่าที่ผ่านมามีการขุดลอกจริงหรือไม่ด้วย ส่วนการลอกท่อระบายน้ำต้องทำให้เสร็จ เพื่อให้น้ำระบายลงคลองได้จริง เพราะหากมีท่อบางส่วนอุดตันเพียงไม่กี่เมตร ก็เปล่าประโยชน์ น้ำไม่สามารถระบายลงคลองได้อย่างที่ผ่านมา "ถ้าได้เข้าไปเป็นผู้ว่าฯกทม.ฤดูฝนนี้สามารถจะบริหารจัดการเรื่องน้ำท่วมได้ ฝนจะตกในพื้นที่ไหนก็มีการพร่องน้ำออกจากพื้นที่รอไว้ ในน้ำก็ท่วมมันจะไปรอระบายอยู่ในคลอง ไม่มารอระบายอยู่ที่เข่าหรือตาตุ่มของประชาชน " น.ต.ศิธา กล่าว น.ต.ศิธา กล่าวถึงผลโพลโค้งสุดท้ายที่ยังไม่ติดอันดับ 1 ใน 5 ว่า ขอให้รอดูผลการเลือกตั้งและแม้ยอมรับว่าเปิดตัวช้า แต่มีทีมงานและ ผู้สมัคร สก.แต่ละเขตทำงานในแต่ละพื้นที่อยู่แล้ว ทั้งเชื่อว่าจะได้คะแนนจากประชาชนที่ยังไม่ตัดสินใจ หรือคนที่ตัดสินใจแล้ว แต่เปลี่ยนใจมาเลือกเบอร์ 11 จากนโยบายที่ได้นำเสนอว่าสามารถทำได้จริงและจากการลงพื้นที่ของตนเอง ส่วนพรรคไทยสร้างไทยจะได้ ส.ก.เท่าไรนั้น ไม่ขอประเมินเช่นกัน ขอให้ขึ้นอยู่กับประชาชนในวันเลือกตั้ง แต่ในส่วนของพรรคได้มีการทำโพลสำรวจในส่วนผู้สมัคร ส.ก. ซึ่งมีคะแนนดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง และเห็นพัฒนาการในแต่ละพื้นที่