รายงานว่า เมื่อวันที่ 9 พ.ค.2565 นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง ลงนามคำสั่งกระทรวงการคลัง ที่ 883/2565 เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงการบริหารจัดการระบบท่อส่งน้ำสายหลักในภาคตะวันออก ที่มีนายวิจักษณ์ อภิรักษ์นันท์ชัย ผู้ตรวจราชการกระทรวงการคลัง เป็นประธาน และให้คณะกรรมการฯรายงานผลการตรวจสอบให้กระทรวงการคลังรับทราบภายในวันที่ 20 พ.ค.2565
ทั้งนี้ คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงฯ จะเข้าไปเข้าไปตรวจสอบใน 3 ประเด็น ได้แก่ 1.ตรวจสอบกระบวนการคัดเลือกว่าเป็นไปโดยชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ 2.ตรวจสอบทางกายภาพระบบท่อส่งน้ำ สถานีสูบน้ำ และสิ่งปลูกสร้างต่างๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อประโยชน์ในการส่งมอบและรับมอบ โดยมิให้เกิดผลกระทบต่อการจัดทำระบบสาธารณูปโภคและหรือผู้ใช้น้ำ
และ3.พิจารณาข้อมูลปริมาณน้ำที่ส่งให้แก่ผู้ใช้น้ำ เปรียบเทียบกับลักษณะทางกายภาพของท่อส่งน้ำว่ารายได้ที่นำส่งเป็นไปอย่างเหมาะสมหรือไม่ เพียงใด
สำหรับคำสั่งดังกล่าว มีเนื้อหาว่า ด้วยกรมธนารักษ์ได้ดำเนินการจัดให้บริษัท จัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก จำกัด (มหาชน) เช่า/บริหารระบบท่อส่งน้ำสายหลักในภาคตะวันออก โครงการท่อส่งน้ำดอกกราย ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2535 และวันที่ 12 กันยายน 2535 โดยได้จัดทำสัญญากับบริษัทฯ กำหนดระยะเวลา 30 ปี นับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2537 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2566
ต่อมาบริษัทฯ ได้เปลี่ยนสภาพจากรัฐวิสาหกิจเป็นบริษัทมหาชน และโครงการที่อยู่ระหว่างจัดทำสัญญาเช่า 2 โครงการ คือ โครงการหนองปลาไหล-หนองค้อ และโครงการหนองค้อ-แหลมฉบัง (ระยะที่ 2) โดยได้กำหนดเงื่อนไขให้บริษัทฯ บริหารจัดการ และชำระค่าตอบแทนการใช้ประโยชน์
กรมธนารักษ์ ในฐานะหน่วยงานเจ้าของโครงการ ได้ดำเนินการคัดเลือกเอกชนเพื่อบริหารและดำเนินกิจการระบบท่อส่งน้ำสายหลักในภาคตะวันออกทั้ง 3 โครงการ ตามพระราชบัญญัติที่ราชพัสดุ พ.ศ.2562 กฎกระทรวงการจัดหาประโยชน์ที่ราชพัสดุ พ.ศ.2554 และระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการคัดเลือกเอกชนเพื่อจัดหาประโยชน์ที่ราชพัสดุที่มีราคาเกินห้าร้อยล้านบาท พ.ศ.2564
และเมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2565 คณะกรรมการที่ราชพัสดุได้มีมติเห็นชอบผลการคัดเลือกผู้บริหารและดำเนินกิจการระบบท่อส่งน้ำสายหลักในภาคตะวันออกดังกล่าว โดยให้สิทธิการบริหารและดำเนินกิจการระบบท่อส่งน้ำสายหลักในภาคตะวันออก มีกำหนดระยะเวลา 30 ปี จึงได้กำหนดให้มีการลงนามในสัญญาโครงการบริหารและดำเนินกิจการระบบท่อส่งน้ำสายหลักในภาคตะวันออก เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 2565 และได้มีการเลื่อนการลงนามสัญญาโครงการฯ เนื่องจากปรากฏตามสื่อสารมวลชนต่างๆ ว่า ยังมีข้อสงสัยในการดำเนินการคัดเลือกเอกชนเพื่อบริหารและดำเนินกิจการระบบท่อส่งน้ำสายหลักในภาคตะวันออก
เพื่อให้เกิดความกระจ่างในเรื่องดังกล่าว ฉะนั้น อาศัยอำนาจตามมาตรา 20 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ.2535 และที่แก้ไขเพิ่ม โดยพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน (ฉบับที่ 5) พ.ศ.2545 จึงแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงการบริหารจัดการระบบท่อส่งน้ำสายหลักในภาคตะวันออก โดยมีองค์ประกอบ หน้าที่และอำนาจ ดังนี้
องค์ประกอบ
1.นายวิจักษณ์ อภิรักษ์นันท์ชัย ผู้ตรวจราชการกระทรวงการคลัง ประธานกรรมการ
2.นายปิยกร อภิบาลศรี ผู้ตรวจราชการกระทรวงการคลัง รองประธานกรรมการ
3.นายวิรัช เกตุนวม หัวหน้าผู้ตรวจราชการกรมธนารักษ์ กรรมการ
4.นายดนัย วิจารณ์ ผู้อำนวยการกองบริหารทรัพยากรบุคคลกรมธนารักษ์ กรรมการ
5.นายศุภชัย ตั้งวัฒนากร ผู้อำนวยการกองเทคโนโลยีการสำรวจและฐานข้อมูลที่ราชพัสดุ กรมธนารักษ์ กรรมการ
6.นายชรินทร เข็มราช นิติกรชำนาญการพิเศษ กรรมการ
7.นายอาทร ยงกิตติธรากุล เจ้าหน้าที่จัดผลประโยชน์ ชำนาญการพิเศษ กรรมการและเลขานุการ
8.นายพัฒน์พงษ์ อินทร์มั่น เจ้าหน้าที่จัดผลประโยชน์ ชำนาญการพิเศษ ผู้ช่วยเลขานุการ
9.นายสยาม โพธิ์เกิด นายช่างสำรวจอาวุโส ผู้ช่วยเลขานุการ
10.นายนพดล ธรรมโม นิติกรชำนาญการ ผู้ช่วยเลขานุการ
หน้าที่และอำนาจ
1.ตรวจสอบกระบวนการคัดเลือกว่าเป็นไปโดยชอบด้วยกฎหมายหรือไม่
2.ตรวจสอบทางกายภาพระบบท่อส่งน้ำ สถานีสูบน้ำ และสิ่งปลูกสร้างต่างๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อประโยชน์ในการส่งมอบและรับมอบ โดยมิให้เกิดผลกระทบต่อการจัดทำระบบสาธารณูปโภคและหรือผู้ใช้น้ำ
3.พิจารณาข้อมูลปริมาณน้ำที่ส่งให้แก่ผู้ใช้น้ำ เปรียบเทียบกับลักษณะทางกายภาพของท่อส่งน้ำว่ารายได้ที่นำส่งเป็นไปอย่างเหมาะสมหรือไม่ เพียงใด
4.รายงานผลการดำเนินการให้กระทรวงการคลังทราบ ภายในวันที่ 20 พฤษภาคม 2565
ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป สั่ง ณ วันที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ.2565
