จากกรณีข่าวฉาว "อดีตพระกาโตะ" หรือ "นายพงศกร จันทร์แก้ว" อาบัติปาราชิกจากการเสพเมถุนกับหญิงสาว โดยออกมารับสารภาพชักชวนกันไปก่อเหตุบนสันเขื่อนกะทูน หรือ "อ่างเก็บน้ำกะทูน" ต.กะทูน อ.พิปูน จ.นครศรีธรรมราช จนล่าสุดเขื่อนดังกล่าวได้มีนักท่องเที่ยวแพ่ไปเช็คอินจำนวนมาก เรามาทำความรู้จักกับ "เขื่อนกะทูน" กันดีกว่า
ในอดีตก่อนที่จะมีการสร้าง "เขื่อนกะทูน" ได้เกิดอุทกภัยขึ้นในพื้นที่จังหวัดภาคใต้ เมื่อปลายเดือนพฤศจิกายน พ.ศ.2531 ซึ่งเหตุการณ์น้ำท่วมและแผ่นดินถล่มที่สะเทือนใจคนในหมู่บ้านเวลานั้น เหตุเกิดตอนกลางดึกในขณะที่ทุกคนในหมู่บ้านต่างนอนหลับ มีแผ่นดินถล่มและน้ำท่วมพัดพาไม้ซุงมาทับบ้านเรือนทั้ง 3 หมู่บ้าน กว่า 400 ครัวเรือน
ภัยทางธรรมชาติครั้งนั้นทำให้เกิดความสูญเสียเป็นจำนวนมาก เสียหายทั้งนาข้าว สวนยางพารา และมีชาวบ้านเสียชีวิตกว่า 200 ราย จึงเป็นที่มาช่วยแก้ไขปัญหาพิบัติภัยจากธรรมชาติและสร้างชีวิตใหม่ให้กับชาวบ้าน ซึ่งหน่วยงานราชการต่าง ๆ ได้ระดมกำลังเข้าไปดำเนินการช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน และวางแผนงานแก้ไขปัญหาอุทกภัยลักษณะดังกล่าว ไม่ให้เกิดขึ้นเช่นนี้อีกในอนาคต
ต่อมา พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร (ในหลวงรัชกาลที่ 9) ที่พระองค์ทรงเล็งเห็นถึงความทุกข์ยากของชาวบ้าน ซึ่งต้องประสบเหตุการณ์สูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ไปกับอุทกภัยเมื่อปี พ.ศ. 2531 จึงทรงมีพระราชดำริให้กรมชลประทานสร้างอ่างเก็บน้ำขึ้น เพื่อช่วยแก้ไขปัญหาพิบัติภัยจากธรรมชาติ
"เขื่อนกะทูน" มีลักษณะเป็นเขื่อนดิน มีพื้นที่กว่า 12,500 ไร่ บริเวณสันอ่างเก็บนํ้าจะมีขนาดกว้าง สร้างเป็นถนนให้สามารถขับรถยนต์ชมวิวได้ นับเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมแนวธรรมชาติเชิงอนุรักษ์ โดยต่างก็ขนามนามว่า "สวิตเซอร์แลนด์แดนใต้" เพราะมีบรรยากาศและทิวทัศน์ที่สวยงาม เหมาะสำหรับการท่องเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจ โดยอ่างเก็บน้ำแห่งนี้มีทิวทัศน์ที่งดงาม มองเห็นทิวเขาที่เรียงตัวกันเป็นแนวยาวทั้ง 4 ด้านโอบล้อมบริเวณอ่างเก็บน้ำ ทอดตัวยาวไปถึง อ.เวียงสระ จ.สุราษฎร์ธานี
ปัจจุบัน "เขื่อนกะทูน" เปิดเป็นสถานที่ท่องเที่ยว โดยสามารถปั่นจักรยานหรือขับรถเที่ยวรอบอ่างเก็บน้ำชมบรรยากาศของทะเลภูเขา ล่องเรือในยามเช้าหรือยามเย็นชมสายหมอกที่ปกคลุมอยู่ทั่วบริเวณ และเป็นที่นิยมของหนุ่มสาวที่จะพากันเดินทางมาท่องเที่ยวสถานที่แห่งนี้ โดยเปิดตลอด 24 ชั่วโมง