เมื่อวันที่ 5 พ.ค.ผู้สื่อข่าว ได้เดินทางไปที่ตลาดอาหารทะเลสดสวนสน ชายหาดสวนสน ต.เพ อ.เมือง จ.ระยอง หลังจากที่มีการโพสบนโซเชี่ยว กรณีร้านป้าไสว ที่ขายปูม้าไข่ดองน้ำปลา โดยบรรจุใส่กล่องพลาสติกใสมองเห็นไข่ปูสีแดง แต่ปรากฎว่าไข่สีแดงบนเนื้อปู กลับ เป็นไข่แดงเค็ม ไม่ใช่ไข่ปูม้า จนเกิดการวิพากษ์วิจารณ์ เกี่ยวกับกรณีดังกล่าว เมื่อไปถึงร้านที่ถูกกล่าวอ้าง ของ นางไสว ไกรอินทร์ อายุ 52 ปี แม่ค้าขายปูไข่ดองน้ำปลาอยู่ริมชายหาดสวนสน ได้เปิดเผยว่า ตนเองขายปูม้าดอง มาหลายปีแล้ว ยอมรับว่า ไข่ที่อยู่บนตัวปูดอง เป็น ไข่แดงเค็ม เพราะมีสีสันสวยงาม กว่าไข่ปูของแท้ เคยใส่ไข่ปูแท้ๆกลับขายไม่ได้ พอเปลี่ยนมาใส่ไข่แดงกลับขายดี ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่จะทราบว่าเป็นไข่แดงเค็มไม่ใช่ไข่ปู ส่วนกรณีนักท่องเที่ยวก็เพิ่งเคยเกิดครั้งแรก ด้านป้าเขียว พี่สาวของ ป้าไสว ได้ เปิดเผยว่า เกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น แม่ค้าทุกคนต้างเสียใจ เพราะการใช้ไข่แดงแปะตัวปู เป็นการเพิ่มสีสันให้สวยงาม หากลูกค้าถามก็จะบอกว่าเป็นไข่แดงเค็ม หากไม่ถามก็ไม่ได้บอก โดยปกติแล้ว หากปูม้าไข่ดอง คงจะขายราคา 100-200 บาท ไม่ได้ เพื่อความสบายใจต่อไปก็จะหยุดใช้ไข่เค็มแปะต่อไป ด้าน น.ส.ปราณี ทรงสง่า อายุ 56 ปี แม่ค้าขายอาหารทะเล ได้กล่าว การใช้ไข่แดงแปะ เพื่อความสวยงาม จะขายดีขึ้น โดยส่วนใหญ่หากนักท่องเที่ยวถามก็จะบอกความจริง โดยขายกันกล่องละ 100-200 บาท ถ้าเป็นปูไข่คงขายราคานี้ไม่ได้ หลังจากเกิดกระแส ทางแม่ค้าขายปูดองทั้งหมดประมาณ 10 ร้าน ได้ตกลงกันว่าจะเลิกใช้ไข่แดงแปะกันทุกร้าน เพื่อความสบายใจของทุกฝ่าย ขอยืนยันว่าไม่ได้เป็นการหลอกลวง เพราะไข่เค็มแดงก็เป็นไข่แดงอย่างดีแปะบนตัวปูที่มีไข่อยู่แล้ว จึงขอให้เข้าใจแม่ค้าด้วย ด้านนางเฉลียว สุภรัตน์ อายุ 63 ปี เจ้าของร้านเฉลียวซีฟู๊ด ริมหาดสวนสน ได้กล่าวว่า หลังจากเกิดกระแสเรื่องปูม้าดอง แปะไข่แดง ก็รู้สึกไม่สบายใจ จึงฝากนักท่องเที่ยวควรจะต้องเลือกร้านที่มีมาตรฐาน และ มีป้ายราคาติดชัดเจน พร้อมขอฝากให้แม่ค้าควรหยุดทำ ควรซื่อสัตย์ต่อผู้บริโภค และ สร้างความเสียหายต่อส่วนรวม ด้านนายบุญเลิศ อนันตภูมิ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลแกลง อ.เมือง จ.ระยอง ซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่ตลาดดังกล่าว เตรียมเรียกแม่ค้าขายปูดองทั้งหมดเข้าประชุม เพื่อหาข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น และ จะมีการห้ามขายปูดอง เพราะตลาดดังกล่าวเป็นตลาดที่ทางอบต แกลง เปิดขึ้นมา เพื่อ ขายอาหารทะเลสดเท่านั้น โดยเป็นการช่วยเหลือชาวประมงพื้นบ้านที่สามารถนำอาหารทะเลมาขายด้วยตนเอง จนเป็นตลาดอาหารทะเลสดที่มีลูกเข้ามาซื้อกันจำนวนมาก