ศานิตย์ ภู่บุบผา กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสซีจี เอ็กซ์พีเรียนซ์ จำกัด เปิดเผยว่า จากเดิมของการเป็นศูนย์เรียนรู้สู่ธุรกิจค้าปลีก SCG HOME Experience ในปัจจุบัน การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้นำมาซึ่งการตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่นอกเหนือจากการมาศึกษาข้อมูล แต่สามารถเลือกซื้อสินค้าและบริการได้ครบในที่เดียว ด้วยการวางโจทย์ให้ลูกค้าได้สัมผัสประสบการณ์ด้านการอยู่อาศัย ที่สามารถเป็นจริงได้ ช่วยสนับสนุนให้การอยู่อาศัยดีขึ้นตามคอนเซ็ปต์ Better Living Make Possible ขณะที่แนวทางในปีนี้บริษัทฯได้เน้นด้านนวัตกรรมเพื่อการอยู่อาศัย หรือ Living innovation เป็นหลัก โดยเน้น 3 แนวทาง คือ 1. Green Construction เน้นการก่อสร้างที่ลดขยะหรือของเหลือจากการก่อสร้างให้น้อยที่สุดจากเดิมที่เหลือทิ้งราว 20-30% ทำให้ลูกค้าได้ประหยัดค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างและยังช่วยด้านสิ่งแวดล้อมได้อีกทาง 2. Smart Living การอยู่อาศัยที่สะดวกสบาย โดยแบ่งเป็นการรองรับหลากหลายด้าน เช่น Smart Security เน้นด้านความปลอดภัย, Smart Energy การบริการจัดการพลังงานในบ้าน, Smart Elder นวัตกรรมเพื่อการอยู่อาศัยรองรับผู้สูงวัยให้ปลอดภัย, Smart Entertainment สนับสนุนกิจกรรมในบ้านโดยไม่รบกวนผู้อื่นและตอบโจทย์พื้นที่ทำกิจกรรมภายในบ้าน 3. Smart Retail ตอบโจทย์การช้อปปิ้งในยุคใหม่ให้ง่ายขึ้นด้วยการเชื่อมต่อช่องทางสโตร์และออนไลน์เข้าด้วยกัน ทำให้สะดวกและปลอดภัย ลดความเสี่ยงในยุคที่มีการแพร่ระบาดของโควิด ศานิตย์ ภู่บุบผา กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสซีจี เอ็กซ์พีเรียนซ์ จำกัด “ปัจจุบันลูกค้า SCG HOME Experience มีหลากหลายช่วงวัย โดยลูกค้าที่อาศัยอยู่บ้านเกือบทั้งหมดเป็นลูกค้ากลุ่มเป้าหมายของเรา ซึ่งเมื่อลูกค้าตัดสินใจก้าวเข้ามาที่นี่อาจช่วยจุดประกายไอเดียด้านสมาร์ทลีฟวิ่งที่ลูกค้ากำลังมองหาอยู่ได้ โดยเราจะต้องทำความเข้าใจในสิ่งที่ลูกค้าต้องการ เมื่อเข้าใจแล้วจะรู้ว่าสิ่งที่ลูกค้าอยากได้คืออะไรและจะปรับให้ตอบโจทย์ด้านความสมาร์ทหรือนวัตกรรมเพื่อบ้านอย่างไร ซึ่งที่ผ่านมาต้องยอมรับการหานวัตกรรมเรื่องบ้านอาจจะอยู่กระจัดกระจายหลายแห่ง กว่าจะรวบรวมครบเพื่อใช้ปรับปรุงบ้านได้อาจใช้เวลานาน ซึ่งตอนนี้ SCG HOME Experience เหมือนเป็นสถานที่รวบรวมสิ่งเหล่านี้ไว้ให้หมดแล้ว เพื่อให้เราเป็นจุดหมายสำหรับคนรักบ้าน ” ศานิตย์ กล่าว คุณศานิตย์ กล่าวต่อไปว่า จากแนวโน้มการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุเต็มตัว พบว่ากลุ่มเป้าหมายใหญ่เริ่มปรับปรุงบ้านเพื่อรองรับการอยู่อาศัยมากขึ้น โดยบริษัทได้เริ่มให้ความสำคัญในสินค้าและบริการกลุ่มนี้มาตั้งแต่เมื่อ 5-6 ปีที่แล้ว โดยเน้นนำหลักการออกแบบและผสมผสานการอยู่อาศัยในรูปแบบ Smart Elder ในพื้นที่ห้องน้ำและห้องนอน เช่น พื้นรับแรงกระแทกป้องกันการหกล้มเสี่ยงต่อการกระดูกหัก, นวัตกรรมก๊อกน้ำแบบ Touchless ที่ไม่ต้องออกแรง เทคโนโลยี SCG Active Air Quality ที่ช่วยให้อากาศภายในบ้านบริสุทธิ์เหมาะอย่างยิ่งสำหรับห้องนอน, Smart Security ด้วยการติดกล้องที่สามารถมองเห็นผู้อยู่อาศัย ,สมาร์ทออโตเมชัน เช่น ไฟแสงสว่างติดอัตโนมัติในพื้นที่ใต้เตียงหรือทางเดิน นอกจากนี้องค์ความรู้ด้าน Universal Design เราได้แนะนำลูกค้าเพื่อใช้ในการปรับบ้านให้ปลอดภัยด้วย เช่น ทางลาดควรมีองศาเท่าไหร่ ความกว้างที่เหมาะสมในการใช้งานมีขนาดเท่าไหร่ และการให้คำปรึกษาก่อนที่จะทำการปรับบ้านจริง ทั้งหมดมีรองรับที่ SCG HOME Experience ขณะที่แนวโน้มตลาดการสร้างบ้านใหม่ในปี 2565 อยู่ในสภาวะทรงตัวเฉลี่ยเติบโตเพียง 2-3% ขณะที่ตลาดบ้านรีโนเวทพบว่ามีการเติบโตเฉลี่ยสูงถึง 10% โดยเฉพาะในกรุงเทพและปริมณฑลที่มีการสร้างบ้านเกือบเต็มพื้นที่ จึงเป็นตลาดใหญ่ที่เน้นการรีโนเวทมากกว่าการก่อสร้างใหม่ นอกจากนี้ปัจจัยสถานการณ์โควิดทำให้เกิดการใช้ชีวิตในบ้านมากขึ้น ส่งผลให้เกิดความต้องการปรับปรุง ต่อเติมและตกแต่งบ้านเพื่อรองรับการทำงานและอยู่อาศัย จากเดิมที่เน้นการปรับปรุงที่อยู่อาศัยเพียงเพื่อให้ดูใหม่อยู่เสมอ แต่ปัจจุบันเริ่มเน้นฟังก์ชันการใช้งานให้ตอบโจทย์การดำเนินชีวิตเป็นหลัก สำหรับผู้ที่สนใจสามารถมาพูดคุย สอบถาม ปรึกษา เยี่ยมชม และสร้างแรงบันดาลใจในการทำบ้านได้ที่ New SCG HOME Experience ณ Crystal Design Center เลียบทางด่วนเอกมัย-รามอินทรา เปิดบริการทุกวัน เวลา 10.00 น.-19.00 น. หรือสอบถามรายละเอียด โทร. 0-2101-9922 พร้อมร่วมสัมผัสประสบการ์ณเสมือนจริง SCG HOME EXPERIENCE 360° VIRTUAL STORE ได้ที่ https://scghome.com/campaigns/SCGHOMEEXPERIENCE-VIRTUALSTORE