พิษโควิดบวกกับวิกฤตข้าวของราคาแพง ทำให้พ่อแม่ผู้ปกครอง จ.บุรีรัมย์ เซฟเงินในกระเป๋าเลือกซื้อเครื่องเขียนแบบเฉพาะที่จำเป็น ขณะร้านจำหน่ายโอดยอดขายลดลง 40 เปอร์เซ็นต์ อาจยังไม่มั่นใจจะได้เรียนออนไซด์ปกติหรือไม่ บางคนก็เซฟเงินในกระเป๋า วันนี้ (4 พ.ค.65)บรรยากาศการจับจ่ายซื้อชุดนักเรียน และอุปกรณ์การเรียนตามห้างร้านต่างๆ ในเขตเทศบาลเมืองบุรีรัมย์ ช่วงก่อนเปิดเทอมปีนี้ยังไม่คึกคักเท่าที่ควร โดยมีพ่อแม่ผู้ปกครองพาบุตรหลานไปเลือกซื้อชุดนักเรียนใหม่ และอุปกรณ์การเรียนค่อนข้างบางตา ส่วนใหญ่ผู้ปกครองจะซื้อให้กับบุตรหลานที่ต้องเปลี่ยนช่วงชั้นมากกว่า อาทิ บุตรหลานที่เพิ่งจะเข้าเรียนชั้นอนุบาล เลื่อนขึ้นชั้น ป.1 , เลื่อนขึ้นชั้น ม.1 และ ม.4 เพื่อเป็นการประหยัดค่าใช้จ่าย ประกอบกับสถานการณ์โควิด-19​ ที่แพร่​ระบาดอย่างต่อเนื่อง จึงยังไม่มั่นใจว่าจะมีการเลื่อนเปิดเรียนแบบกะทันหัน หรืออาจจะให้เรียนออนไลน์หรือออนไซด์ น.ส.สุนีย์ ผู้ปกครองนักเรียนคนหนึ่ง บอกว่า ตนเองมีลูก 3 คน เข้าเรียนแล้ว 2 คน คนโตเพิ่งจบอนุบาล 3 จะขึ้นชั้น ป.1 ก็ต้องซื้อใหม่ทั้งหมด ส่วนคนกลางยังเรียนอนุบาลไม่ได้เปลี่ยนชั้น ก็ยังสามารถใช้อันเดิมได้บางส่วนจึงซื้อเฉพาะที่จำเป็นเท่านั้น เนื่องจากต้องเซฟค่าใช้จ่ายในภาวะข้าวของแพงแบบนี้ ประกอบกับยังไม่มั่นใจว่าจะเปิดเรียนออนไซด์ปกติ หรือจะให้เรียนออนไลน์ ด้านนายประพนธ์ วงศ์สุขสวัสดิ์ เจ้าของร้านจำหน่ายชุดนักเรียน นักศึกษา และเครื่องเขียนแบบเรียน “ห้างเตียงฮั้ว” ในเขตเทศบาลเมืองบุรีรัมย์ กล่าวว่า บรรยากาศการซื้อขายเครื่องเขียนแบบเรียนช่วงใกล้เปิดเทอมปีนี้ ยังไม่คึกคักเท่าที่ควร เนื่องจากผู้ปกครองยังไม่มั่นใจว่าจะเปิดเรียนเป็นปกติหรือไม่ ประกอบกับผู้ปกครองก็ต้องการประหยัดค่าใช้จ่าย จึงเลือกซื้อเฉพาะที่จำเป็นเท่านั้น ส่วนมากก็จะซื้อเฉพาะบุตรหลานที่เปลี่ยนช่วงชั้นมากกว่า ส่งผลให้ปีนี้ยอดขายลดลงร้อยละ 40 ส่วนราคาชุดนักเรียนตอนนี้ยังไม่ได้ปรับขึ้นราคายังขายราคาเดิม โดยเริ่มตั้งแต่ตัวละ 120 บาทขึ้นไป แต่หากทางบริษัทมีการปรับราคาก็จำเป็นต้องปรับราคาตามกลไกตลาดเช่นกัน