วันที่ 30 เม.ย.2565 เวลา 14.00 น.ที่บริเวณท่าแพขนานยนต์ ด่านศุลกากรบึงกาฬ บ้านพันลำ หมู่ที่.2 ต.วิศิษฐ์ อ.เมืองบึงกาฬ จ.บึงกาฬ รถขนส่งน้ำมันจากบริษัทเอกชน เร่งส่งออกน้ำมันให้กับประเทศเพื่อนบ้าน สปป.ลาว สัปดาห์ละ 2-3 เที่ยว โดยน้ำมันที่ส่งออกไป จะเอาไปใช้ตามสถานีน้ำมันต่างๆ และก่อสร้างเขื่อนในฝั่ง สปป.ลาว มีทั้งน้ำมันดีเซล น้ำมันเบนซิน ซึ่งเป็นสินค้าส่งออกที่สำคัญ สำหรับเดือนมีนาคม 2565 มีมูลค่าส่งออกน้ำมัน ราว 57 ล้านบาท หลังมีข่าว กบน. มีมติปรับราคาน้ำมันดีเซลเป็น 32 บาท/ลิตร มีผลวันที่ 1 พ.ค.นี้ จากนั้นขึ้นราคาเเบบขั้นบันได เพดานสูงสุดไม่เกิน 35 บาท/ลิตร เพื่อลดผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับประชาชน
สำหรับกำหนดเพดานใหม่ให้ปรับขึ้นสูงสุดไม่เกิน 35 บาทต่อลิตร จากปัจจุบันรัฐอุดหนุนไว้ไม่เกิน 30 บาทต่อลิตร ที่จะสิ้นสุดวันที่ 30 เม.ย.นี้ และจากราคาจริงอยู่ที่ 40 กว่าบาทต่อลิตร เพื่อให้เป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่มอบหมายให้กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงยังอุดหนุนครึ่งหนึ่งของราคาที่ปรับขึ้น โดยกระทรวงพลังงาน กองทุนฯ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะติดตามสถานการณ์ราคาน้ำมันตลาดโลกทุก 7 วัน หากต้องปรับราคาน้ำมันขึ้นก็จะขึ้นครั้งละไม่เกิน 1 บาทต่อลิตร และรวมสูงสุดไม่เกิน 35 บาทต่อลิตร
ด้าน นายอธิภัทร อยู่คุ้มญาติ หน.ฝ่ายสืบสวนและปราบปรามด่านศุลกากรบึงกาฬ กล่าวว่าเดือน เม.ย.นี้มีวันหยุดราชการมาก จึงทำให้มีผลกระทบกับการส่งออก-นำเข้าสินค้าอยู่บ้างแต่ก็ไม่มากนัก ประกอบกับส่วนมูลค่าการค้ารวมในปีงบประมาณ 2565 (ตุลาคม 2564 – มีนาคม 2565) มีมูลค่า 2,904.31 ล้านบาท เมื่อเทียบกับห้วงเวลาเดียวกันของปีงบประมาณที่แล้ว (ตุลาคม 2563–มีนาคม 2564) มีมูลค่า 1,807.01 ล้านบาท เมื่อเทียบกันแล้วมีมูลค่าเพิ่มขึ้น 1,097.30 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น คิดเป็น ร้อยละ 60.72 เนื่องจากมีสินค้าส่งออกและสินค้านำเข้า เพิ่มขึ้นจากปีงบประมาณที่แล้ว โดยสินค้าส่งออกปัจจัยหลักมาจาก น้ำรวมถึงน้ำแร่น้ำอัดลม เครื่องดื่มกระทิงแดง ฯลฯ เพิ่มขึ้น 486.16 ล้านบาท น้ำมันดีเซล น้ำมันเบนซิน เพิ่มขึ้น 198.63 ล้านบาท, เนื้อไก่สดแช่แข็ง และแช่เย็น เพิ่มขึ้น 21.12 ล้านบาท สินค้านำเข้าปัจจัยหลักมาจาก มันสำปะหลังแห้ง (มันเส้น) เพิ่มขึ้น 184.39 ล้านบาท พลังงานไฟฟ้า เพิ่มขึ้น 19.70 ล้านบาท
สำหรับกำหนดเพดานใหม่ให้ปรับขึ้นสูงสุดไม่เกิน 35 บาทต่อลิตร จากปัจจุบันรัฐอุดหนุนไว้ไม่เกิน 30 บาทต่อลิตร ที่จะสิ้นสุดวันที่ 30 เม.ย.นี้ และจากราคาจริงอยู่ที่ 40 กว่าบาทต่อลิตร เพื่อให้เป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่มอบหมายให้กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงยังอุดหนุนครึ่งหนึ่งของราคาที่ปรับขึ้น โดยกระทรวงพลังงาน กองทุนฯ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะติดตามสถานการณ์ราคาน้ำมันตลาดโลกทุก 7 วัน หากต้องปรับราคาน้ำมันขึ้นก็จะขึ้นครั้งละไม่เกิน 1 บาทต่อลิตร และรวมสูงสุดไม่เกิน 35 บาทต่อลิตร
ด้าน นายอธิภัทร อยู่คุ้มญาติ หน.ฝ่ายสืบสวนและปราบปรามด่านศุลกากรบึงกาฬ กล่าวว่าเดือน เม.ย.นี้มีวันหยุดราชการมาก จึงทำให้มีผลกระทบกับการส่งออก-นำเข้าสินค้าอยู่บ้างแต่ก็ไม่มากนัก ประกอบกับส่วนมูลค่าการค้ารวมในปีงบประมาณ 2565 (ตุลาคม 2564 – มีนาคม 2565) มีมูลค่า 2,904.31 ล้านบาท เมื่อเทียบกับห้วงเวลาเดียวกันของปีงบประมาณที่แล้ว (ตุลาคม 2563–มีนาคม 2564) มีมูลค่า 1,807.01 ล้านบาท เมื่อเทียบกันแล้วมีมูลค่าเพิ่มขึ้น 1,097.30 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น คิดเป็น ร้อยละ 60.72 เนื่องจากมีสินค้าส่งออกและสินค้านำเข้า เพิ่มขึ้นจากปีงบประมาณที่แล้ว โดยสินค้าส่งออกปัจจัยหลักมาจาก น้ำรวมถึงน้ำแร่น้ำอัดลม เครื่องดื่มกระทิงแดง ฯลฯ เพิ่มขึ้น 486.16 ล้านบาท น้ำมันดีเซล น้ำมันเบนซิน เพิ่มขึ้น 198.63 ล้านบาท, เนื้อไก่สดแช่แข็ง และแช่เย็น เพิ่มขึ้น 21.12 ล้านบาท สินค้านำเข้าปัจจัยหลักมาจาก มันสำปะหลังแห้ง (มันเส้น) เพิ่มขึ้น 184.39 ล้านบาท พลังงานไฟฟ้า เพิ่มขึ้น 19.70 ล้านบาท