นครพนม ดร.ไพจิต ศรีวรขาน ส.ส.นครพนม เขต 3 เพื่อไทย แชมป์ 11 สมัย ทำงานการเมืองกว่า 32 ปี เปิดใจสยบข่าวลือ เตรียมซบพรรคสีน้ำเงิน หรือพรรคภูมิใจไทย ในการเลือกตั้งสมัยหน้า ยังยืนยันขอตายกับเพื่อไทย ขออยู่ข้างประชาชน เลือกฝั่งประชาธิปไตย ไม่หักหลังประชาชน เชื่อมั่นพรรคเพื่อไทยคือความหวังประชาชนทางรอดประเทศไทย ผ่านไป 3 ปี รัฐบาลสืบอำนาจไร้ผลงานแม่แต่สร้างความทุกข์ ถึงเวลาคืนอำนาจประชาธิปไตยให้ประชาชน ด้วยการเลือกตั้งใหม่ เมิน มือ สว.250 เสียง เชื่อเพื่อไทยยังเหนียวแน่น เมื่อวันที่ 24 เมษายน 2565 ดร.ไพจิต ศรีวรขาน อายุ 75 ปี ส.ส.พรรคเพื่อไทย เขต 3 นครพนม แชมป์ 11 สมัย เปิดเผยว่า จากกรณีมีข่าวบิดเบือนเป็นกระแสการเมืองผ่านสื่อบางสำนักว่า ตนจะมีการย้ายพรรคไปซบพรรคสีน้ำเงิน หรือพรรคภูมิใจไทย ในการเลือกตั้งสมัยหน้า ตนขอยืนยันจุดยืนว่า ตลอดการทำงานการเมืองมากว่า 32 ปี มาถึงวันนี้ไม่เคยมีความเปลี่ยนแปลงในอุดมการณ์ทางการเมือง โดยเชื่อมั่นว่า พรรคเพื่อไทย ยังเป็นความหวังของพี่น้องประชาชน ที่เข้าใจความทุกข์ยากความเป็นอยู่ของประชาชน ที่มาจากการบริหารบ้านเมือง ของรัฐบาลปัจจุบัน ทั้งนี้ตัวผมเองได้รับความไว้วางใจ จากพี่น้องประชาชนชาว นครพนม ชนะการเลือกตั้ง ถึง 11 สมัย ถือว่าเป็นสิ่งที่ประชาชนในพื้นที่เชื่อมั่น ว่าตนเป็นผู้แทนที่ทำงานเพื่อพี่น้องประชาชน ทั้งในสภา และนอกสภา แม้แต่ในช่วงมีการยึดอำนาจไป ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงอุดมการณ์ เพราะเชื่อว่าประชาธิปไตย คือสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับพี่น้องประชาชน เพราะฉะนั้นในการที่ตนจะเปลี่ยนแปลงย้ายพรรคไปสังกัดพรรคอื่น นั้น ไม่เป็นความจริง มีสื่อบางสำนัก นำไปนำเสนอบิดเบือน สร้างความเข้าใจผิด ตนขอร้องอย่านำข้อมูลที่ไม่เป็นความจริงไปสร้างกระแส เพราะตนไม่เคยมีความคิดดังกล่าว ยังต้องการที่จะขับเคลื่อนสนับสนุนพรรคเพื่อไทย พัฒนาร่วมกับชาว จ.นครพนม ที่ให้ความไว้วางใจตลอดมา ถึงแม้จะเป็นฝ่ายค้าน แต่ยังทำหน้าที่รักษาผลประโยชน์ของประชาชนมากที่สุด ตลอดเวลาแม้แต่คิดยังไม่เคยที่จะหนีจากเพื่อไทย เพราะเชื่อว่า พรรคเพื่อไทย คือพรรคที่เป็นความหวังของประชาชนในเส้นทางการเมืองยุคต่อไป _____ ดร.ไพจิต ศรีวรขาน เปิดเผยอีกว่า สำหรับการเลือกตั้งครั้งต่อไป ตนยังยืนยันที่จะลงสมัครเลือกตั้งในพื้นที่ เขต 3 นครพนม ส่วนจะมีคนที่อยากจะมีส่วนร่วมในการสนับสนุนพรรคเพื่อไทย ในการลงสมัครเลือกตั้ง พรรคเพื่อไทยมีกระบวนการคัดสรรที่ดีอยู่แล้ว และจะต้องเป็นไปตามขั้นตอน ทุกคนมีโอกาส ขึ้นอยู่กับผู้บริหารพรรค นอกจากนี้ในช่วงที่ผ่านมาการเลือกตั้งท้องถิ่น อาจจะมีกระแสการเมือง ออกมาหลายด้าน เกี่ยวกับการสนับสนุนของพรรคการเมืองใหญ่ กับการเมืองระดับท้องถิ่น แต่ตนมองว่าสำคัญที่สุด ต้องขึ้นอยู่กับพรรคการเมืองใหญ่ที่จะเป็นหลัก เป็นแกนในการขับเคลื่อนนโยบาย และการดูแลประชาชน โดยจะต้องเป็นประชาธิปไตยเท่านั้นคือสิ่งดีงาม ที่จะสะท้อนให้ประชาชนมีความหวัง เชื่อว่า พรรคเพื่อไทย ยังมีความจริงใจในการสร้างประชาธิปไตย ให้เป็นของประชาชน โดยประชาชน เพื่อประชาชน ในการเลือกตั้งที่จะมาถึง ทั้งนี้ในภาพรวมของอีสาน ตนยอมรับว่า ต้องขอความร่วมมือจากชาวอีสาน รวมคนไทยทุกภาค ที่จะร่วมกันสร้างประชาธิปไตยในการเลือกตั้งที่จะมาถึง ถึงแม้รัฐบาลจะใช้อำนาจในการบริหารบ้านเมือง แต่ตนเชื่อมั่นว่า ไม่สามารถที่จะสร้างความสุขให้กับประชาชนได้ มาถึงวันนี้ตนเชื่อว่าถึงเวลาแล้วที่รัฐบาลจะต้องคืนความสุขให้กับประชาชน สร้างประชาธิปไตยที่สมบูรณ์แบบ เพราะสำคัญจะต้องให้อำนาจประชาชน ประชาชนมีหูมีตา ประชาชน คือผนังทองแดงกำแพงเหล็ก ถึงแม้รัฐบาลสืบอำนาจจะมี สว.ถึง 250 ที่นั่ง ยังเชื่อว่ายังมี สว.บางส่วนที่ยังเป็นฝ่ายประชาธิปไตย สำคัญที่สุดตนเชื่อว่าไม่สามารถที่จะต้านพลังของประชาชนได้อย่างแน่นอน ถึงเวลาแล้วที่รัฐบาลจะคืนความสุขให้ประชาชน ด้วยการจัดการเลือกตั้งใหม่ ขอฝากความหวังกับ ส.ส.ทุกคนที่อยู่ฝ่ายประชาธิปไตย ที่จะต้องร่วมกัน สร้างประชาธิปไตย เพื่อประชาชน อย่าหักหลังประชาชน เพราะ เกือบ 3 ปีที่ผ่านมา ยังไม่เห็นความสุขของประชาชนที่แท้จริง ถึงเวลาแล้วที่รัฐบาลจะต้องยุบสภาคืนอำนาจแก่ประชาชน