เหตุการณ์แม่งูเห่าเข้าไปทำรังใต้ถุนบ้านวางไข่จำนวนมากเกือบกลายเป็นกองทัพงูเห่า รายนี้เมื่อวันที่ 19 เมษายน 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่บ้านในสวนมะพร้าว ไม่มีเลขที่ บ้านบางสะพาน หมู่ที่ 7 ตำบลบางจาก อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช ทีมอสรพิษวิทยาภาคใต้ และเจ้าหน้าที่มูลนิธิสยามร่วมใจปู่อินทร์ ได้เข้าให้การช่วยเหลือเจ้าของบ้านด้วยการเข้ารื้อใต้ถุนบ้านเพื่อเก็บไข่งูเห่า และจับแม่งู ด้วยเกรงว่าจะสร้างอันตรายให้กับเจ้าของบ้านรวมทั้งเด็กๆในบ้านเนื่องจากพบไข่งูจำนวนมาก รวมทั้งแม่งูเห่าอีกจำนวนหนึ่ง
โดยเจ้าของบ้านรายนี้คือนายกมล สุทธิกุลานนท์ อายุ 39 ปี เจ้าของบ้านระบุว่าเมื่อ 3 วันที่ผ่านมาภถรรยาได้ตามหาแมวที่หายไปจากบ้านและตามเข้าไปที่ใต้ถุนบ้าน ซึ่งมีโพรงใต้พื้นบ้านที่ยกสูง โดยไม่ได้คิดว่าจะมีงูคิดเพียงแค่จะตามหาแมว และได้ใช้ไม้เซลฟี่ต่อกับโทรศัพท์สอดเข้าในช่องเปิดไฟแฟลชพร้อมทั้งสอดแขนเข้าไปด้วยพบแมว แต่ก็แทบช๊อคเมื่อพบกองไข่จำนวนมากจึงออกมาแจ้งขอให้เจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือ โดยถือว่าโชคดีรอดตายอย่างหวุดหวิดที่แม่งูไม่ฉกแขน ก่อนที่จะแจ้งเจ้าหน้าที่เพื่อขอความช่วยเหลือซึ่งต้องใช้เวลาถึงวันนี้รวมถึง 3 วัน
ขณะที่นายปรางมาศ เจริญวัย ทีมอสรพิษวิทยา ระบุว่าโชคดีอย่างมากในวันแรกที่เข้ามาตรวจสอบนั้นได้ยืนไม้เซลฟี่พร้อมกล้องสอดเข้าไปในช่องเดียวกับที่ภรรยาเจ้าของบ้านสอดมือเข้าไป งูได้ฉกกล้องทันที หลังจากนั้นได้ค้นหาติดตามอย่างต่อเนื่องตามจุดโพรงต่างใต้ถุนบ้านจึงพบว่ามีไข่งูอยู่ถึง 4 กอง คาดว่าเกิดจากแม่งูรวม 4 ตัว รวมไข่ทั้งหมดกว่า 70 ฟอง มีฟองดีจำนวน 64 ฟองที่เหลือเป็นไข่เสือจึงทำการกูไข่ออกมาให้อยู่ในสภาพเดิมมากที่สุด และสามารถจับงูได้ 1 ตัวเป็นงูเห่าเพศเมีย ส่วนที่เหลือนั้นคาดว่าไม่สามารถกลับเข้าไปในบริเวณเดิมได้จากที่ได้อุดช่องรูทางเข้าทั้งหมดแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับนายกมล และภรรยา นั้นได้มาลงหลักปักฐานทำสวนมะพร้าวอยู่ในสวนและบ้านหลังนี้ มาได้ 2-3 ปีที่ผ่านมา และได้ก่อสร้างบ้านที่ยกสูงมีใต้ถุนบ้าน โดยเจข้าหน้าที่ระบุว่าสภาพแวดล้อมเหมาะเป็นที่อยู่ของงูอย่างมากเนื่องจากเป็นพื้นที่หลบจากน้ำท่วมได้เป็นอย่างดี น้ำท่วมไม่ถึงมีโพรงใต้ตัวบ้านเป็นที่หลบซ่อนตัว มีอาหารในบริเวณใกล้เคียงอุดมสมบูรณ์ โดยหากไข่งูทั้งหมดฟักออกนั้นใต้ถุนบ้านหลังนี้จะกลายเป็นรังของกองทัพลูกงูเห่าจำนวนมากอาจเกิดอันตรายได้โดยง่ายดาย ส่วนไข่งูทั้งหมดนั้นเจ้าหน้าที่เตรียมที่จะนำไปศึกษาและระบุว่ากรณีนี้ถือเป็นกรณีแรกๆที่พบไข่งูเห่าจำนวนมาก และจะนำไปฟักเพื่อคืนกลับธรรมชาติ เช่นเดียวกับแม่งูจะนำไปปล่อยในธรรมชาติห่างไกลจากชุมชนเพื่อความปลอดภัยทั้งงูและชาวบ้านด้วย
โดยเจ้าของบ้านรายนี้คือนายกมล สุทธิกุลานนท์ อายุ 39 ปี เจ้าของบ้านระบุว่าเมื่อ 3 วันที่ผ่านมาภถรรยาได้ตามหาแมวที่หายไปจากบ้านและตามเข้าไปที่ใต้ถุนบ้าน ซึ่งมีโพรงใต้พื้นบ้านที่ยกสูง โดยไม่ได้คิดว่าจะมีงูคิดเพียงแค่จะตามหาแมว และได้ใช้ไม้เซลฟี่ต่อกับโทรศัพท์สอดเข้าในช่องเปิดไฟแฟลชพร้อมทั้งสอดแขนเข้าไปด้วยพบแมว แต่ก็แทบช๊อคเมื่อพบกองไข่จำนวนมากจึงออกมาแจ้งขอให้เจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือ โดยถือว่าโชคดีรอดตายอย่างหวุดหวิดที่แม่งูไม่ฉกแขน ก่อนที่จะแจ้งเจ้าหน้าที่เพื่อขอความช่วยเหลือซึ่งต้องใช้เวลาถึงวันนี้รวมถึง 3 วัน
ขณะที่นายปรางมาศ เจริญวัย ทีมอสรพิษวิทยา ระบุว่าโชคดีอย่างมากในวันแรกที่เข้ามาตรวจสอบนั้นได้ยืนไม้เซลฟี่พร้อมกล้องสอดเข้าไปในช่องเดียวกับที่ภรรยาเจ้าของบ้านสอดมือเข้าไป งูได้ฉกกล้องทันที หลังจากนั้นได้ค้นหาติดตามอย่างต่อเนื่องตามจุดโพรงต่างใต้ถุนบ้านจึงพบว่ามีไข่งูอยู่ถึง 4 กอง คาดว่าเกิดจากแม่งูรวม 4 ตัว รวมไข่ทั้งหมดกว่า 70 ฟอง มีฟองดีจำนวน 64 ฟองที่เหลือเป็นไข่เสือจึงทำการกูไข่ออกมาให้อยู่ในสภาพเดิมมากที่สุด และสามารถจับงูได้ 1 ตัวเป็นงูเห่าเพศเมีย ส่วนที่เหลือนั้นคาดว่าไม่สามารถกลับเข้าไปในบริเวณเดิมได้จากที่ได้อุดช่องรูทางเข้าทั้งหมดแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับนายกมล และภรรยา นั้นได้มาลงหลักปักฐานทำสวนมะพร้าวอยู่ในสวนและบ้านหลังนี้ มาได้ 2-3 ปีที่ผ่านมา และได้ก่อสร้างบ้านที่ยกสูงมีใต้ถุนบ้าน โดยเจข้าหน้าที่ระบุว่าสภาพแวดล้อมเหมาะเป็นที่อยู่ของงูอย่างมากเนื่องจากเป็นพื้นที่หลบจากน้ำท่วมได้เป็นอย่างดี น้ำท่วมไม่ถึงมีโพรงใต้ตัวบ้านเป็นที่หลบซ่อนตัว มีอาหารในบริเวณใกล้เคียงอุดมสมบูรณ์ โดยหากไข่งูทั้งหมดฟักออกนั้นใต้ถุนบ้านหลังนี้จะกลายเป็นรังของกองทัพลูกงูเห่าจำนวนมากอาจเกิดอันตรายได้โดยง่ายดาย ส่วนไข่งูทั้งหมดนั้นเจ้าหน้าที่เตรียมที่จะนำไปศึกษาและระบุว่ากรณีนี้ถือเป็นกรณีแรกๆที่พบไข่งูเห่าจำนวนมาก และจะนำไปฟักเพื่อคืนกลับธรรมชาติ เช่นเดียวกับแม่งูจะนำไปปล่อยในธรรมชาติห่างไกลจากชุมชนเพื่อความปลอดภัยทั้งงูและชาวบ้านด้วย