กองทัพแมลงปีกแข็งนับล้านตัว บุกยึดบ้านและยุ้งข้าวชาวบ้านเดือดร้อนกว่า 4 ปี กลางคืนตา-ยายต้องพาหลาน 4 ขวบ ออกมาปูเสื่อนอนนอกบ้านเพราะกลัวแมลงจะไต่เข้าหู เผยที่ผ่านมาเคยใช้ฆ่าแมลงฉีดพ่นแต่ไม่หายทุกข์หนักถึงขั้นคิดจะรื้อบ้านทิ้งหนีแมลง กู้ภัยตำรวจทางหลวงบุรีรัมย์รุดฉีดพ่นยาฆ่าแมลงทั่วบ้านและยุ้งข้าวกำจัดแมลง
วันนี้ (19 เม.ย.65) หน่วยกู้ภัยตำรวจทางหลวงบุรีรัมย์ ได้รับแจ้งจากสองสามีภรรยา ชาวตำบลโคกสูง อ.หนองกี่ จ.บุรีรัมย์ ว่า เดือดร้อนหนักจากปัญหาแมลงปีกแข็งจำนวนมากบุกเข้ามาอยู่ในบ้านและยุ้งข้าว โดยเฉพาะช่วงที่มีฝนตกที่สภาพอากาศชื้น แมลงปีกแข็งดังกล่าวจะบินเข้ามาอยู่ในบริเวณต่างๆ ของบ้านนับล้านตัว ทั้งห้องนอน ห้องครัว ห้องน้ำ ไม่เว้นกระทั่งยุ้งฉางข้าว จนกลางคืนต้องพาหลานชาย วัย 4 ขวบ ออกไปปูเสื่อนอนลานหน้าบ้าน เพราะกลัวแมลงจะไต่เข้าหูเป็นอันตราย เดือดร้อนหนักแบบนี้มา 4 ปีแล้ว
หลังได้รับแจ้งหน่วยกู้ภัยตำรวจทางหลวงจึงได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบ พบว่า บ้านหลังที่ประสบปัญหาเดือดร้อนเป็นบ้าน 2 ชั้นครึ่งปูนครึ่งไม้ เมื่อเข้าไปดูภายในบ้านก็พบแมลงปีกแข็งจำนวนมากทั้งไต่ และซุกอยู่ตามที่นอน ห้องครัว ตู้กับข้าว ห้องน้ำ และส่วนต่างๆ ของตัวบ้าน รวมถึงยุ้งฉางข้าวก็เต็มไปด้วยแมลงปีกแข็ง จากนั้นหน่วยกู้ภัยฯ จึงได้ทำการฉีดพ่นยาฆ่าแมลงทุกจุดภายในบ้าน รวมถึงยุ้งข้าว และรอบตัวบ้านที่มีต้นไม้ เพื่อกำจัดแมลงปีกแข็งดังกล่าว ซึ่งหลังจากฉีดพ่นยาฆ่าแมลงเบื้องต้นพบว่าแมลงบางส่วนก็ทยอยตาย แต่บางส่วนก็ไม่ตายจึงได้ฉีดพ่นซ้ำอีก ก็ต้องรอดูว่าหลังจากนี้จะมีแมลงปีกแข็งบีนเข้ามาในบ้านอีกหรือไม่
สอบถามนางพล แทนไธสง อายุ 48 ปี เจ้าของบ้าน เล่าให้ฟังว่า ตนพักอาศัยอยู่บ้านหลังดังกล่าวกับสามีและหลาน วัย 4 ขวบ เพียง 3 คน เพราะลูกสาวไปทำงานต่างจังหวัด โดยแมลงปีกแข็งดังกล่าวได้เข้ามาอยู่ในบ้านและยุ้งข้าวเดือดร้อนแบบนี้ มากว่า 4 ปีแล้ว โดยเฉพาะช่วงที่มีฝนตกอากาศชื้น แมลงปีกแข็งจะมีปริมาณมากเป็นพิเศษ พอช่วงอากาศร้อนก็จะลดน้อยลง แต่ช่วงนี้ที่มีฝนตกก็กลับมาอีก จนกลางคืนนอนในบ้านไม่ได้เลย ต้องพาหลานออกมาปูเสื่อกางเต็นนอนนอกบ้าน เพราะกลัวว่าแมลงจะเข้าหูเป็นอันตรายได้ ที่ผ่านมาเคยหาวิธีกำจัดสารพัดทั้งใช้ยาฆ่าแมลงพ่น กวาดรวมๆกันแล้วเผาทิ้ง แต่ก็ไม่หมดตัวใหม่ก็มาเพิ่มเรื่อยๆ จนไม่รู้จะทำยังไงแล้ว ลูกหลานมาจากต่างจังหวัดก็นอนไม่ได้ต้องไปนอนที่บ้านญาติแทน จากความเดือดรอนดังกล่าวถึงขั้นเคยคุยกันว่าหรือจะต้องรื้อบ้านไม้ทิ้ง แล้วสร้างเป็นบ้านปูนแทนถึงจะหนีจากแมลงได้ ก็ขอบคุณทางกู้ภัยฯ ที่เข้ามาช่วยเหลือ แต่ก็ต้องรอดูว่าจะได้ผลมากน้อยขนาดไหน ถ้ายังกำจัดไม่ได้ก็อยากฝากให้หน่วยงานที่เชี่ยวชาญเรื่องพวกนี้เข้ามาช่วยเหลือด้วย
หลังได้รับแจ้งหน่วยกู้ภัยตำรวจทางหลวงจึงได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบ พบว่า บ้านหลังที่ประสบปัญหาเดือดร้อนเป็นบ้าน 2 ชั้นครึ่งปูนครึ่งไม้ เมื่อเข้าไปดูภายในบ้านก็พบแมลงปีกแข็งจำนวนมากทั้งไต่ และซุกอยู่ตามที่นอน ห้องครัว ตู้กับข้าว ห้องน้ำ และส่วนต่างๆ ของตัวบ้าน รวมถึงยุ้งฉางข้าวก็เต็มไปด้วยแมลงปีกแข็ง จากนั้นหน่วยกู้ภัยฯ จึงได้ทำการฉีดพ่นยาฆ่าแมลงทุกจุดภายในบ้าน รวมถึงยุ้งข้าว และรอบตัวบ้านที่มีต้นไม้ เพื่อกำจัดแมลงปีกแข็งดังกล่าว ซึ่งหลังจากฉีดพ่นยาฆ่าแมลงเบื้องต้นพบว่าแมลงบางส่วนก็ทยอยตาย แต่บางส่วนก็ไม่ตายจึงได้ฉีดพ่นซ้ำอีก ก็ต้องรอดูว่าหลังจากนี้จะมีแมลงปีกแข็งบีนเข้ามาในบ้านอีกหรือไม่
สอบถามนางพล แทนไธสง อายุ 48 ปี เจ้าของบ้าน เล่าให้ฟังว่า ตนพักอาศัยอยู่บ้านหลังดังกล่าวกับสามีและหลาน วัย 4 ขวบ เพียง 3 คน เพราะลูกสาวไปทำงานต่างจังหวัด โดยแมลงปีกแข็งดังกล่าวได้เข้ามาอยู่ในบ้านและยุ้งข้าวเดือดร้อนแบบนี้ มากว่า 4 ปีแล้ว โดยเฉพาะช่วงที่มีฝนตกอากาศชื้น แมลงปีกแข็งจะมีปริมาณมากเป็นพิเศษ พอช่วงอากาศร้อนก็จะลดน้อยลง แต่ช่วงนี้ที่มีฝนตกก็กลับมาอีก จนกลางคืนนอนในบ้านไม่ได้เลย ต้องพาหลานออกมาปูเสื่อกางเต็นนอนนอกบ้าน เพราะกลัวว่าแมลงจะเข้าหูเป็นอันตรายได้ ที่ผ่านมาเคยหาวิธีกำจัดสารพัดทั้งใช้ยาฆ่าแมลงพ่น กวาดรวมๆกันแล้วเผาทิ้ง แต่ก็ไม่หมดตัวใหม่ก็มาเพิ่มเรื่อยๆ จนไม่รู้จะทำยังไงแล้ว ลูกหลานมาจากต่างจังหวัดก็นอนไม่ได้ต้องไปนอนที่บ้านญาติแทน จากความเดือดรอนดังกล่าวถึงขั้นเคยคุยกันว่าหรือจะต้องรื้อบ้านไม้ทิ้ง แล้วสร้างเป็นบ้านปูนแทนถึงจะหนีจากแมลงได้ ก็ขอบคุณทางกู้ภัยฯ ที่เข้ามาช่วยเหลือ แต่ก็ต้องรอดูว่าจะได้ผลมากน้อยขนาดไหน ถ้ายังกำจัดไม่ได้ก็อยากฝากให้หน่วยงานที่เชี่ยวชาญเรื่องพวกนี้เข้ามาช่วยเหลือด้วย