ดร.พรธิดา เทพประสิทธิ์ ผู้อำนวยการศูนย์สิ่งแวดล้อม คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยสวนดุสิต เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่ยังคงดำเนินต่อไปนั้น นอกจากส่งผลให้ปริมาณขยะพลาสติกประเภทใช้ครั้งเดียว (Single use plastic) มีปริมาณเพิ่มขึ้นแล้ว ยังมีผลต่อปริมาณขยะติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นอย่างมากเช่นเดียวกัน
โดยขยะติดเชื้อส่วนหนึ่งที่มีปริมาณเพิ่มขึ้นมานั้นเป็นขยะติดเชื้อจากการป้องกันการติดเชื้อโควิด-19 และการเฝ้าระวังการติดเชื้อของประชาชนโดยทั่วไป รวมไปถึงจากผู้ป่วยที่มีการแยกกักตัวที่บ้านผ่านระบบติดตามดูแลอาการหรือ โฮม ไอโซเลชั่น (Home Isolation) ซึ่งนอกจากเรื่องปริมาณที่เพิ่มขึ้นเแล้วยังพบว่าปัญหาสำคัญของขยะติดเชื้อคือการคัดแยกขยะก่อนทิ้งไม่ถูกต้อง และทิ้งปะปนไปกับขยะทั่วไป ทั้งนี้หากไม่มีการคัดแยกขยะที่ถูกต้องก็จะส่งผลให้ขยะประเภทอื่นๆ เป็นขยะติดเชื้อเพิ่มขึ้นและนำไปสู่ความเสี่ยงในการแพร่กระจายของเชื้อที่มากขึ้นตามไปด้วย
และจากการที่ประชาชนต้องใช้ชุดตรวจโควิด-19 หรือ Antigen Test Kit ที่เรียกกันง่ายๆ ว่า ATK ด้วยตนเองอยู่เป็นประจำจึงเป็นอีกสาเหตุที่ก่อให้เกิดขยะติดเชื้อที่มีปริมาณเพิ่มขึ้น ดังนั้นเพื่อลดความสี่ยงต่อการแพร่ระบาด และลดการตกค้างของขยะติดเชื้อในพื้นที่ต่างๆ การทิ้งชุดตรวจ ATK ที่ถูกต้องจึงเป็นสิ่งสำคัญ โดยมีวิธีการง่ายๆ ดังต่อไปนี้
คัดแยกชุดตรวจ ATK ออกเป็น 2 ส่วน 1.ส่วนที่ไม่ได้สัมผัสกับน้ำลายหรือสารคัดหลั่งในจมูก ได้แก่ กล่องกระดาษบรรจุภัณฑ์ คู่มือ/เอกสารกำกับชุดทดสอบ ทิ้งเป็นขยะรีไซเคิล และซองพลาสติกใส่ตลับทดสอบ ไม้ Swab (ไม้แหย่จมูก) ไม้กวาดลิ้น/ช่องปาก ทิ้งเป็นขยะทั่วไป 2.ส่วนที่สัมผัสกับน้ำลายหรือสารคัดหลั่งในจมูก ได้แก่ ตลับทดสอบ หลอดดูดน้ำลาย ไม้ Swab (ไม้แหย่จมูก) ไม้กวาดลิ้น/ช่องปาก หลอดใส่น้ำยา ทิ้งเป็นขยะติดชื้อโดยบรรจุลงในซองพลาสติกซิปล็อกที่ให้มาหรือถุงพลาสติก และฉีดพ่นฆ่าเชื้อหรือราดด้วยน้ำยาฟอกขาว เช่น ไฮเตอร์ผสมน้ำอัตราส่วน 1 : 10 หรือแอลกอฮอล์ 70% เพื่อทำลายเชื้อก่อนปิดถุงให้สนิท จากนั้นซ้อนด้วยถุงขยะอีก 1 ชั้น มัดปากถุงชั้นนอกให้แน่น ฉีดพ่นฆ่าเชื้อบริเวณปากถุง อีกครั้ง
และก่อนนำไปทิ้งต้องเขียนบนถุงว่า "ขยะติดเชื้อ" ทิ้งให้ถูกที่โดยแยกทิ้งในถังขยะสำหรับขยะติดเชื้อ และหากพื้นที่ใดไม่มีถังขยะติดเชื้อ ต้องนำแยกใส่ถุงและเขียนกำกับให้เห็นชัดเจนว่าขยะติดเชื้อ และแยกทิ้งจากถังขยะทั่วไป โดยต้องทิ้งให้รถเก็บขนขยะของสำนักงานเขต หรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่นำไปกำจัด โดยหลังจัดการขยะติดเชื้อแล้วต้องล้างมือให้สะอาดด้วยสบู่และน้ำ หรือเจลแอลกอฮอล์ทันที
ในสถานการณ์การการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ยังไม่รู้แน่ชัดว่าจะยุติการระบาดลงเมื่อใดนั้น จึงเป็นความน่ากังวลอย่างยิ่งต่อปริมาณขยะติดเชื้อที่เพิ่มปริมาณขึ้น ซึ่งปฏิเสธไม่ได้เลยว่าพวกเราทุกคนล้วนมีส่วนเกี่ยวข้อง แต่เราเองก็สามารถร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการแก้ปัญหานี้ได้ด้วยการลดขยะติดเชื้อตั้งแต่ต้นทางตามวิธีที่กล่าวมาข้างต้น