ตาวัย 70 ปี ขึ้นโรงพัก ยอมรับผิดขับรถย้อนศรเป็นกิโลฯ อ้าง "งง" ถนนสร้างใหม่

ตาขับเก๋งสีดำย้อนศรระยะทางเป็นกิโลฯ จนเป็นคลิปว่อนโซเชียล ล่าสุดผู้ใหญ่บ้านกับเพื่อนบ้านพาตัวคุณตาวัย 70 ปีคนขับขึ้นโรงพักรับทราบความผิด อ้างหลงทิศทางเพราะทำถนนใหม่ ขณะที่ผู้ใหญ่บ้านเผยแกสติฟั้นเฟืองแล้วไม่ยอมรับ วันที่ 17 เม.ย.65 จากกรณีที่มีคลิปว่อนตามสื่อโซเชียล เหตุการณ์เมื่อวันที่ 13 เมษายน 2565 มีรถเก๋งสีดำคันหนึ่ง มีพฤติกรรมขับขี่ย้อนทิศทางที่กำหนดไว้ บริเวณสี่แยกพนมสารคาม และเลี้ยวสวนทางตัดกับรถคนอื่นที่มาทางตรงจนต้องหักหลบตามๆกัน ซึ่งเก๋งคันดังกล่าวขับย้อนศรระยะทางเป็นกิโลฯ ซึ่งวันเวลาดังกล่าวเป็นช่วงวันหยุดช่วงเทศกาลสงกรานต์ มีปริมาณการจราจรรถหนาแน่น เหตุเกิดบริเวณสี่แยกพนมสารคาม อำเภอพนมสารคาม จังหวัดฉะเชิงเทรา ล่าสุดเมื่อเวลา 12.00 น. ที่ สภ.พนมสารคาม พ.ต.อ.สมชาย เมืองใย ผกก.สภ.พนมสารคาม พร้อมด้วย พ.ต.ท.ประจวบ เสนาทา รองผกก.(สอบสวน พ.ต.ท.คฑพล พรมดอนชาติ รอง ผกก.สส.ส.ภ.พนมสารคาม พ.ต.ท.ประยูร ปักนทรีย์ รอง ผกก.ป.ส.ภ.พนมสารคาม พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสืบสวนติดตามผู้ขับขี่รถเก๋งสีดำคันกล่าวเพื่อมารับทราบความผิด จนทราบว่าคนขับคือนายวิรัตน์ พันขันธ์ อายุ 70 ปี เป็นอดีตข้าราชการ อยู่บ้านเลขที่ 44 ม.2 ต.โคกไทย อ.ศรีมโหสถ จ.ปราจีนบุรี พร้อมกับรถคันดังกล่าวรถเก๋งสีดำยี่ห้อนิสสัน ทะเบียน กต. 7500 ฉะเชิงเทรา เดินทางมาที่สภ.พนมสารคาม โดยมีนายธนิน บุญรักษ์ ผู้ใหญ่บ้าน ม.3 ต.โคกไทย อ.ศรีมโหสถ จ.ปราจีนบุรี และเพื่อนบ้านได้พามารับทราบความผิด ในฐานความผิดขับรถย้อนศร ขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัย และขับขี่โดยไม่มีใบอนุญาตขับขี่ จากการสอบถามนายวิรัตน์ ทราบว่า วันเกิดเหตุตนเองได้ขับรถคันดังกล่าว เพื่อจะมาเบิกเงินบำนาญที่ธนาคารกรุงไทย ที่พนม สารคาม ด้วยตนเองเป็นผู้สูงวัยมากแล้วประ กอบกับไม่คอยได้เข้าเมือง จึงสับสนเส้นทาง และด้วยมีการก่อสร้างขยายทางใหม่จึงไม่คุ้นชิน ไม่มีเจตนาที่จะฝ่าฝืนกฎหมาย และยอมรับผิดในสิ่งที่กระทำลงไป ด้านนายธนิน บุญรักษ์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 3 ต.โคกไทย อ.ศรีมโหสถ กล่า;ว่า ปกตินายวิรัตน์ เป็นคนเฉยๆ เงียบๆ หลังจากเกษียณราชการจึงได้กลับมาอยู่บ้าน แต่ตอนหลังตนเองทราบว่านายวิรัตน์มีปัญหาครอบครัวและปัญหาเรื่องการเงิน จึงทำให้มีอาการเหมือนอาการทางประสาทนิดๆแต่นายวิรัตน์ไม่ยอมรับ ตนเองเห็นใจหลังจากที่เป็นข่าว ตนเองจึงได้พามาโรงพักเพื่อมารับทราบความผิดและแสดงตัวตนที่สภ.พนมสารคาม ว่ามีลักษณะเหมือนเป็นคนสติฝั่นเฟือง ตนเองจึงอยากฝากขอโทษกับสังคมแทนนายวิรัตน์ด้วย จากนั้น นายวิรัตน์ คนขับขี่เก๋งสีดำย้อนศร ได้รับทราบข้อกล่าวหา และเสียค่าปรับตามความผิดขับรถย้อนศร และไม่มีใบอนุญาติขับขี่ดำเนินตามขั้นตอนของกฎหมาย ก่อนที่จะมีเพื่อนบ้านอาสาฯขับขี่รถพากลับไปส่งบ้านอย่างปลอดภัย