พระอธิการไพศาล วิสาโล (วงศ์วรวิสิทธิ์) เจ้าอาวาสวัดป่าสุคะโต อำเภอแก้งคร้อ จังหวัดชัยภูมิ โพสต์ข้อความผ่านเพจเฟซบุ๊ก วัดป่าสุคะโต ธรรมชาติที่พักใจ ระบุว่า...
ถ้าเราทำบุญอย่างนี้ ก็จะเรียกว่าเป็นการทำบุญแบบบัณฑิต พวกเราทุกคนเป็นบัณฑิตได้ แม้ว่าจะจบป 4 จบป 6 แต่ก็เป็นบัณฑิตได้ เริ่มต้นจากการทำบุญแบบบัณฑิต อันนี้พระสารีบุตรได้กล่าวไว้ ท่านพูดไว้ดีมากเลย “บัณฑิต เมื่อให้ทาน ก็ไม่ได้ให้ทานเพราะเห็นแก่อุปธิสุข อุปธิสุขก็คือโลกียสุข สุขแบบโลกๆ สุขจากการได้การเสพ หรือเกิดจากความร่ำรวย บัณฑิตไม่ได้ให้ทานเพื่อเห็นแก่อุปธิสุขหรือเพื่อภพใหม่ ภพใหม่หมายความว่า ได้ไปเกิดในสวรรค์ หรือได้กลายเป็นเศรษฐี อันนี้เรียกว่าภพใหม่
แต่ว่าบัณฑิตให้ทานเพื่อกำจัดกิเลส และไม่ก่อภพ กำจัดกิเลสอย่างไร ก็หมายความว่ากำจัด หรือลดละ เริ่มจากลดละก่อน ความโลภ ไม่ได้ให้ทานเพราะโลภ อยากจะถูกหวยถูกลอตเตอรี่ หรือว่าปรารถนาความมั่งมี แต่ว่าให้เพื่อลดความโลภ ลดความตระหนี่ แล้วก็ให้ไม่ใช่เพียงแค่กำจัดกิเลส แต่รวมถึงว่าไม่ก่อภพใหม่ ภพใหม่จะเกิดขึ้นได้ก็เพราะมีความยึดในตัวกูของกู ถ้าหากว่าลดละความยึดในตัวกูของกูเมื่อไหร่จนกระทั่งไม่เหลือเลย มันก็ไม่มีเชื้อให้เกิดหรือไม่เกิดภพใหม่ขึ้นมา
พูดอีกอย่างหนึ่งก็คือว่าบัณฑิตให้ทานก็เพื่อลดกิเลสและลดความยึดติดถือมั่นในตัวกูของกู อันนี้ก็นำไปสู่นิพพาน เพราะว่า พอเข้าถึงนิพพาน ก็ไม่มีการเกิดใหม่ หรือเกิดภพใหม่ขึ้นมาอีก พวกเราเป็นชาวพุทธทั้งทีเราก็มาทำบุญแบบบัณฑิต ทำบุญไม่ใช่เพื่อหวังจะเอา แต่ว่าทำเพื่อลดเพื่อละ เมื่อทำอย่างนี้แล้ว ใจก็เป็นบุญ เพราะว่ากิเลสลดลง กุศลก็มากขึ้นเพิ่มขึ้น
ขอบคุณข้อมูล/ภาพ : เพจเฟซบุ๊ก วัดป่าสุคะโต ธรรมชาติที่พักใจ