วันที่ 12 เมษายน 2565 กิตติศักดิ์ นิลวัฒนโฒชัย ผู้สมัครนายกเมืองพัทยา หมายเลข 3 คณะก้าวหน้า เปิดแคมเปญ "บ๊อบ ถามประชาชน" พร้อมผู้สมัครสมาชิกสภาเมืองพัทยา (สม.) เขต 4 โดยในช่วงเช้าผู้สมัครนายกเมืองพัทยาเดินทางไปพบปะและสอบถามประชาชนที่บริเวณหาดจอมเทียน ซึ่งเป็นการสอบถามประชาชนถึงนโยบายที่ได้เปิดเผยออกไปเมื่อวันที่ 6 เมษายน ที่ผ่านมา ว่าประชาชนในพื้นที่พัทยา มีความสนใจหรือถูกใจนโยบายไหมของคณะก้าวหน้ามากที่สุด
กิตติศักดิ์ กล่าวว่า วันนี้เป็นวันเปิดแคมเปญ "บ๊อบ ถามประชาชน" ซึ่งเป็นแคมเปญย่อยหลังจากได้เปิดตัวนโยบายทั้ง 8 ด้านไปแล้ว เพื่อสอบถามกับประชาชนว่านโยบายข้อไหนโดนใจคนพัทยา ซึ่งวันนี้ตนได้เดินทางมาบริเวณหาดจอมเทียนเพื่อพบปะกับผู้ประกอบการร่มเตียงและร้านค้าริมหาดตามแนวหาดจอมเทียน ผู้ประกอบการริมหาดต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่านักท่องเที่ยวน้อยลงเป็นจำนวนมาก ทำให้รายได้หดหายและเศรษฐกิจซบเซา และเมื่อตนอธิบายทั้ง 8 นโยบาย ให้กับผู้ประกอบการได้ฟัง ผู้ประกอบการร่มเตียงส่วนใหญ่ต้องการและเห็นด้วยกับนโยบายฟื้นฟูเศรษฐกิจปากท้องมากที่สุด เพราะเป็นผู้ที่ได้รับผลกระทบโดยตรง ส่วนนโยบายทั้งได้รับการตอบรับรองลงมาคือนโยบายการพัฒนาเมืองเพื่อเพิ่มจุดจอดและจรทั่วเมือง
"หลายๆ ปัญหาความเดือดร้อนที่ผู้ประกอบการสะท้อนออกมานั้นอยู่ในนโยบายของเราอยู่แล้ว แต่ในเรื่องของรายละเอียดนั้น เราจะนำไปพัฒนาเพิ่มเติมเพื่อให้สิ่งที่เราจะทำเกิดประโยชน์กับพี่น้องพัทยาสูงสุด หากได้รับโอกาสจากพี่น้องประชาชนเข้าไปบริหารเมืองพัทยา หนึ่งในเสียงสะท้อนของผู้ประกอบการก็คือ ต้นไม้ตามแนวชายหาดที่ถูกตัดไป ทำให้ไม่มีร่มเงาบริเวณนั้นๆ นักท่องเที่ยวจึงไม่มานั่งบริเวณร่มเตียงที่ต้นไม้ถูกตัด ทำให้สูญเสียรายได้ไปเป็นจำนวนมาก ซึ่งนี่คือหนึ่งในนโยบายที่เมืองพัทยาทำโดยไม่ตระหนักถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นกับผู้ประกอบการ" กิตติศักดิ์ กล่าว
กิตติศักดิ์ กล่าวต่อว่า ตนมั่นใจว่าพัทยาดีกว่านี้ได้ โดยนโยบายนั้นต้องมาจากความคิด ความต้องการของประชาชน และไม่มีเหตุผลใดเลยที่พัทยาจะเป็นเมืองระดับโลกไม่ได้ แต่ผู้บริหารเมืองจำเป็นต้องมีความจริงใจและรับฟังเสียงของประชาชน ซึ่งตนและทีมผู้สมัคร สม. เดินหาเสียงตั้งแต่เช้าถึงค่ำในทุกๆวัน บางส่วนเดินเคาะตามบ้านเพื่อให้ได้มีโอกาสอธิบายกับประชาชนถึงวีธีการพัฒนาเมืองพัทยา บางส่วนขึ้นรถแห่หาเสียงเพื่อประชาสัมพันธ์ถึงการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 22 พฤษภาคมนี้
"ผมมีความมุ่งมั่นที่จะทำให้พัทยากลับมามีชีวิตชีวา ทุกการเลือกตั้งคือโอกาสของการเปลี่ยนแปลง เมืองพัทยาเราไม่มีการเลือกตั้งนายกมากว่า 10 ปีแล้ว ผมคิดว่าการเลือกตั้งนายกเมืองพัทยา และสมาชิกสภาเมืองพัทยาในครั้งนี้มีความหมายต่อคนพัทยาเป็นอย่างมาก ทั้งในแง่เศรษฐกิจและคุณภาพชีวิต ผมขอเพียงโอกาสให้ตัวแทนผู้สมัครจากคณะก้าวหน้าทุกคน นายก เบอร์ 3 สม. เบอร์ 7-12 ผมเชื่อว่านโยบายที่ดีต้องมาจากประชาชน ไม่ใช่คิดจากข้างบนแล้วประชาชนไม่มีส่วนร่วม นี่คือที่มาของการทำแคมเปญนี้ จะพิสูจน์ให้คนพัทยาเห็นว่าเราทำงานจริง และรับฟังเสียงของประชาชนจริงๆ เพื่อทำให้เมืองพัทยาเป็นของทุกคน" กิตติศักดิ์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงบ่ายจนถึงค่ำ กิตติศักดิ์ จะขึ้นรถแห่พร้อมผู้สมัคร สม. เขต 4 ทั้ง 4 คน จากคณะก้าวหน้า เพื่อและนำตัวและประชาสัมพันธ์การเลือกตั้งนายกเมืองพัทยา ที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 22 พฤษภาคม นี้
กิตติศักดิ์ กล่าวว่า วันนี้เป็นวันเปิดแคมเปญ "บ๊อบ ถามประชาชน" ซึ่งเป็นแคมเปญย่อยหลังจากได้เปิดตัวนโยบายทั้ง 8 ด้านไปแล้ว เพื่อสอบถามกับประชาชนว่านโยบายข้อไหนโดนใจคนพัทยา ซึ่งวันนี้ตนได้เดินทางมาบริเวณหาดจอมเทียนเพื่อพบปะกับผู้ประกอบการร่มเตียงและร้านค้าริมหาดตามแนวหาดจอมเทียน ผู้ประกอบการริมหาดต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่านักท่องเที่ยวน้อยลงเป็นจำนวนมาก ทำให้รายได้หดหายและเศรษฐกิจซบเซา และเมื่อตนอธิบายทั้ง 8 นโยบาย ให้กับผู้ประกอบการได้ฟัง ผู้ประกอบการร่มเตียงส่วนใหญ่ต้องการและเห็นด้วยกับนโยบายฟื้นฟูเศรษฐกิจปากท้องมากที่สุด เพราะเป็นผู้ที่ได้รับผลกระทบโดยตรง ส่วนนโยบายทั้งได้รับการตอบรับรองลงมาคือนโยบายการพัฒนาเมืองเพื่อเพิ่มจุดจอดและจรทั่วเมือง
"หลายๆ ปัญหาความเดือดร้อนที่ผู้ประกอบการสะท้อนออกมานั้นอยู่ในนโยบายของเราอยู่แล้ว แต่ในเรื่องของรายละเอียดนั้น เราจะนำไปพัฒนาเพิ่มเติมเพื่อให้สิ่งที่เราจะทำเกิดประโยชน์กับพี่น้องพัทยาสูงสุด หากได้รับโอกาสจากพี่น้องประชาชนเข้าไปบริหารเมืองพัทยา หนึ่งในเสียงสะท้อนของผู้ประกอบการก็คือ ต้นไม้ตามแนวชายหาดที่ถูกตัดไป ทำให้ไม่มีร่มเงาบริเวณนั้นๆ นักท่องเที่ยวจึงไม่มานั่งบริเวณร่มเตียงที่ต้นไม้ถูกตัด ทำให้สูญเสียรายได้ไปเป็นจำนวนมาก ซึ่งนี่คือหนึ่งในนโยบายที่เมืองพัทยาทำโดยไม่ตระหนักถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นกับผู้ประกอบการ" กิตติศักดิ์ กล่าว
กิตติศักดิ์ กล่าวต่อว่า ตนมั่นใจว่าพัทยาดีกว่านี้ได้ โดยนโยบายนั้นต้องมาจากความคิด ความต้องการของประชาชน และไม่มีเหตุผลใดเลยที่พัทยาจะเป็นเมืองระดับโลกไม่ได้ แต่ผู้บริหารเมืองจำเป็นต้องมีความจริงใจและรับฟังเสียงของประชาชน ซึ่งตนและทีมผู้สมัคร สม. เดินหาเสียงตั้งแต่เช้าถึงค่ำในทุกๆวัน บางส่วนเดินเคาะตามบ้านเพื่อให้ได้มีโอกาสอธิบายกับประชาชนถึงวีธีการพัฒนาเมืองพัทยา บางส่วนขึ้นรถแห่หาเสียงเพื่อประชาสัมพันธ์ถึงการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 22 พฤษภาคมนี้
"ผมมีความมุ่งมั่นที่จะทำให้พัทยากลับมามีชีวิตชีวา ทุกการเลือกตั้งคือโอกาสของการเปลี่ยนแปลง เมืองพัทยาเราไม่มีการเลือกตั้งนายกมากว่า 10 ปีแล้ว ผมคิดว่าการเลือกตั้งนายกเมืองพัทยา และสมาชิกสภาเมืองพัทยาในครั้งนี้มีความหมายต่อคนพัทยาเป็นอย่างมาก ทั้งในแง่เศรษฐกิจและคุณภาพชีวิต ผมขอเพียงโอกาสให้ตัวแทนผู้สมัครจากคณะก้าวหน้าทุกคน นายก เบอร์ 3 สม. เบอร์ 7-12 ผมเชื่อว่านโยบายที่ดีต้องมาจากประชาชน ไม่ใช่คิดจากข้างบนแล้วประชาชนไม่มีส่วนร่วม นี่คือที่มาของการทำแคมเปญนี้ จะพิสูจน์ให้คนพัทยาเห็นว่าเราทำงานจริง และรับฟังเสียงของประชาชนจริงๆ เพื่อทำให้เมืองพัทยาเป็นของทุกคน" กิตติศักดิ์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงบ่ายจนถึงค่ำ กิตติศักดิ์ จะขึ้นรถแห่พร้อมผู้สมัคร สม. เขต 4 ทั้ง 4 คน จากคณะก้าวหน้า เพื่อและนำตัวและประชาสัมพันธ์การเลือกตั้งนายกเมืองพัทยา ที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 22 พฤษภาคม นี้