วันที่ 10 เม.ย.65 พล.ต.ต.กฤษฎา แก้วจันดี รอง ,พ.ต.อ.สมพงษ์ สุวรรณวงค์ พ.ต.อ.ศักดา เจริญกุล ,พ.ต.อ.จักราวุธ บุญเรือง รอง ผบก.สส.ภ.9 ได้สั่งการให้ พ.ต.ท.วันกิตติ ทินนิมิตร รอง ผกก.สส.1 บก.สส.ภ.9 ,ร.ต.อ.อรรถพล จันทสงค์ พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนกองบังคับการสืบสวนตำรวจภูธรภาค 9 นำหมายค้นของศาลจังหวัดสงขลาเข้าตรวจค้นและจับกุมผู้ลักลอบปล่อยเงินกู้โดยเรียกดอกเบี้ยเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด โดยเข้าตรวจค้นภายในบริเวณบ้านหลังหนึ่งในซอยประชาร่วมใจ 1 ถนนขวัญประชา หมู่ 4 ต.ควนลัง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา พบรถยนต์กระบะ และรถยนต์เก๋ง จำนวน 28 คัน ที่จอดอยู่บริเวณบ้านหลังนี้ รวมทั้งภายในโกดังและที่บริเวณบ้านอีกหลังซึ่งอยู่ใกล้เคียงกัน จากการตรวจสอบรถพบว่าส่วนใหญ่จะเป็นรถที่ติดสัญญาเช่าซื้อกับบริษัทสินเชื่อ และยังพบเอกสารการกู้ยืมเงินซึ่งเป็นชุดโอนลอยโดยมีรถยนต์เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันเงินกู้ จำนวน 32 ชุด เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ควบคุมตัว นายอรุณ ขุนอักษร อายุ 43 ปี ชาว ต.หาดใหญ่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เอาไว้ ซึ่งเป็นลูกเขยของบ้านที่เจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้น จากการสอบสวนเอกสารพบว่า รับจำนำรถยนต์โดยคิดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 10 ต่อเดือน หรือคิดเป็นร้อยละ 120 ต่อปี ซึ่งเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด ร้อยละ 15 ต่อปีสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนเป็นอย่างมาก โดยนายอรุณ จะนำรถที่รับจำนำไว้มาฝากไว้ที่บ้านแม่ยายและในโกดังที่สร้างเป็นเป็นรั้วสังกะสีปิดทึบ และบางส่วนฝากจอดไว้ที่เพื่อนบ้านที่อยู่ใกล้เคียงกันและทุกคันถูกมีการนำถุงพลาสติดสีดำมาปิดอำพรางแผ่นป้ายทะเบียนไว้ด้วยเพื่อไม่ให้ใครเห็นและตรวจสอบป้ายทะเบียนรถได้ สอบถามนายอรุณ ให้การรับสารภาพว่า ตนเองประกอบธุรกิจรับจำนำรถมาได้ระยะหนึ่ง แต่ไม่ได้ขออนุญาตจากนายทะเบียน รถยนต์ที่เจ้าหน้าที่ตรวจยึดได้เป็นรถที่ตนเองรับจำนำไว้ ซึ่งได้ทำสัญญากู้ยืมเงินไว้กับลูกค้า และคิดดอกเบี้ยจากลูกค้าในอัตราร้อยละ 10 ต่อเดือน เจ้าหน้าที่จึงแจ้งควบคุมตัวนายอรุณ พร้อมด้วยของกลาง ส่งพนักงานสอบสวน สภ.หาดใหญ่ เพื่อเนินคดีตามกฎหมาย ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมยังได้ฝากเตือนไปยังผู้ที่นำรถยนต์ที่ยังผ่อนหรือเช่าซื้ออยู่ไปจำนา อาจเข้าข่ายมีความผิดฐานยักยอกทรัพย์ เนื่องจากเจ้าของกรรมสิทธิ์ในตัวรถคือ สถาบันการเงินเจ้าของสินเชื่อ หรือไฟแนนซ์ และปัญหาใหญ่คือหากเจอผู้รับจำนำที่ไม่มีความซื่อสัตย์ หรือมิจฉาชีพที่ตั้งใจมาหลอกลวงเพื่อเอารถไปขายต่อ อาจขายในรูปแบบรถหลุดจำนำ แยกชิ้นส่วนขาย หรือส่งรถทั้งคันออกนอกประเทศ สุดท้ายสถาบันการเงินเจ้าของกรรมสิทธิ์ จะมาไล่เบี้ยค่าเสียหายกับโดยตรงกับผู้ที่นำไปจำนำ และยังคงต้องผ่อนรถต่อไปทั้งที่รถไม่อยู่แล้ว ดังนั้นจึงไม่ควรเอารถที่ติดไฟแนนซ์อยู่ไปจำนำ หรือ ขายนอกระบบ เพราะนอกอาจจะเสียรถไปแล้ว ยังอาจตกเป็นผู้ต้องหาด้วย