‘เอ้ สุชัชวีร์’ โชว์วิสัยทัศน์กลางกรุง ขอโฟกัส 4 ปี ดันกรุงเทพมหานครเป็นเมืองสวัสดิการต้นแบบของอาเซียน พร้อมสู้โควิด ฟื้นเศรษฐกิจ ดึงเทคโนโลยีแก้ปัญหาเมือง และคอรัปชั่น วันที่ 9 เมษายน 2565 ศ.ดร. สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. หมายเลข 4 พรรคประชาธิปัตย์ ได้ร่วมแสดงวิสัยทัศน์ในงาน เสวนา “เปิดฉาก ศึกชิงผู้ว่าฯ กทม. 65” จัดโดย Nation Group ณ พาร์คพารากอน ชั้นเอ็ม ศูนย์การค้าสยามพารากอน โดย ‘เอ้ สุชัชวีร์’ ได้ขึ้นแสดงวิสัยทัศน์ กล่าวว่า วันนี้ทุกคนทราบดีว่าปัญหาของกรุงเทพมหานครหนักหนา และ ซับซ้อนกว่าที่คิด หากผู้ว่าฯ ซึ่งมีเวลาการทำงานเพียง 4 ปี มีนโยบายเยอะจนเกินไป จะไม่สามารถทำได้แน่นอน ดังนั้นผู้ว่าฯ หรือผู้นำองค์กรไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ สิ่งสำคัญที่สุดคือต้องโฟกัส โฟกัส และโฟกัส ‘เอ้ สุชัชวีร์’ กล่าวว่า ได้ประกาศตัวชิงตำแหน่งผู้ว่า กทม. ตั้งแต่วันที่ 13 ธันวาคม 2564 ซึ่งได้ตกผลึกทั้งความคิดและนโยบายแล้วว่า กรุงเทพต้องเป็นเมืองสวัสดิการที่ทันสมัยต้นแบบของอาเซียนให้ได้ สำหรับสวัสดิการไม่ใช่ถูกหรือฟรี แต่คือการทำให้ทุกคนสามารถยืน และเดินต่อไปข้างหน้าได้ วันนี้ กทม. เสียโอกาสไปมากแล้ว ผมขอเป็นผู้ว่าที่ใช้เทคโนโลยีมาแก้ปัญหาเมือง “กรุงเทพวันนี้ลำบากติดดินแล้ว ทุกคนรู้ปัญหาว่าหนักหนาและซับซ้อน ผมขอเป็นผู้ว่าที่ใช้เทคโนโลยีมาแก้ปัญหาของเมืองนี้ กรุงเทพต้องเป็นเมืองต้นแบบของอาเซียนให้ได้ เราต้องตั้งเป้าหมายให้สูง แม้จะไม่ถึงเป้าลงมาหน่อย แต่ชีวิตคนกรุงเทพจะเปลี่ยนไปจากเดิม ดีขึ้นจากเดิมอย่างแน่นอน ผมมาพร้อมกับผู้สมัคร ส.ก. 50 คน 50 เขต เพื่อแก้ปัญหาให้พี่น้องประชาชนชาวกรุงเทพ และ กทม. ต้องเป็นเมืองต้นแบบที่ทันสมัยของอาเซียนให้ได้” ‘เอ้ สุชัชวีร์’ กล่าวว่า สำหรับสิ่งที่จะต้องทำในด้านแรก คือ 1. เรื่องคุณภาพชีวิต ต้องเปลี่ยนชีวิตคน กทม. ให้ดีขึ้นซึ่งสิ่งที่หนักหนาที่สุดคือ เรื่องเศรษฐกิจ เรื่องปากท้อง เราจะมีกองทุนจ้างงานในชุมชน 2. เรื่องสาธารณสุข ตั้งใจดูแลเต็มที่ สาธารณสุขใกล้บ้านต้องมีหมอ เฉพาะทางไม่ว่าจะเป็น โรคเบาหวาน ความดัน หัวใจ รวมถึงเครื่องมือแพทย์พร้อม 3 วันต่อสัปดาห์ 3. เรื่องการศึกษา ซึ่งได้ทำมาตลอด มั่นใจ ปัญหารากฐานคือการเข้าถึงการศึกษา ตั้งใจให้ กทม. เป็นเมืองการศึกษาดี ใกล้บ้าน 4. เรื่องปัญหาจราจร จะจัดการเกี่ยวกับการจราจรแบบเบ็ดเสร็จด้วยเทคโนโลยี 5. ปัญหาน้ำท่วม น้ำเน่า และน้ำหนุน ซึ่งถือเป็นปัญหาใหญ่ของ กทม. ถ้าไม่ทำตอนนี้อีก 10 ปี คนกรุงเทพจะไม่มีแผ่นดินอยู่แน่นอน และ 6. ปัญหามลภาวะ สิ่งแวดล้อม เชื่อมั่น 4 ปี เราทำได้แน่นอน โดย ‘เอ้ สุชัชวีร์’ กล่าวว่า ในเดือนแรกสิ่งที่จะทำหากได้รับเลือกเป็นผู้ว่าฯ กทม. คือ จะลงไปสู้กับโควิดแบบสุดๆ เพราะถ้าวันนี้เราต่อสู้ไม่ได้ จะไม่มีอะไรดีเลย แต่ถ้าเราสู้โควิดได้ ทุกอย่างจะดีขึ้น เศรษฐกิจก็จะดี ท่องเที่ยวก็จะดี บุคลากรทางการแพทย์ หมอพยาบาลก็จะได้ไปช่วยคนอื่นต่อ งบประมาณก็จะไปช่วยด้านอื่น ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงจะติดตั้งไวไฟ (wifi) 1.5 แสนจุดทั่วกรุงเทพ ให้ทุกคนเข้าถึงได้ เพราะวันนี้ กทม. จำเป็นจะต้องใช้เทคโนโลยีแก้ปัญหาเมือง เมื่อเทคโนโลยีไวไฟ (wifi) ทั่วกรุงเทพ นอกจากประชาชนได้ประโยชน์และ กทม.ก็ได้ประโยชน์ด้วย ไม่ว่าจะนำมาใช้ควบคุมระบบต่างๆ เปิด-เปิดประตูน้ำ ควบคุมการจรจร ทั้งนี้ ‘เอ้ สุชัชวีร์’ ได้ตอบคำถามในประเด็นที่ว่าทำไมคนกรุงเทพจะต้องเลือกคุณเป็นผู้ว่าฯ กทม. โดยกล่าวว่า งานผู้ว่าฯ กทม.เป็นงานเฉพาะ ไม่ใช่ว่าเป็นใครมาทำก็ได้ เพราะมีหน้าที่ปะผุ กับปัญหาที่เกิดขึ้นทุกวัน งาน กทม. เป็นงานช่าง ต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญ ผมเป็นช่าง สามารถแก้ปัญหาซ้ำซาก ถนนยุบ ฟุตบาท ทางเท้า จะต้องทำให้เป็นมาตรฐานสากล โดย ‘เอ้ สุชัชวีร์’ ย้ำว่า วิสัยทัศน์ของเราชัดเจน คือ กทม. ต้องเป็นเมืองสวัสดิการที่ทันสมัย เป็นต้นแบบของอาเซียน ผมพร้อมที่จะนำเทคโนโลยีมาแก้ปัญหาเมือง แก้ปัญหาคอรัปชั่น ผมมั่นใจว่ากรุงเทพมีศักยภาพไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าโตเกียว สิงคโปร์ หรือมาเลเซีย หากนำเทคโนโลยีมาใช้และแก้ปัญหา นอกจากนี้ได้ตอบคำถามถึงเรื่องการดำเนินงานของ กรุงเทพธนาคม ซึ่งเป็นบริษัทที่กรุงเทพมหานครถือหุ้นใหญ่นั้น มีมุมมองอย่างไร ซึ่ง ‘เอ้ สุชัชวีร์’ กล่าวว่า กรุงเทพมหานครตั้งกรุงเทพธนาคมเพื่อเป็นแขนให้ทำงานได้อย่างรวดเร็ว สิ่งที่จะตอบคือ การแต่งตั้งประธานและกรรมการต้องเป็นบุคคลที่มีความรู้ ความสามารถจริงๆ เพราะกรุงเทพธนาคมมีภารกิจส่วนใหญ่เป็นเรื่องของระบบขนส่งมวลชน ซึ่งผมจะทำให้เป็นองค์กร หน่วยงานที่มีความล้ำหน้า มีนวัตกรรม พัฒนาเทคโนโลยี สุดท้าย ‘เอ้ สุชัชวีร์’ ขอเชิญชวนชาวกรุงเทพมหานครทุกคน วันที่ 22 พฤษภาคม 2565 จะเป็นวันเริ่มต้นแห่งความหวัง ผมจะเปลี่ยนกรุงเทพให้เป็นเมืองสวัสดิการต้นแบบของอาเซียน วันนี้อยากให้ท่านค่อยๆ คิด ค่อยๆ มอง ค่อยดู ฝากไว้ว่าวันนี้ถ้าเกิดอยากเห็นกรุงเทพเปลี่ยน เลือก ‘เอ้ สุชัชวีร์’ เบอร์ 4 เป็นผู้ว่าฯ กทม.