จากกรณีที่มีผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 เป็นนิวไฮ สูงถึง 98 รายในวันนี้ (9 เม.ย.) ว่า ตัวเลขการเสียชีวิตจะตามหลังการติดเชื้อที่เพิ่มสูงขึ้นมาตลอด สอดคล้องกับตัวเลขปอดอักเสบและใส่ท่อช่วยหายใจที่เพิ่มขึ้นมาเดือนครึ่งแล้ว แต่ย้ำว่า ผู้เสียชีวิตช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา เป็นผู้ที่รับวัคซีนไม่ครบ 3 เข็ม โดย 85-90% เป็นกลุ่ม 608 ดังนั้นจึงยังมีผู้สูงอายุมากกว่า 60 ปีอีกกว่าล้านคนยังไม่ได้รับวัคซีนเข็มแรก วันที่ 9 เม.ย.65 ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ม.มหิดล กล่าวว่า เวลานี้ควรมารับวัคซีน สำหรับเป้าหมายทำให้โควิดเป็นโรคประจำถิ่น อัตราเสียชีวิตอยู่ที่ 0.1% ดังนั้น การติดเชื้อ 20,000 ราย ตัวเลขเสียชีวิตก็ไม่ควรเกิน 20 ราย แต่ขณะนี้ 98 ราย ถือว่ายังสูงกว่าที่ตั้งเป้าไว้ 3-4 เท่า จึงต้องเร่งฉีดวัคซีนในกลุ่มเสี่ยง เพื่อลดอัตราความรุนแรงของโรคและการเสียชีวิต โดยควบคู่กับมาตรการป้องกัน สวมหน้ากาก ล้างมือและเว้นระยะห่างต่อเนื่อง “หลังเทศกาลสงกรานต์ คาดว่าจะเห็นตัวเลขติดเชื้ออยู่ที่ 50,000 – 100,000 รายต่อวัน ขึ้นอยู่กับความร่วมมือของทุกฝ่ายที่จะช่วยกันป้องกันให้ตัวเลขอยู่ในระดับใด ที่สำคัญคือต้องดูแลเรื่องการเสียชีวิต ไม่ควรให้เกินวันละ 200 ราย เพื่อให้ระบบบริการสุขภาพตั้งรับได้ อย่างบางจังหวัดอัตราครองเตียงเกินครึ่งแล้ว ทั้งนี้ การติดเชื้อในกลุ่มที่ไม่มีความเสี่ยง มีตัวเลขชัดเจนว่า การฉีดวัคซีน 3 เข็มขึ้นไป ลดอัตราความรุนแรงได้ แต่หากฉีด 3 เข็มแต่มีโรคร่วมอื่น เช่น เบาหวาน ความดัน ยังต้องระวังเป็นพิเศษ”