มาแปลกสาวประเภท 2 หรือสตรีข้ามเพศชาวไทยคนแรก สวมใส่ชุดยูนิฟอร์มแอร์โฮสเตสสาวของสายการบินประจำชาติยุโรป หรือสายการบิน Scandinavian Airlines หรือ SAS เป็นสายการบินประจำชาติของประเทศสวีเดน นอร์เวย์ เดนมาร์ก และฟินแลนด์ ทำเอา “สาวจริงหญิงแท้อิจฉา หนุ่มๆ มองตาเป็นมัน”
วันที่ 8 เม.ย.65 เวลา 09.00 น. ที่ศาลาอเนกประสงค์ ที่ว่าการอำเภอโซ่พิสัย อ.โซ่พิสัย จ.บึงกาฬ ซึ่งจัดให้เป็นสถานที่หน่วยคัดเลือกทหารเกณฑ์ สีสันของการคัดเลือกทหารเกณฑ์แต่ละที่ก็หนีไม่พ้นสาวประเภท 2 ซึ่งได้มาเดินฉุยฉายอวดเรือนร่างให้สาวจริงหญิงแท้อิจฉา และหนุ่มๆ จ้องมองตาเป็นมัน หนึ่งในนั้นก็คือรายของ นายณัฐพร ยาวะระ กริชกำจร ชื่อเล่น”น้องพลอย” หรือชื่อเดิม นายอภิเดช กริชกำจร อายุ 23 ปีบ้านเลขที่ 208 หมู่ 9 บ้านสามหนอง ต.บุวตูม อ.โซ่พิสัย ที่มารายงานตัวทหารกองเกิน โดยได้ลำดับที่ 383 ซึ่งเป็นที่ฮือฮาและสื่อมวลชนให้สนใจเป็นอย่างมาก เพราะเธอมาในชุด ยูนิฟอร์มแอร์โฮสเตสสาวของสายการบินสแกนดิเนเวียน แอร์ไลน์ ซีสเต็ม เป็นสายการบินร่วมของประเทศในกลุ่มสแกนดิเนเวีย คือ สวีเดน นอร์เวย์ เดนมาร์ก และฟินแลนด์ (Sas Scandinavian Airlines) เป็นสายการบินเก่าแก่ก่อตั้งเมื่อปี 1946 และก่อนจะดำเนินการตามขั้นตอนการรายงานตัว ทางสวัสดีได้เรียกปรับเงิน จำนวน 300 บาทที่ไม่ได้มารับหมายเรียกของปีนี้ จากนั้นจึงเข้าสู่ขบวนการรายงานตัวและตรวจสุขภาพจากแพทย์สนาม ซึ่งหมอได้ออกใบรับรองแพทย์ให้ระบุว่า “เพศสภาพไม่ตรงกำเนิด”หรือเพศสภาพไม่ตรงกับเพศกำเนิด นำไปยื่นกับโต๊ะจำพวก 2 ไม่นานเจ้าหน้าที่ก็ได้ออกใบรับรองแบบ สด.43 ให้น้อยพลอย แบบ สด.43 คือ ใบรับรองผลการตรวจเลือกทหารกองเกินเข้ารับราชการทหารกองประจำการหรืออาจจะเรียกกันว่า ” ใบผ่านการเกณฑ์ทหาร แบบ สด.43 แสดงว่าผ่านการเกณฑ์ทหารมาแล้ว
แอรืโฮสเตสสาวสอง ได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า เมื่อปี 2562 อายุครบ 21 ปีตั้งใจจะมารายงานตัวตามที่ได้ขึ้นทะเบียนทหารกองเกินเอาไว้ เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายไทยที่กำหนดเอาไว้ ซึ่งคุณแม่ได้ย้ำหนักย้ำหนาว่าเราเป็นคนไทย ถึงแม้จะไปอยู่ต่างประเทศนาน แต่เมื่อพึ่งได้รับเข้าทำงานใหม่ในสายการบิน SAS ไม่สามารถลางานได้ แต่พอาเข้าปี 2563 โควิด19 ระบาดทั่วโลกจนถึงปี 2564 จึงเดินทางไปไหนไม่ได้ จนถึงปีนี้ทางรัฐบาลเปิดรับนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าไทยได้ โดยกักตัวแค่ 1 วัน จึงลางานได้ และได้เดินทางมากลับเมืองไทยบ้านเกิดพร้อมกับคุณแม่และคุณพ่อที่เป็นชาวนอร์เวย์
แอร์โฮสเตสสาวสอง เล่าต่อไปว่า เมื่อวานนี้ ( 7 เม.ย.)ได้เข้ารายตัวที่ห้องสัสดีอำเภอโซ่พิสัย ถูกส่งตัวมา สภ.โซ่พิสัยดำเนินคดี พนักงานสอบสวนได้ส่งตัวฟ้องศาลจังหวัดบึงกาฬทันที และเสียค่าปรับเป็นเงิน 150 บาทฐานไม่มารายงานตัวเมื่อ 3 ปีก่อน ซี่งตนก็ยอมรับและยินดีเพราะเป็นหน้าที่ของชายไทย และวันนี้มารายงานตัวที่หน่วยคัดเลือกทหารเกณฑ์ที่หอประชุมที่ว่าการอำเภอโซ่พิสัย ใช้เวลาไม่นานก็เสร็จได้รับใบแบบ สด.43 เรียบร้อย รู้สึกขอบคุณเจ้าหน้าที่ทหารประจำหน่วยเป็นอย่างมากที่บริการดีมาก
น.ส.ณัฐพร ยาวะระ กริชกำจร กล่าวว่าที่ ประเทศนอรเวย์เขาให้ใช้คำนำหน้าว่า “นางสาว” ส่วนการแปลงเพศเป็นหญิงนั้นได้ทำแต่ด้านบนคือนม ส่วนด้านล่างอวัยวะเพศยังคงเป็นชายอยู่ยังไม่ได้ผ่าตัดเปลี่ยนแปลง ยังพอใจในสิ่งที่ตนมีและคุณแม่ให้กำเนิดมา ส่วนอนาคตนั้นยังไม่แน่ว่าจะเปลี่ยนหรือไม่เปลี่ยนต้องดูอีกที “ส่วนแฟนยังไม่มีค่ะ”
ส่วนการได้ทำงานเป็นแอร์โฮสเตสสาวประเภท 2 ที่ยังไม่ผ่าตัดแปลงเพศสมบูรณ์ 100% นับว่าเป็นคนแรกในประเทศไทย ที่ได้ทำงานแบบริการแบบนี้ ซึ่งตนภูมิใจมากที่ได้ประชาสัมพันธ์ให้กับประเทศไทยเรา เพราะทั้งเอกสารที่นำไปสมัครและการพรีเซนต์งานต่อหน้าคณะกรรมการก็แนะนำว่าเป็นคนไทย แต่ละสายการบินก็ไปสมัครหลายรอบและหลายปี แม้แต่สายการบิน SAS ที่ได้ทำงานมาทุกวันนี้ก็เคยไปสมัครมาแล้ว 3 ครั้ง ถึงถูกคณะกรรมการเรียกไปทดลองงานและรับเข้าทำงาน และวุฒิการศึกษานำไปสมัครเข้าทำงาน ใช้ใบประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง หรือ ปวส.เทียบเท่าวุฒิปริญญาตรี บ้านเราเรียนจบในสายอาชีพธุรกิจท่องเที่ยวและบริหาร เรียน 2 ปี และฝึกงานในธุรกิจนี้อีก 2 ปี เมื่อเรียนจบแล้วพลอยทำงานเป็นพนักงานต้อนรับในโรงแรมใกล้ๆ สนามบิน ก่อนเปลี่ยนมาทำกราวด์ เหตุที่ได้ไปอยู่ประเทศนอร์เวย์ เพราะคุณแม่แต่งงานใหม่กับสามีชาวนอร์เวย์ ตอนอายุได้ 8 ขวบและใช้เวลาอยู่หลายปีกว่าจะพูดและเขียนภาษานอร์เวย์ได้.