วันที่ 8 เม.ย.65 ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.อุดม คชินทร ที่ปรึกษาศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุม ศบค.ชุดใหญ่ ถึงมาตรการช่วงเทศกาลสงกรานต์ ซึ่งยังพบมีผู้ติดเชื้อจำนวนมาก ว่า ตัวเลขผู้ติดเชื้อยังคงที่ แต่ถ้าดูตัวเลขผู้ติดเชื้อปอดอักเสบ ช่วงเดือนก.พ.65 มีประมาณ 500 ราย แต่ตอนนี้ขึ้นไปถึง 1,800-1,900 ราย เพิ่มขึ้นคิดเป็น 3-4 เท่า ส่วนผู้ป่วยที่ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจมีจำนวน 800 กว่าราย เพิ่มขึ้นคิดเป็นเกือบ 8 เท่า ส่วนจำนวนผู้ป่วยตายเมื่อวันที่ 1 ก.พ. มีเพียง 10-20 ราย แต่วันนี้ขึ้นมาถึง 89 ราย เพิ่มขึ้นคิดเป็น 3-4 เท่า หมายความว่าจำนวนผู้ป่วยยังมีจำนวนมากวันละ 5-6 หมื่นราย ซึ่งยังมีที่ยังไม่ได้ตรวจอีกประมาณ 2-3 เท่า ทำให้รวมติดเชื้อวันละกว่าแสนราย
“ ที่กลัวคือจะกระจายในช่วงสงสงกรานต์ เพราะจะมีการรวมตัวกัน การประชุม ศบค. ครั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะ ผอ.ศบค. จึงอยากมาย้ำเรื่องมาตรการ โดยเฉพาะกับผู้ว่าราชการจังหวัดต่างๆ ที่ต้องไปเคร่งครัดมาตรการ เนื่องจากจะไม่เพิ่มมาตรการใดๆทั้งสิ้นแล้ว ขณะนี้มีแต่ผ่อนอย่างเดียว แต่เมื่อเราผ่อนประชาชนต้องช่วยกันดูแลตัวเองเพื่อตัดวงจรระบาด ทำให้กราฟผู้ติดเชื้อที่สูงราบลงมาให้ได้” นพ.อุดม กล่าว
นพ.อุดม กล่าวว่า เราไม่ได้ห้ามที่จะเดินทางไปไหน แต่ขอให้ใส่หน้ากากอนามัย และเว้นระยะห่าง หากเว้นไม่ได้ต้องใส่หน้ากากตลอดเวลา เทศกาลสงกรานต์นี้กลับบ้านได้ แต่ต้องจริงจังกับการรักษามาตรการ ที่สำคัญตอนนี้ต้องฉีดวัคซีน เพราะสามารถป้องกันได้จริงๆ และเหตุที่ต้องฉีดเข็มกระตุ้น เพราะไวรัสมีการกลายพันธุ์ ซึ่งขณะนี้ไทยเพิ่งฉีดเข็ม 3 ประมาณ 35% ถือว่าต่ำมาก ส่วนกลุ่ม 608 ฉีดเข็มกระตุ้นได้ไม่ถึง 40% ด้วยซ้ำ ซึ่งองค์การอนามัยโลก หรือ WHO ออกมาระบุว่า จำเป็นต้องฉีดเข็มกระตุ้นเพื่อป้องกันเชื้อโอมิครอน ขณะที่องค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริกา หรือ FDA ระบุว่าต้องฉีดเข็ม 4 ด้วย แต่คนยังไปเชื่อข้อมูลเก่าที่ไม่ถูกต้อง จึงไม่ไปฉีดกัน
นอกจากนี้ยังมีข้อมูลของอิสราเอล ที่มีการฉีดเข็ม 5 แล้ว มีข้อมูลว่าหากฉีดเข็ม 3 จะติดเชื้อ 360 รายต่อแสนคน และหากฉีดเข็ม 4 จะติดเชื้อเพียง 177 คนต่อแสนคน ส่วนข้อมูลของไทย พบว่าการฉีดเข็ม 4 สามารถป้องกันอาการรุนแรงได้กว่า 90% ดังนั้นการฉีดเข็ม 3 และ เข็ม 4 สามารถลดอัตราความรุนแรง และการเสียชีวิตได้ ทั้งนี้ข้อมูลจากต่างประเทศระบุว่า การฉีดเข็มกระตุ้นสามารถลดอาการลองโควิดได้ถึง 50% ส่วนคนที่บอกว่าไม่ฉีดวัคซีน เพื่อให้ติดเชื้อธรรมชาติดีกว่านั้น เป็นความเชื่อที่ผิด เพราะอัตราการเสียชีวิตทั่วโลกยังสูงอยู่
เมื่อถามว่า เห็นด้วยหรือไม่ที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอให้ยกเลิกการตรวจ RT-PCR มาใช้ ATK แทน กับนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าประเทศ นพ.อุดม กล่าวว่า ตัวเลขผู้ติดเชื้อที่เดินทางเข้าประเทศในขณะนี้น้อยมาก เมื่อเทียบกับจำนวนผู้ติดเชื้อในประเทศที่ตกวันละกว่าแสนคน เพราะที่ผ่านมามีการผ่อนคลายมาตรการการเข้าประเทศตามลำดับ และเป็นสิ่งที่ปฏิบัติกันทั่วโลก เพื่อให้เศรษฐกิจสามารถเดินหน้าต่อได้ เพียงแต่ต้องเคร่งครัดมาตรการสาธารณสุข