วันที่ 7 เม.ย.65 พล.ต.ท.อำนวย นิ่มมะโน กรรมการปฏิรูปประเทศด้านกระบวนการยุติธรรม และอดีตผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (อดีต ผบช.ภ.1) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กพลตำรวจโท อำนวย นิ่มมะโน ระบุว่า... " ได้ทีขี่แพะไล่" " รู้จริงไม่กลัว แต่ที่กลัวเพราะรู้ไม่จริง " หลังจากกระติกยอมอ้าปากพูดความจริง ก็เท่ากับว่าคำให้การก่อนหน้านั้นเป็นเท็จ อันเป็นข้อหาความผิดที่อยู่ในอำนาจศาลแขวง ซึ่งเมื่อผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ พนักงานสอบสวนจึงต้องนำตัวไปฟ้องต่อศาลทันที เรียกกันว่า "ฟ้องวาจา" หรือ "ฟ้องใบแดง" อันเป็นไปตามบทบัญญัติของกฎหมาย ทั้งยังจะทำให้คำให้การของกระติกภายหลังจากถูกฟ้องคดีต่อศาลแล้วมีน้ำหนักในการรับฟังมากขึ้น เนื่องจากคำให้การภายหลังนั้น กระติกไม่ตกอยู่ในฐานะเป็นผู้ต้องหาแล้วจึงมีอิสระในการให้ปากคำ คำให้การจึงไม่จำเป็นที่จะต้องให้การเพื่อให้ตัวเองพ้นผิด หรือโยนความผิดให้กับบุคคลอื่นอีก ซึ่งเป็นวิธีการที่ปฏิบัติสืบเนื่องกันมาเป็นปกติธุระ(ตามกฎหมาย) แต่เมื่อทางอัยการจังหวัดนนทบุรีเห็นว่าคดีนี้การสอบสวนใกล้จะเสร็จสิ้นแล้ว และเป็นคดีที่มีการร่วม หรือรวมกันกระทำความผิดหลายคน หลายกรรม ซึ่งอาจจะมีความเชื่อมโยงถึงกัน จึงอยากให้รวมฐานความผิดที่กล่าวหากระติกฟ้องรวมไปในคดีเดียวกัน เพื่อจะได้เห็นภาพรวม หรืออาจจะมีฐานความผิดอื่นปรากฏขึ้นอีก ก็จะได้สั่งการให้ครบถ้วนสมบูรณ์เสียในคราวเดียวกันซึ่งก็สามารถทำได้เช่นกัน กล่าวโดยสรุปกรณีของกระติก สามารถทำได้ทั้ง 2 วิธี ดังนั้นการที่พนักงานสอบสวนนำสำนวนกลับมารวมเพื่อฟ้องกระติกไปในคดีเดียวกันตามคำสั่งอัยการจังหวัดนนทบุรี จึงไม่ใช่เรื่องที่มีใครหน้าแหก หน้าแตกแต่อย่างใด... หากแต่คนที่หน้าแหก หน้าแตกน่าจะเป็นคนที่ออกมาวิพากษ์วิจารณ์โดยไม่มีความรู้ ไม่รู้ทั้งข้อเท็จจริง ทั้งข้อกฎหมาย ขอให้ได้พูด ขอให้ได้วิพากษ์วิจารณ์ ใครจะเสียหาย ช่างมัน..... หนักไปกว่านั้นเลยเถิดไปถึงมีผู้กล่าวหาว่า "ร่างพระราชบัญญัติการสอบสวนคดีอาญาชั้นตำรวจ" ถูกล้ม ถูกคว่ำ เอาไปเก็บ เอาไปดอง ซึ่งไม่เป็นความจริง และที่กระผมต้องออกมาพูดเรื่องนี้ เพราะกระผมเป็นกรรมการยกร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้ด้วย เหตุที่ร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้ยังไม่เข้าสู่การพิจารณาในสภาเนื่องจากเป็นกฎหมายที่มีความเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกับร่างพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ.... ซึ่งเป็นกฎหมายปฏิรูปประเทศ และขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของรัฐสภา เมื่อกฎหมายเพื่อการปฏิรูปตำรวจยังไม่เสร็จ ยังไม่นิ่ง ร่างพระราชบัญญัติการสอบสวนคดีอาญาชั้นตำรวจ ก็ยังไม่สามารถเสนอเข้าสู่การพิจารณาของสภาได้ ตัวอย่างเช่น จะยุบหรือไม่ยุบ ตำรวจรถไฟ ตำรวจป่าไม้ ตำรวจทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทั่งตำรวจจราจร อำนาจการสอบสวนจะไปเกี่ยวข้องอยู่ในบทบัญญัติของร่างพระราชบัญญัติการสอบสวนคดีอาญา จึงจำเป็นต้องรอให้กฎหมายเพื่อการปฏิรูปตำรวจ เสร็จสะเด็ดน้ำเสียก่อน พูดแค่นี้น่าจะเข้าใจนะ!!! ถ้าไม่รู้ให้ถาม... อธิบายแล้วไม่เข้าใจให้บอก ...จะพูดให้ฟังช้าๆๆ จนกว่าจะเข้าใจ ......อย่าหยิบไปเป็นประเด็น อย่ายกไปชี้นำทำให้สังคม ไขว้เขว สับสน บั่นทอนความน่าเชื่อถือของบุคคล คณะบุคคล องค์กร เพียงเพื่อให้เกิดการสร้างภาพลักษณ์ของตนเอง......... คดีนี้เหตุเกิดกลางลำน้ำเจ้าพระยา คนบนเรือทั้ง 5 คนตกเป็นผู้ต้องหา เป็นคดีที่ยากที่จะหาพยานหลักฐาน แต่พนักงานสอบสวน(ตำรวจ) สามารถสืบสวนสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน จนพิสูจน์ให้เห็นความผิด และพิสูจน์ให้เห็นถึงตัวผู้กระทำความผิดได้ครบถ้วนสิ้นกระแสความ จะสรุปสำนวนในอีกไม่กี่วันนี้แล้ว... ขอชมเชย และให้กำลังใจ มา ณ ที่นี้ ขอให้มีกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ต่อไปอย่างเข้มแข็ง อดทน.... พล.ต.ท.อำนวย นิ่มมะโน อดีตผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 7 เมษายน 2565