เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 7 เมษายน ศูนย์บัญชาเหตุการณ์ตอบโต้โรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จ. นครราชสีมา รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคติดต่อร้ายแรงในพื้นที่ 32 อำเภอ พบผู้ป่วยรายใหม่ 1,923 ราย ป่วยสะสม 78,269 ราย รักษาอยู่ 29,110 ราย รักษาหาย 49,078 ราย เสียชีวิตรายใหม่ 2 ราย เป็นชายอายุ 67 ปี ต.เมืองคง อ.คง ประวัติไม่ได้ฉีดวัคซีน มีโรคประจำตัวเบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดและหญิง อายุ 91 ปี ต.เมืองโดน อ.ประทาย ประวัติรับวัคซีน 2 เข็ม ไม่มีโรคประจำตัว เสียชีวิตสะสม 81 ราย
นายพิสิษฐ์ พงษ์ศิริศุภกุล เลขาธิการมูลนิธิพุทธธรรม 31 นครราชสีมา ในฐานะผู้ประสานงานภารกิจกู้ภัยฮุก.31 โคราช เปิดเผยว่า เฉลี่ยต่อวันไม่ต่ำกว่า 10 ครั้ง ศูนย์สื่อสารสั่งการระบบการแพทย์ฉุกเฉิน 1669 โรงพยาบาลมหาราช นครราชสีมา ได้ขอสนับสนุนรับผู้ป่วยที่เข้าเกณฑ์สอบสวนโรคหรือผู้ป่วย PUI (Patient Under Investigation) ซึ่งเป็นกลุ่มที่ตรวจ ATK ด้วยตนเอง ผลขึ้น 2 ขีด และเริ่มมีอาการป่วย โดยอาสาสมัครสวมชุดป้องกันเชื้อโรคหรือ PPE นำรถตู้ความดันลบออกไปรับตามสถานที่ต่างๆ เพื่อนำเข้าระบบการรักษาอาการติดเชื้อ ซึ่งต้องตรวจ RT-PCR ยืนยันผลก่อน จากนั้นได้ประเมินอาการเบื้องต้น หากมิใช่กลุ่มเสี่ยง 608 และติดเชื้อไม่มีอาการได้ดำเนินการ “เจอ แจก จบ โควิด” รักษาผู้ป่วยนอกระบบใหม่ เป็นการสร้างความมั่นใจและลดข้อกังวลของผู้ติดเชื้อและญาติกรณีรักษาตัวอยู่ที่บ้านพักและนำผู้ป่วยเข้าสู่ระบบการรักษาตามมาตรการสาธารณสุข กรณีมีปัญหาเกี่ยวกับสถานที่กักตัวและผู้ป่วยสามารถช่วยเหลือตัวเองได้ จะนำไปพักรักษาที่อาคารลิปตพัลลภฮอลล์ สนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา ซึ่งเป็นโรงพยาบาลสนาม ขนาด 150 เตียง รพ.สนาม ซึ่งเป็นการสงวนเตียงไว้รองรับผู้ป่วยสีเหลืองหรือกลุ่มที่มีอาการเชื้อลงปอดรวมทั้งได้รับการร้องขอให้ฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อโรคตามสถานที่ทำงานและบ้านพัก
นายพิสิษฐ์ พงษ์ศิริศุภกุล เลขาธิการมูลนิธิพุทธธรรม 31 นครราชสีมา ในฐานะผู้ประสานงานภารกิจกู้ภัยฮุก.31 โคราช เปิดเผยว่า เฉลี่ยต่อวันไม่ต่ำกว่า 10 ครั้ง ศูนย์สื่อสารสั่งการระบบการแพทย์ฉุกเฉิน 1669 โรงพยาบาลมหาราช นครราชสีมา ได้ขอสนับสนุนรับผู้ป่วยที่เข้าเกณฑ์สอบสวนโรคหรือผู้ป่วย PUI (Patient Under Investigation) ซึ่งเป็นกลุ่มที่ตรวจ ATK ด้วยตนเอง ผลขึ้น 2 ขีด และเริ่มมีอาการป่วย โดยอาสาสมัครสวมชุดป้องกันเชื้อโรคหรือ PPE นำรถตู้ความดันลบออกไปรับตามสถานที่ต่างๆ เพื่อนำเข้าระบบการรักษาอาการติดเชื้อ ซึ่งต้องตรวจ RT-PCR ยืนยันผลก่อน จากนั้นได้ประเมินอาการเบื้องต้น หากมิใช่กลุ่มเสี่ยง 608 และติดเชื้อไม่มีอาการได้ดำเนินการ “เจอ แจก จบ โควิด” รักษาผู้ป่วยนอกระบบใหม่ เป็นการสร้างความมั่นใจและลดข้อกังวลของผู้ติดเชื้อและญาติกรณีรักษาตัวอยู่ที่บ้านพักและนำผู้ป่วยเข้าสู่ระบบการรักษาตามมาตรการสาธารณสุข กรณีมีปัญหาเกี่ยวกับสถานที่กักตัวและผู้ป่วยสามารถช่วยเหลือตัวเองได้ จะนำไปพักรักษาที่อาคารลิปตพัลลภฮอลล์ สนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา ซึ่งเป็นโรงพยาบาลสนาม ขนาด 150 เตียง รพ.สนาม ซึ่งเป็นการสงวนเตียงไว้รองรับผู้ป่วยสีเหลืองหรือกลุ่มที่มีอาการเชื้อลงปอดรวมทั้งได้รับการร้องขอให้ฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อโรคตามสถานที่ทำงานและบ้านพัก