วันที่ 4 เม.ย.65 ทางกลุ่มสมาคมกีฬาชนโคใน จ.พัทลุง จำนวน 3 แห่ง คือ สนามชนโคบ้านปากพล สนามชนโคท่ามิหรำ สนามชนโคหยีใน รวมไปถึงเกษตรกรผู้เลี้ยงโค ชาวบ้านแม่ค้า พ่อค้าที่ขายของตามสนามชนโคต่างๆ ผู้นำท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนมาร่วมระดมความคิดเห็นเพื่อให้ทางจังหวัด มีมาตรการผ่อนคลาย อนุญาตให้เปิดบ่อนชนโคได้ โดยเวทีดังกล่าวจัดขึ้นที่ ร้านแบบไทย ถ.เพชรเกษม ต.ท่ามิหรำ อ.เมือง จ.พัทลุง ผู้เข้าร่วมประมาณ 100 คน โดยในที่ประชุม มี ว่าที่นายกองเอกอดุลย์ ชูทอง ปลัดจังหวัดพัทลุง เข้าร่วมรับฟังความคิดเห็นจากเวทีเสวนาในครั้งนี้ด้วย นายมณเทียร มนตรี นายกองค์การบริหารส่วนตำบลนาปะขอ และเป็นนายกสนามชนโคบ้านปากพล บอกว่า วันนี้ได้เชิญตัวแทนกลุ่มที่ได้รับผลกระทบจากการสั่งปิดบ่อนชนโคทั้ง3แห่งของ จ.พัทลุง ทั้งผู้ประกอบการเกี่ยวกับธุรกิจวัวชน เกษตรกรที่เลี้ยงโค เหล่าพ่อค้าแม่ค้าที่ขายของตามบ่อนชนโค และอาชีพอื่นที่เกี่ยวข้องกับการชนโคเกือบร้อยอาชีพ เพื่อระดมความคิดเห็น แลกเปลี่ยนหาแนวทางปฏิบัติไปในทิศทางเดียวกัน เพื่อวอนให้ทางจังหวัดเร่งเข้าช่วยเหลือ ช่วยจัดการอนุญาตให้เปิดบ่อนชนโคได้โดยเร็วที่สุด ทั้งนี้ก็มีการอ้างว่าเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของชาวบ้านที่ปลูกหญ้าขาย ผู้ประกอบการร้านขายอุปกรณ์ชนโค เพราะเชื่อว่าถ้าเศรษฐกิจในชุมชนดี ชาวบ้านมีรายได้ ลดรายจ่าย ปัญหาการก่อเหตุปล้น จี้ ชิงทรัพย์ก็จะลดลงตามไปด้วย ซึ่งตั้งแต่มีการแพร่ระบาดหนักของโรคโควิด-19 จ.พัทลุง สนามชนโค บ่อนการพนันทุกแห่งก็มีการสั่งปิดทั้งหมด ชาวบ้านที่เคยมีรายได้จากสนามชนโควันละ 500-2000บาท รายได้ก็ขาดหายไป พ่อค้า แม่ค้าที่เคยไปค้าขายของ ก็ต้องหยุดยาวมานานกว่า 2 ปี บางรายเปิดขายของที่บ้านแต่ขายไม่ค่อยดี รายได้ก็ลดลง อ้างว่าสู้ไปขายหน้าบ่อน หน้าสนามชนโคดีกว่าลูกค้าก็เยอะ นางสาวอัญชลี ขำนุรักษ์ แม่ค้าขายไก่อบโอ่ง อายุ 43 ปี เล่าว่า ตนตระเวนขายไก่อบโอ่งตามสนามชนโคทั้งในพื้นที่ จ.พัทลุง และ จ.สงขลา ก่อนหน้านี้ตนขายไก่อบโอ่งได้วันละ 200 ตัว แต่พอบ่อน หรือสนามชนโคถูกสั่งปิดตนก็ได้รับผลกระทบมาก ไม่มีที่ไปทำมาหากิน พอมาเปิดขายหน้าบ้านตัวเองก็ขายได้แค่วันละ 20 ตัวเท่านั้น รายได้ลดลงประมาณ 80 เปอร์เซ็นต์ นอกจากนี้ยังกระทบไปถึงเกษตรกรที่ผลิตวัตถุดิบ มาส่งขายให้ที่ร้านอีกด้วย ซึ่ง น.ส.อัญชลีฯ ยังบอกเพิ่มเติมอีกว่า ตอนนี้ทุกคนสามารถปรับตัวอยู่กับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ได้แล้ว และเชื่อว่าทุกคนมีการป้องกันตัวเองกันเป็นอย่างดี จึงอยากวอนทางจังหวัด หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาถึงมาตรการผ่อนปรนดังกล่าว อนุญาตให้มีการเปิดสนามชนโค เพราะอย่างน้อยก็เป็นการช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของชาวบ้าน ได้ระดับหนึ่ง แต่จะเปิดได้หรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับที่ประชุมของ ศบค.จังหวัดพัทลุง ซึ่งจะมีการประชุมกันหลังจากนี้อีกครั้ง และต้องดูแนวโน้มสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค และยอดผู้ป่วยโควิด_19 ของ จ.พัทลุงร่วมด้วย อีกทั้งตอนนี้ในพื้นที่ก็ยังมียอดผู้ป่วยโควิดรายใหม่เพิ่มขึ้นสูงทุกวัน ถึงแม้ว่าในพื้นที่ จังหวัดใกล้เคียงอย่าง จ.สงขลา จะมีการอนุญาตให้เปิดบ่อน หรือสนามชนโคไปแล้วก็ตาม.