ส.ส.พรรคเศรษฐกิจไทย บุกซื้อมะม่วงชาวสวน" อ.บ้านแพ้ว"ราคาตกต่ำ-ไม่คุ้มทุน 6พันโลฯแจกผู้ติดโควิดฯถึงบ้าน
ผู้อสื่อข่าวรายงาน ที่ อ.บ้านแพ้ว น.ส.จอมขวัญ กลับบ้านเกาะ ส.ส.สมุทรสาคร พรรคเศรษฐกิจไทย เขต 3(บ้านแพ้ว) ได้เดินทางไปรับซื้อมะม่วงเพื่อช่วยชาวมะม่วง จำนวน 2 แห่งได้แก่ ต.หลักสอง อ.บ้านแพ้ว หลังเข้าพูดคุยสอบถามปัญหาและรับฟังสาเหตุราคามะม่วงตกต่ำ ปรากฏว่า เป็นชาวสวนมะม่วงโดยรายแรก คือ ของนายกฤษฎา ตั้งสายัณห์ อายุ 22 ปี มีพื้นที่ปลูก 40 ไร่ ม.5 ต.หลักสอง ใช้ปลูกมะม่วง อาทิ พันธ์ฟ้าลั่น เขียวเสวย น้ำดอกไม้ และแก้วขมิ้น โดยนายกฤษฎา ได้เล่าว่า มีขณะนี้มีปัญหาซึ่งช่วงนี้เรียกว่าเป็นมะม่วงหน้าปี โดยในพื้นที่ อ.บ้านแพ้ว ปรกติก็จะออกลูกดกแทบทุกสวน และก็สามารถส่งออกสวนเข้าขายตลาดผลไม้ได้จำนวนมาก อย่างไรก็ตามด้วยจำนวนที่ล่าสุดนี้มผลผลิตออกมาจำนวนมากกัน เป็นเหตุให้ด้านราคาในท้องตลาดล่าสุดนี้ราคาส่งออกเหลือแค่กิโลกรัมละ 2-3 บาท และเมื่อเก็บไปขายจึงได้ราคาถูก 2 หรือ 3 บาทต่อกิโลเท่านั้น ทำให้ไม่คุ้มกับรายจ่ายหรือต้นทุน รวมทั้งจ่ายค่าแรงคนงานผู้เก็บมะม่วงในแต่ละวัน นอกจากนี้ไม่คุ้มกับต้นทุนค่าปุ๋ยค่ายาด้วย เพราะมีราคาต้นทุนขายมาที่สูงขึ้นมาก ส่งผลให้ชาวสวนมะม่วงต้องมีปัญหาขาดทุนดังกล่าว
"สำหรับสวนมะม่วง รายที่ 2 คือ นายอัครวัฒน์ เกาะเต้น อายุ 43 ปี ที่ ม.4 ต.หลักสอง อ.บ้านบ้านแพ้ว เพาะปลูกไว้ 18 ไร่ ได้แก่ พันธุ์น้ำดอกไม้มัน และแก้วขมิ้น โดยนายอัครวัฒน์ เล่าว่า ได้รับผลกระทบจากปัญหาผลผลิตราคาถูกอย่างตกต่ำ ทให้ไม่คุ้มกับเงินที่ลงทุนหรือต้นทุน ทั้งนี้โดยต้องจ้างคนงานเก็บเป็นรายวันอยู่ที่คนละ 350 บาทอย่างต่ำแล้ว อย่างไรก็ตามด้วยเหตุนี้จึงต้องทำใจและปล่อยมะม่วงที่ราคาขายนั้นราคาถูกลง จึงตัดสินใจปล่อยทิ้งคาต้น"
นายอัครวัฒน์ เกาะเต้น เผยว่า สำหรับมะม่วงของตนเองนั้นโดยแต่ละปีจะเก็บผลผลิตได้ไม่เกิน 2 ครั้ง ซึ่งที่พอจะขายได้ราคาดีครั้งเดียว คือ ในหน้าทวาย หรือนอกฤดู อย่างไรก็ตามตอนนี้เมื่อราคาปุ๋ย-ยาในยุคนี้มันแพงมาก ขณะที่ยังจำเป็นต้องใช้ปุ๋ยเพื่อบำรุงต้น ซึ่งยาก็แพงมากขึ้นด้วยเช่นกัน ทั้งนี้ทั้งนั้นในที่สุดก็ต้องทำใจปล่อยทิ้งไว้คาต้นเพราะไม่คุ้มกับต้นทุนนั่นเอง
ด้าน นส.จอมขวัญ กล่าวว่า หลังจากมาสำรวจราคาปัญหามะม่วงของ อ.บ้านแพ้ว ในขณะมีราคาตกต่ำ ล้นตลาด และไม่คุ้มทุนผู้ปลูก จึงช่วยรับซื้อมะม่วงด้วย รวม 2 สวน ได้แก่ พันธ์ฟ้าลั่น และแก้วขมิ้น รวมทั้งสิ้น 6,000 กิโลฯก็เพื่อช่วยนำไปแจกให้กับผู้ติดเชื้อโควิด-19 สำหรับผู้ติดเชื้อต้องกักตัวอยู่บ้าน โดยมีการประสานผู้นำชุมชนไปแจกอีกที ซึ่งก่อนหน้าโดยส่วนใหญ่ตนจะนำถุงยังชีพไปมอบให้กับผู้ป่วย แต่คราวนี้มีรับซื้อมะม่วงเพื่อนำไปมอบให้ถึงบ้านด้วย ผ่านผู้นำชุมชน 10 ตำบล หลังช่วยซื้อไป 6 พันกิโลกรัม ได้แก่ มะม่วงฟ้าลั่น 4,000 กิโลกรัม และพันธุ์แก้วขมิ้น 2,000 กิโลกรัม เพื่อให้นำไปแจกจ่ายให้กับ ปชช.ตามพื้นที่ต่างๆ ทั้งนี้เพื่อได้ช่วยชาวสวน ก่อนนำไปมอบให้กับผู้ติดเชื้อโควิดฯ ที่กำลังกักตัวอยู่ที่บ้านได้รับประทานต่อไป