นายสินธ์ไชย วัฒนศาสตร์สาธร ผู้สมัครนายกเมืองพัทยา หมายเลข 4 กล่าวว่าไม่รู้สึกอย่างไรกับการได้หมายเลข 4 เพราะไม่ตั้งความหวังไว้ที่หมายเลข แต่เชื่อว่าทุกสิ่งทุกอย่างจะอยู่ที่คุณสมบัติของตัวผู้สมัคร ที่ประชาชนคงจะดูในเรื่องคุณสมบัติเป็นหลัก และตัวบุคคลว่ามีความสามารถอย่างไร นโยบายอย่างไร ซึ่งสิ่งเหล่านี้ตัวเองมองว่าเป็นประเด็นสำคัญ เพราะฉะนั้นทุกหมายเลขมีความสำคัญเหมือนกันหมด ​สำหรับการหาเสียงของทีมพัทยาร่วมใจจะเน้นนโยบายแรกเป็นเรื่องของการฟื้นฟูเศรษฐกิจ เป็นนโยบายหลักเลยที่ต้องเร่งดำเนินการที่ทำอย่างไรให้เราสามารถขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้เมืองพัทยาเติบโตไปกว่าเดิม โดยในปี 2564 ตัวเลขนักท่องเที่ยวเรามีอยู่หมื่นกว่าคน และในปีนี้ 2565 หากเรามีโอกาสเข้าไปบริหารเมืองพัทยา สิ่งแรกที่จะทำคือเร่งสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยวก่อนโดยจะดำเนินการสร้างความเข้าใจให้ กับภาคเอกชน และประชาชนเข้าสู่ขบวนการเรื่องของมาตรฐานของสาธารณสุข เพื่อจะทำให้นักท่องเที่ยวเกิดความมั่นใจ อันดับที่สองก็คือกลไกการตลาดที่ตัวเองกับภาคเอกชนได้ทำงานกันมาอย่างต่อเนื่องในการที่ขับ เคลื่อน และอยู่ในแผนที่จะทำงานสานต่อได้ทันที ส่วนการประสานงานกับภาครัฐในเรื่องของนโยบายของรัฐที่ยังมีผลกระทบต่อการท่องเที่ยว ได้มีการประสานงานกันมาตลอดกับรักษาการประธานสภาอุตสาหกรรมและภาคเอกชนในการช่วยกันผลักดันการท่องเที่ยวเมืองพัทยาภายใต้การแพร่ระบาดโควิด-19 ซึ่งมาตรการหรือนโยบายใดที่รัฐออกมาและเป็นอุปสรรคต่อการกระตุ้นและสิ่งเสริมการท่องเที่ยวก็ได้เข้าไปคุยกับรัฐบาล เพื่อ ที่จะปลด หรือผ่อนปรนให้การดำเนินการธุรกิจการท่องเที่ยวเดินหน้าต่อไปได้ และที่ผ่านมาเราสามารถที่จะปลดล็อคได้ในหลาย ๆ เรื่องได้ และเชื่อมั่นว่าภายในกลางปีหรือปลายปีนี้นักท่องเที่ยวจะเติบโตได้ นายสินธ์ไชย กล่าวต่ออีกว่าหลังจากนี้การหาเสียงของทีมพัทยาร่วมในอันดับแรกเลยคือการเคาะประตูบ้านในการที่จะเดินทุกตรอกซอกซอย ซึ่งที่ผ่านทางทีมพัทยาร่วมใจได้มีการลงพื้นที่กันอย่างต่อเนื่องในการที่จะรับฟังปัญหา รับฟังความคิดเห็นความขัดข้องใจที่เกิดขึ้นในเมืองพัทยาและเราจะนำสิ่งเหล่านั้น และสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมเราจะนำกลับมาเป็นนโยบาย ซึ่งนโยบายโดยภาพรวมกว้าง ๆ มันมีอยู่แล้ว ส่วนความมั่นใจเราพกมาเต็มร้อยอยู่แล้วในการที่จะได้รับชัยชนะทั้งตัวนายกเองและสมาชิกเอง มั่นใจว่าชนะยกทีม ++++++++++++