วันที่ 29 มีนาคม 2565 เวลา 09.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า ชาวสวนมะม่วง ใน จ.สุพรรบุรี จ.อ่างทอง จ.สิงห์บุรี นำมะม่วงที่ขายไม่ได้มาเททิ้งที่ตลาดกลางมะม่วง ต.วังยาง อ.ศรีประจันต์ จ.สุพรรณบุรี เนื่องจากราคามะม่วงตกต่ำ ไม่มีคนรับซื้อ และอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และรัฐบาลเข้ามาช่วยเหลือบ้าง
โดย น้นางสุนทร พันธุ์อย เกษตรกรและแม่ค้าขายมะม่วง ที่ตลาดกลางมะม่วง ต.วังยาง อ.ศรีประจันต์ จ.สุพรรณบุรี บอกว่า รับซื้อมะม่วงจากชาวสวน จ.อ่างทอง สุพรรณฯ และสิงห์บุรี มาหลายปีแล้ว แต่ปีนี้หนักมาก เพราะไม่มีคนมารับซื้อต่อทำให้มะม่วงที่ปลูกเอง และรับซื้อไว้ เน่าเสียหายจำนวนมาก ตอนนี้มะม่วงที่รับซื้อมีราคากิโลกรัมละ 1 บาท ถึง 8 บาท แล้วแต่คุณภาพมะม่วง โดยมะม่วงที่นำมาทิ้งวันนี้คือ มะม่วงดีเกรดเอ แต่ขายไม่ได้ราคารวมกว่า 20 ตัน
สำหรับราคามะม่วงเกรดเอ ที่มีคุณภาพดี และขายกันอยู่ในขณะนี้ มะม่วงน้ำดอกไม้กิโลละไม่เกิน 5 บาท มะม่วงเขียวเสวย ไม่เกิน 10 บาท มะม่วงมันเดือนเก้า 1.25 บาท มะม่วงแก้วขมิ้น ไม่เกิน 5 บาท ซึ่งถือว่าถูกมาก และไม่คุ้มกับการลงทุน
ป้าต้อย บอกว่า มะม่วง 20 ตัน หรือมากกว่า 30 ตัน จะไปกวนยังไงไหว เมื่อกวนแล้วใครจะซื้อ เพราะทุกบ้านก็กวน และ ตอนนี้มะม่วงกวน ก็ขายยาก เพราะผู้บริโภคมีเฉพาะกลุ่มเล็กๆ อยู่ในวงแคบๆ ซึ่งระยะนี้มะม่วงออกมาก และปลูกหลายพื้นที่ อันนี้เข้าใจได้ แต่ที่ราคามันดิ่งลงและไม่มีคนมารับซื้อเป็นเพราะมีการนำเข้ามะม่วงจากประเทศเพื่อนบ้านในแถบภาคตะวันออกเข้ามาตีตลาดในประเทศไทย ในช่วงที่มะม่วงในไทยกำลังออกผลผลิต
ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องเข้ามาแก้ปัญหาแต่เนิ่นๆ โดยเฉพาะเมื่อรู้ว่ามะม่วงในประเทศไทยกำลังจะออกผลผลิต ควรมีคำสั่งห้ามสินค้าเกษตรและผลไม้จากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาก่อน เพราะถ้ามีการนำสินค้าเกษตรจากต่างประเทศเข้ามาได้ สินค้ามันจะล้นตลาดเป็น 2 เท่า


