วันที่29มี.ค.65เวลา 09.00 น. ร.ต.อ.สุริยา ผลชู ร้อยเวรสอบสวนสภ.คลองหลวง ได้รับแจ้งเหตุยิงกันเสียชีวิต ภายในที่จอดรถหน้าหอพักไม่มีชื่อเลขที่ 55/84ม.13 ภายในนิคมอุตสาหกรรมนวนคร ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จึงไปที่เกิดเหตุพร้อมด้วยพล.ต.ต.ชุมพล ชาญชนะโยธิน ผบก.จ.ปทุมธานี พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ มิตรปราสาท ผกก.สภ.คลองหลวง พ.ต.ท.สุชัย แสงส่อง รอง ผกก.สอบสวนสภ.คลองหลวง พ.ต.ต.สิรภพ บัวหลวง สว.สส.สภ.คลองหลวง พ.ต.ต. วีระ สุขชนะ สว.สส.สภ.คลองหลวง เจ้าหน้าที่ตำรวจศูนย์พิสูจน์หลักฐาน1แพทย์นิติเวชโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ เฉลิมพระเกียรติ เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู ที่เกิดเหตุพบผู้เสียชีวิตเป็นชาย 1 รายทราบชื่อนายไพศาล ทับเอี่ยม อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 94/3 ม.1 ต.บางแก้ว อ.บรรพตพิสัย จ.นครสวรรค์ ถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด.380 มม.เข้าที่หน้าอกซ้ายจำนวน 1แผล และที่ศีรษะมีรอยตีด้วยของแข็ง และพบปลอกขนาดปืนขนาด.380 มม.ตกอยู่ในที่เกิดเหตุจำนวน 1ปลอก ใกล้กันพบขวดเบียร์แตกอยู่ในที่เกิดเหตุและวางอยู่บนเก้าอี้พร้อมแก้วเบียร์จำนวนหนึ่ง ส่วนผู้ก่อเหตุทราบชื่อนายสุรินทร์ มาสุข อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 40 ม. 17 ต.สร้างถ่อ อ.เขื่องใน จ.อุบลราชธานี ยืนรอมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ในที่เกิดเหตุพร้อมอาวุธปืนไทยประดิษฐ์ขนาด .380 มม. จำนวน 1 กระบอก จากการสอบถามสุพัตรา วงษ์วิภาค อายุ 45 ปี บอกว่าขณะเกิดเหตุตนเองก็อยู่ในวงเหล้าด้วยซึ่งคนตายกำลังต้มมาม่าให้ตนเองกิน จากนั้นคนยิงกับคนตายได้มีปากเสียงและชกต่อยกันจากนั้นคนก่อเหตุก็คว้าปืนออกมายิงเลยซึ่งขณะนั้นก็นั่งกินเหล้ากันอยู่ 3 คน มีคนตาย คนก่อเหตุ และตัวหนูเองซึ่งกินตั้งแต่7โมงครึ่ง ส่วนนายสุรินทร์ มาสุข อายุ 28 ปี คนก่อเหตุบอกว่าซึ่งขณะนั้นตนเองนั่งกินเหล้ากันอยู่ 3 คน ซึ่งคนตายใช้ตนเองไปซื้อเกาเหลาแต่ร้านปิด ต่อมาก็ใช้ตนเองไปซื้อไก่มานึ่งแต่ตนเองไม่มีตังค์ และเขามาด่าตนเองว่าหัวหมอ มึงใหญ่มาจากไหนกูไม่สน และเขาก็ด่าพ่อกับแม่ตนจึงชักปืนยิงใส่ไป1 นัดจนเขาล้มตายตนเองก็รอมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ในที่เกิดเหตุ ด้านร.ต.อ.สุริยา ผลชู ร้อยเวรสอบสวนสภ.คลองหลวง หลังจากตรวจสอบที่เกิดเหตุแล้วจึงบันทึกภาพไว้เป็นหลักฐานและได้นำตัวนายสุรินทร์ มาสุข อายุ 28 ปี คนก่อเหตุ ทำแผนประกอบคำรับสารภาพนะจุดเกิดเหตุพร้อมทั้งนำตัวไปดำเนินคดีที่สภ.คลองหลวง ส่วนผู้เสียชีวิตได้ให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญูนำผู้เสียชีวิตส่งนิติเวชโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ เฉลิมพระเกียรติ เพื่อตรวจสอบอีกครั้ง