เมื่อวันที่ 28 มีนาคม ที่ กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน (บช.ตชด.) พล.ต.ต.วรายุทธ สุขวัฒน์ รอง ผบช.ตชด. พร้อมด้วย พล.ต.ต.กัญชล อินทราราม ผบก.ตชด.ภาค 1, พล.ต.ต.อรรถวุฒิ อ่อนทรัพย์ ผบก.ตชด.ภาค 4, พ.ต.อ.วชิระ พานิชการ รอง ผบก.ตชด. ภาค 1, พ.ต.อ.กวินศักดิ์ พีรยศธนนนท์ รอง ผบก.ตชด. ภาค 4, พ.ต.ท.วีระศักดิ์ คงเพชร ผบ.ร้อย ตชด. 417 และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมแถลงผลการจับกุมเครือข่ายยาเสพติด ภาคอีสาน ทำการจับกุมผู้ต้องหา 4 ราย ได้แก่ นายศราวุธ หรือพจน์ อายุ 25 ปี ชาวกรุงเทพฯ, นายธนัชพงศ์ หรือแดง อายุ 49 ปี ชาว จ.แม่ฮ่องสอน, น.ส.จารุภา หรือจูน อายุ 27 ปี ชาว จ.นครราชสีมา และ นายอภิสิทธิ์ หรืออาร์ม อายุ 25 ปี ชาว จ.นครราชสีมา พร้อมของกลาง กัญชาแห้งอัดแท่ง 18 กระสอบ รวมน้ำหนักประมาณ 700 กิโลกรัม, รถยนต์กระบะ ยี่ห้อโตโยต้า ไฮลัก สีขาว หมายเลขทะเบียน 1ฒล 4651 กรุงเทพมหานคร 1 คัน, รถยนต์เก๋ง ยี่ห้อโตโยต้า วีออส สีขาว หมายเลขทะเบียน ขต 3560 นครราชสีมา 1 คัน, รถยนต์มิตซูบิชิ ปาเจโร่ สีบลอนด์ หมายเลขทะเบียน 8กฎ 2610 กรุงเทพมหานคร 1 คัน และ โทรศัพท์มือถือ พร้อมซิมการ์ด 4 เครื่อง
พล.ต.ต.วรายุทธ เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2564 บก.ตชด.ภาค 4 ทำการจับกุมผู้ต้องหา 6 ราย พร้อมของกลางกัญชาอัดแห้ง 25 กระสอบ น้ำหนักรวม 999 กิโลกรัม ในพื้นที่ จ.สงขลา โดยผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าติดต่อซื้อกัญชามาจากผู้ค้ากัญชาชาวลาว และมีนายหน้าลำเลียงกัญชา มาจากทางภาคอีสาน เขตติดต่อ จ.นครพนม และ จ.มุกดาหาร เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้ทำการสืบสวนจนทราบว่า เครือข่ายยาเสพติดดังกล่าวมีนายธนัชพงศ์ เป็นผู้ติดต่อกับผู้ค้ากัญชาชาวลาว และเป็นผู้นำกัญชามาส่งต่อให้กับลูกค้าในพื้นที่ ภาคกลาง และภาคใต้ เพื่อส่งต่อไปยังประเทศเพื่อนบ้าน
พล.ต.ต.วรายุทธ เผยอีกว่า ต่อมาวันที่ 25 มีนาคมที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม สืบทราบว่า นายธนัชพงศ์ จะใช้รถกระบะโตโยต้ามีตู้เหล็กท้ายกระบะ ของบริษัทแห่งหนึ่ง หมายเลขทะเบียน 1ฒล 4651 กรุงเทพมหานคร เป็นยานพาหนะในการลำเลียงกัญชา และมี รถยนต์เก๋ง ยี่ห้อโตโยต้า วีออส สีขาว หมายเลขทะเบียน ขต 3560 นครราชสีมา เป็นรถทาง ในการลำเลียงยาเสพติดจาก จ.มุกดาหาร ส่งให้กับลูกค้าในพื้นที่ ภาคกลาง
พล.ต.ต.วรายุทธ เผยอีกว่า กระทั่งเมื่อเวลาประมาณ 03.30 น. วันที่ 26 มีนาคมที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมสืบทราบว่ารถยนต์คันดังกล่าวได้จอดอยู่ริมถนนภายในหมู่บ้าน ต.ลำโพ อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี และพบ นายศราวุธ กำลังเปิดประตูเหล็กท้ายรถกระบะคันดังกล่าว จึงเข้าแสดงตัวเพื่อขอตรวจค้น พบถุงพลาสติกสีดำพันด้วยเทปใส ห่อหุ้มกระสอบสีขาวอีกชั้นหนึ่ง เมื่อเปิดดูภายในพบกัญชาอัดแห้งลักณะเป็นแท่งสี่เหลี่ยมผืนผ้า ห่อหุ้มด้วยกระดาษฟอร์ยสีทองและพันด้วยพลาสติกใสอีกชั้นหนึ่ง จำนวน 18 กระสอบ วางอยู่ภายในตู้เหล็กหลังรถกระบะคันดังกล่าว
พล.ต.ต.วรายุทธ เผยอีกว่า จากการสอบถาม นายศราวุธให้การว่ารับกัญชาดังกล่าวมาจาก ต.ป่งข่าม อ.หว้านใหญ่ จ.มุกดาหาร เพื่อนำมาส่งให้กับลูกค้าในพื้นที่ อ.บางบัวทอง เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงให้ นายศราวุธ นำเจ้าหน้าที่เข้าทำจับกุมตัวนายธนัชพงศ์ ซึ่งรอรับเงินค่ากัญชาอยู่บริเวณปั๊มน้ำมันห่างจากจุดแรกประมาณ 10 กิโลเมตร โดยระหว่างนั้น นายธนัชพงศ์ กำลังนั่งอยู่กับ น.ส.จารุภา และนายอภิสิทธิ์ ผู้ขับรถนำทางให้กับนายศราวุธ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงทำการจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 4 ราย
พล.ต.ต.วรายุทธ เผยอีกว่า จากการสอบถาม นายธนัชพงศ์ให้การว่าซื้อกัญชาดังกล่าวผ่านนายหน้าชาวลาว โดยตกลงราคาทางฝั่ง สปป.ลาว กิโลกรัมละ 400 บาท และนำมาส่งให้กับลูกค้าในประเทศไทย ราคากิโลกรัมละ 15,000 บาท รวมมูลค่า 10,500,000 บาท หากสามารถลำเลียงไปยังประเทศมาเลเซียได้ราคาจะสูงถึง กิโลกรัมละ 50,000 บาท รวมมูลค่า 35 ล้านบาท
เบื้องต้นตำรวจแจ้งข้อหา “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 5 (กัญชา) ไว้ในครอบครองเพื่อการค้าโดยไม่ได้รับอนุญาตและก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน” และนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งให้ กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) พร้อมทั้งขยายผลถึงผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง และดำเนินการตรวจยึดทรัพย์สินที่เกี่ยวเนื่องจากการกระทำความผิดต่อไป
พล.ต.ต.วรายุทธ เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2564 บก.ตชด.ภาค 4 ทำการจับกุมผู้ต้องหา 6 ราย พร้อมของกลางกัญชาอัดแห้ง 25 กระสอบ น้ำหนักรวม 999 กิโลกรัม ในพื้นที่ จ.สงขลา โดยผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าติดต่อซื้อกัญชามาจากผู้ค้ากัญชาชาวลาว และมีนายหน้าลำเลียงกัญชา มาจากทางภาคอีสาน เขตติดต่อ จ.นครพนม และ จ.มุกดาหาร เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้ทำการสืบสวนจนทราบว่า เครือข่ายยาเสพติดดังกล่าวมีนายธนัชพงศ์ เป็นผู้ติดต่อกับผู้ค้ากัญชาชาวลาว และเป็นผู้นำกัญชามาส่งต่อให้กับลูกค้าในพื้นที่ ภาคกลาง และภาคใต้ เพื่อส่งต่อไปยังประเทศเพื่อนบ้าน
พล.ต.ต.วรายุทธ เผยอีกว่า ต่อมาวันที่ 25 มีนาคมที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม สืบทราบว่า นายธนัชพงศ์ จะใช้รถกระบะโตโยต้ามีตู้เหล็กท้ายกระบะ ของบริษัทแห่งหนึ่ง หมายเลขทะเบียน 1ฒล 4651 กรุงเทพมหานคร เป็นยานพาหนะในการลำเลียงกัญชา และมี รถยนต์เก๋ง ยี่ห้อโตโยต้า วีออส สีขาว หมายเลขทะเบียน ขต 3560 นครราชสีมา เป็นรถทาง ในการลำเลียงยาเสพติดจาก จ.มุกดาหาร ส่งให้กับลูกค้าในพื้นที่ ภาคกลาง
พล.ต.ต.วรายุทธ เผยอีกว่า กระทั่งเมื่อเวลาประมาณ 03.30 น. วันที่ 26 มีนาคมที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมสืบทราบว่ารถยนต์คันดังกล่าวได้จอดอยู่ริมถนนภายในหมู่บ้าน ต.ลำโพ อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี และพบ นายศราวุธ กำลังเปิดประตูเหล็กท้ายรถกระบะคันดังกล่าว จึงเข้าแสดงตัวเพื่อขอตรวจค้น พบถุงพลาสติกสีดำพันด้วยเทปใส ห่อหุ้มกระสอบสีขาวอีกชั้นหนึ่ง เมื่อเปิดดูภายในพบกัญชาอัดแห้งลักณะเป็นแท่งสี่เหลี่ยมผืนผ้า ห่อหุ้มด้วยกระดาษฟอร์ยสีทองและพันด้วยพลาสติกใสอีกชั้นหนึ่ง จำนวน 18 กระสอบ วางอยู่ภายในตู้เหล็กหลังรถกระบะคันดังกล่าว
พล.ต.ต.วรายุทธ เผยอีกว่า จากการสอบถาม นายศราวุธให้การว่ารับกัญชาดังกล่าวมาจาก ต.ป่งข่าม อ.หว้านใหญ่ จ.มุกดาหาร เพื่อนำมาส่งให้กับลูกค้าในพื้นที่ อ.บางบัวทอง เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงให้ นายศราวุธ นำเจ้าหน้าที่เข้าทำจับกุมตัวนายธนัชพงศ์ ซึ่งรอรับเงินค่ากัญชาอยู่บริเวณปั๊มน้ำมันห่างจากจุดแรกประมาณ 10 กิโลเมตร โดยระหว่างนั้น นายธนัชพงศ์ กำลังนั่งอยู่กับ น.ส.จารุภา และนายอภิสิทธิ์ ผู้ขับรถนำทางให้กับนายศราวุธ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงทำการจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 4 ราย
พล.ต.ต.วรายุทธ เผยอีกว่า จากการสอบถาม นายธนัชพงศ์ให้การว่าซื้อกัญชาดังกล่าวผ่านนายหน้าชาวลาว โดยตกลงราคาทางฝั่ง สปป.ลาว กิโลกรัมละ 400 บาท และนำมาส่งให้กับลูกค้าในประเทศไทย ราคากิโลกรัมละ 15,000 บาท รวมมูลค่า 10,500,000 บาท หากสามารถลำเลียงไปยังประเทศมาเลเซียได้ราคาจะสูงถึง กิโลกรัมละ 50,000 บาท รวมมูลค่า 35 ล้านบาท
เบื้องต้นตำรวจแจ้งข้อหา “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 5 (กัญชา) ไว้ในครอบครองเพื่อการค้าโดยไม่ได้รับอนุญาตและก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน” และนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งให้ กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) พร้อมทั้งขยายผลถึงผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง และดำเนินการตรวจยึดทรัพย์สินที่เกี่ยวเนื่องจากการกระทำความผิดต่อไป