เมื่อวันที่ 26 มี.ค.65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (25 มี.ค.) ศาลแพ่ง ถ.รัชดาภิเษก อ่านคำพิพากษาคดีผู้บริโภค หมายเลขดำผบ.3656/2562ที่น.ส.วธิษณา เดือนดาว อายุ 55 ปี เป็นโจทก์ยื่นฟ้องบริษัท โรงพยาบาลสัตว์เเห่งหนึ่ง และสัตวแพทย์อีก 2 ราย ร่วมกันเป็นจำเลยที่ 1-3 เรื่องละเมิดในทางการที่จ้าง,สิทธิที่จะได้รับข่าวสารที่ถูกต้องและเพียงพอเกี่ยวกับบริการในฐานะผู้บริโภค,ข้อสัญญาที่ไม่เป็นธรรม พร้อมเรียกค่าสินไหมทดแทน 1,000,000 บาท โดยโจทก์ยื่นฟ้องคดีเมื่อวันที่ 7 ส.ค.62 มีใจความสรุปว่า โจทก์ได้นำสุนัขเพศผู้ชื่อ "เจอร์นี่หรือเจ๋อ" มาเลี้ยงตั้งแต่อายุ 3 เดือน ดูแลเป็นอย่างดี และมีการตรวจสุขภาพทุกเดือน จนอายุ 11 ปี 6 เดือน ล่าสุดเมื่อเดือน เม.ย.62 ตรวจพบเจอชิ้นเนื้อในปอดขนาด 3 ซม. โจทก์ได้นำสุนัขเข้าตรวจที่รพ.สัตว์จำเลย และปรึกษาแพทย์เพื่อทำการรักษา โดยสัตวแพทย์ ได้ให้คำแนะนำ และโน้มน้าวให้นำสุนัขมารักษา โดยวิธีการผ่าตัดส่องกล้อง ราคา 35,000 บาท และบอกค่าใช้จ่ายใหม่ อ้างว่าต้องผ่าตัดโดยสัตวแพทย์ผู้เชี่ยวชาญการส่องกล้อง ค่าใช้จ่ายประมาณ 80,000-100,000 บาท โจทก์ได้ตัดสินใจนำสุนัขเข้าผ่าตัดรักษา และจ่ายเงิน 100,000 บาท เมื่อถึงเวลาผ่าตัดปรากฏว่าเป็นสัตวแพทย์อีกคนอื่น ที่ไม่ชำนาญในการผ่าตัดแบบส่องกล้อง เมื่อเข้าผ่าตัดได้ไม่นานสุนัขก็เสียชีวิต เนื่องจากขณะผ่าตัดโดยการนำกล้องสอดเข้าไปในลำตัว ถูกเส้นเลือดใหญ่ และยังไม่ถึงปอดจุดที่พบชิ้นเนื้อ ภายหลังสุนัขเสียชีวิตผ่านไป 1 สัปดาห์ โจทก์ไม่สามารถนอนหลับได้ ต้องใช้ยานอนหลับตลอด เพราะช็อคกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ทางโรงพยาบาล จำเลย ได้ชี้แจงว่า การผ่าตัดปอดส่องกล้อง มีวิธีการที่ซับซ้อนและมีความเสี่ยงสูง เพราะต้องผ่านเส้นเลือดและอวัยวะสำคัญ ซึ่งก่อนหน้านี้ กลับแจ้งว่าการผ่าตัดรักษาด้วยวิธีนี้ ไม่มีความอันตราย ไม่เสียเลือด และมีแผลขนาดเล็ก โดยหากรู้ว่า มีความซับซ้อน โจทก์ก็จะไม่ทำการรักษาเด็ดขาด เมื่อศาลพิเคราะห์แล้ว เห็นว่าสัตวแพทย์ผู้ทำการผ่าตัดกระทำโดยประมาท และโรงพยาบาลสัตว์ จำเลยซึ่งเป็นสถานที่ใช้ทำการผ่าตัดต้องรับผิดแบบลูกหนี้ร่วม เนื่องจากโรงพยาบาลฯ ได้รับประโยชน์จากค่ารักษาพยาบาลและโจทก์เชื่อมั่นในโรงพยาบาล จำเลย จึงนำสุนัขมาผ่าตัด ดังนั้นโรงพยาบาลสัตว์ จำเลยจึงต้องร่วมรับผิดด้วย จึงพิพากษาว่า ให้จำเลยทั้งสาม ร่วมกันชดใช้ค่าเสียหายราคาสูงสุดของสุนัขพันธุ์นี้ 70,000 บาท เเละค่าเสียหายทางจิตใจให้ส่วนที่โจทก์ไปรักษาอาการโศกเศร้า ประมาณ 7,000 บาท เเละค่าทนายความจำนวน 30,000 บาท รวมประมาณ 107,000 บาทแก่โจทก์