ใกล้หมดเวลาของ "ราล์ฟ รังนิค" กุนซือชั่วคราวชาวเยอรมัน ของยอดทีม"แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด" ในศึกพรีเมียร์ลีก ประเทศอังกฤษ ด้วยสัญญาระยะสั้นจนถึงสิ้นสุดฤดูกาล 2021-22 พร้อมกับเลื่อนขึ้นไปรับตำแหน่งที่ปรึกษา หลังจากที่เข้ามาคุมทีมปีศาจแดงแทนที่ "โอเล กุนนาร์ โซลชาร์" ที่ถูกปลดไปก่อนหน้านี้
ก่อนหน้านี้ การมาของ "ราล์ฟ รังนิค" สร้างความปีติยินดีให้กับเหล่าสาวก "เรด เดวิล" เป็นอย่างมาก เนื่องจากคาดหวังกันว่า เจ้าของฉายา "เดอะ โปรเฟสเซอร์" ที่มีดีกรีระดับตำนาน ด้วยการนำแท็กติก "เกเก้น เพรสซิ่ง" มาใช้เปลี่ยนแปลงระบบการเล่นของทีมฟุตบอลจนโด่งดังในอดีต จะนำพาทีมขวัญใจของพวกเขากลับมาทวงความยิ่งใหญ่ในเกาะอังกฤษได้อีกครั้ง
แต่ไม่เป็นเช่นนั้น "ปีศาจแดง" ปัจจุบันอยู่ในอันดับ 6 ของตารางพรีเมียร์ลีก แถมก่อนหน้ายังตกรอบ 4 ในศึกบอลถ้วยเอฟเอ คัพ และล่าสุดพ่าย แอตฯ มาดริด คาบ้าน ร่วงตกรอบ 16 ทีมสุดท้าย ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก ไม่เหลืออะไรให้ลุ้นแล้วสำหรับฤดูกาลนี้ สรุปการเข้ามาของ "ราล์ฟ รังนิค" ยังไม่สามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงในถิ่น "โอลด์แทรฟฟอร์ด" ได้
เมื่อเร็วๆนี้ บอร์ดบริหารของแมนฯยู กำลังอยู่ในขั้นตอนของการหากุนซือคนใหม่ โดยที่ผ่านมามีเทรนเนอร์หลายรายที่ตกเป็นข่าวกับ "ปีศาจแดง" ไม่ว่าจะเป็น เอริค เทน ฮาก จากอาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม, เมาริซิโอ โปเช็ตติโน จากปารีส แซงต์ แชร์กแมง และฆูเลียน โลเปเตกี จาก เซบีญา รวมไปถึง โธมัส ทูเคิ่ล กุนซือ เชลซี
จากการพิจารณา "โธมัส ทูเคิ่ล" กุนซือทีมเชลซี บอร์ดบริหารมองว่า อาจจะมีปัญหายืดเยื้อ หากเชลซี ได้เจ้าของสโมสร คนใหม่ และนั่นอาจทำให้เสียเวลาในการดำเนินการในการหากุนซือ คนอื่นไป เนื่องจากกุนซือชาวเยอรมัน นั้นยังมีความมุ่งมั่นอย่างเต็มเปี่ยมกับทีมสิงห์บลูส์ในตอนนี้ ส่วน"เมาริซิโอ โปเช็ตติโน" นายใหญ่ทีมปารีส แซงต์ แชร์กแมง บอร์ดบริหารมองว่ายังไม่ใช่ตัวเลือกที่เหมาะสมในเวลานี้จากผลงานที่ล้มเหลวกับทีมในปัจจุบัน
และเป็น "เอริค เทน ฮาก" กุนซือสมองเพชรของสโมสร"อาแจกซ์ อัมสเตอร์ดัม" ประเทศเนเธอร์แลนด์ เป็นตัวเต็งที่จะเข้ามาเป็นผู้จัดการทีมคนใหม่ของ แมนฯ ยู แบบเต็มตัว หลังมีรายงานว่าบอร์ดบริหารได้ตัดสินใจเลือกแล้ว โดยเชื่อมั่นว่ากุนซือชาวดัทช์ จะสามารถเข้ามาวางโครงสร้าง และสร้างระบบให้กับทีมได้แบบยาวนาน อย่างน้อยในอีก 5 ปีข้างหน้า เพื่อพาทีมกลับมาทวงความยิ่งใหญ่ในอังกฤษและยุโรปอีกครั้ง
นอกจากนี้ บอร์ดบริหารแมนฯยู ยังมองว่า กุนซือชาวดัทช์ วัย 52 ปี ไม่เพียงช่วยดึงดูดผู้เล่น แต่ยังช่วยรั้งผู้เล่นบางคนไว้ได้ด้วย โดยแมนฯยู จะต้องเจรจากับ อาแจ็กซ์ อย่างเป็นทางการอีกครั้ง เนื่องจากกุนซือ วัย 52 ปี ยังมีสัญญาอยู่กับทีมถึงปี 2023
ล่าสุด มีรายงานข่าว ว่า "เอริค เทน ฮาก" ได้เดินทางมาเพื่อพูดคุยกับ "จอห์น เมอร์เท่อห์" ผู้อำนวยการฝ่ายกีฬา และ"ดาร์เรน เฟล็ตเชอร์" ผู้อำนวยการฝ่ายเทคนิค และอดีตนักเตะทีม เมื่อวันจันทร์ที่ 21 มีนาคมที่ผ่านมา
สำหรับเส้นทางการคุมทีมของ "เอริค เทน ฮาก" เคยเป็นนายใหญ่สโมสรอูเทร็คท์ ในปี 2015 ทีมใน เอเรดิวิซี่ ลีกสูงสุดของเนเธอร์แลนด์ ก่อนที่ในฤดูกาลที่สองของเขาจะสามารถพาทีมจบอันดับที่ 4 ในตาราง จนคว้าตั๋วไปเล่นในศึกยูฟ่า ยูโรปา ลีก ได้ ซึ่งเป็นการจบอันดับสูงที่สุดของสโมสรนับตั้งแต่ปี 1991
หลังจากนั้นเขาก็ถูก อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม ยื่นข้อเสนอที่ยากจะปฏิเสธได้เข้ามา โโยเขาเข้ามาคุมทีมตั้งแต่ปี 2018 พาทีมได้แชมป์ลีก 2 สมัย แชมป์ฟุตบอลถ้วยภายในประเทศ 2 สมัย และแชมป์ ซูเปอร์คัพฮอลแลนด์ 1 สมัย โดยปัจจุบันผลงานของ อาแจกซ์ ยังคงนำเป็นจ่าฝูง ของตาราง โดยสถิติการคุมทีม 403 เกม คว้าชัยชนะมาได้มากถึง 257 นัด หรือคิดเป็น 63.77% ซึ่งเป็นค่าเฉลี่ยที่สูงกว่าผู้จัดการทีมระดับท็อปหลายคนเลยทีเดียว
สมัยเป็นนักเตะ "เอริค เทน ฮาก" เป็นนักเตะในตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ็กให้กับทีมในลีกบ้านเกิด ได้แก่ ทเวนเต, เดอ กราฟชาป, อาร์เคซี วาลไวก์ และอูเทร็คท์ รวมลงเล่นทุกเกมมากกว่า 350 เกมในทุกรายการ โดยกว่า 200 นัดมาจากการลงเล่นให้กับ ทเวนเต้ สโมสรที่เขาสามารถคว้าแชมป์ใบแรกและใบเดียวมาได้จากการเอาชนะการดวลจุดโทษเหนือ พีเอสวี ไอนด์โฮเฟน ในรายการ ดัตช์ คัพ รอบชิงชนะเลิศ