"437 สถานศึกษา พัฒนาสร้างรายได้" เพื่อไทยเพิ่มโอกาสคนกรุงเทพฯ เรียนรู้ตลอดชีวิต ผ่าน Maker Space หาความรู้ใหม่ๆ ได้ทุกที่ ทุกเวลา หวังสร้างความมั่งคั่ง มั่นคง ทางการศึกษา
วันที่ 24 มี.ค.65 นายวิรัตน์ มีนชัยนันท์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ก.เขตมีนบุรี พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ว่าที่ผู้สมัคร ส.ก.ของพรรคเพื่อไทย ขอเสนออีกนโยบาย “437 สถานศึกษา พัฒนาสร้างรายได้” โดยจะเปิดพื้นที่โรงเรียนในสังกัด กทม. 437 แห่ง ให้กลายเป็นพื้นที่สำหรับทุกคน ให้บริการการศึกษาทั้งในและนอกระบบ เป็นพื้นที่ของงาน เงิน และ อนาคต ได้แก่ 1.การศึกษาในระบบ : ส.ก.ของเพื่อไทยจะเข้าไปผลักดันเพิ่มการเรียนภาษาที่ 2 อังกฤษและจีน เพิ่มทักษะคอมพิวเตอร์และโปรแกรมมิ่ง เพื่อให้เด็กและเยาวชน มีทักษะความรู้ในโลกสมัยใหม่ 2.การศึกษานอกระบบ : ส.ก.จากพรรคเพื่อไทยจะเข้าไปเปิดรั้วโรงเรียน ทำให้โรงเรียนในสังกัด กทม. 437 แห่ง เป็นศูนย์การเรียนรู้ตลอดชีวิต (Maker space) โดย กทม.มีหน้าที่สนับสนุนงบประมาณ จัดจ้างครู อุปกรณ์ เหมือนที่ ‘Chiang Mai Maker Club’ ทำแล้ว เด็กและเยาวชนที่สนใจเรื่องวิศวกรรม ใช้สถานที่ร่วมกัน เปิดทำการตลอดเวลา มีคนจัดหาอุปกรณ์สำหรับสร้างงานประดิษฐ์ หาเวทีประกวด ซึ่ง Maker space มีได้หลากหลายรูปแบบ เช่น การทำอาหาร ตัดเย็บเสื้อผ้า โรงถ่ายหนัง มาสร้างสรรค์งานร่วมกัน จนเกิดเป็นสตาร์ทอัพ ซึ่ง กทม.ต้องร่วมมือกับสำนักงานรับรองความรู้ความสามารถ กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน ออกใบรับรองให้เพื่อใช้ประกอบการทำงานจริงต่อไป
นายวิรัตน์ กล่าวอีกว่า นโยบายการศึกษาทั้ง 2 ระบบจะ ‘สร้างความมั่งคั่ง มั่นคง โอกาสทางการศึกษา’ สอดรับกับแนวนโยบายของพรรคเพื่อไทย ที่มุ่งหวังให้การศึกษาไม่จำกัดที่ในรั้วโรงเรียน เมืองต้องเปิดโอกาสให้คนกรุงเทพฯ ได้เรียนรู้ตลอดชีวิต เพื่อทลายข้อจำกัดการเรียนรู้เดิมที่จะต้องเรียนให้จบเพื่อหางานให้ตรงสายการเรียน โจทย์การศึกษาวันนี้ไม่ได้อยู่แค่ในรั้วโรงเรียน การศึกษาเปลี่ยนไปแล้ว โลกเปลี่ยนเร็ว คนต้องเรียนรู้ใหม่ตลอดเวลาและตลอดชีวิต เมืองต้องเปิดโอกาสนั้น ต้องไม่ทำให้การเรียนรู้เป็นเรื่องไกลเกินเอื้อม เพราะนี่ไม่ใช่แค่เรื่องส่วนบุคคล แต่คนคือเมือง คือทรัพยากรมนุษย์ สโลแกนของเราคือ ‘เลือกเพื่อไทย เลือกอนาคตที่มั่งคั่งให้คนกรุงเทพฯ’ ความมั่งคั่งไม่ได้หมายความแค่ ‘ตัวเงิน’ แต่คือความมั่งคั่งทางความรู้ เลือกเพื่อไทย เลือกอนาคตที่มั่งคั่งทางการศึกษาให้คนกรุงเทพฯ