ช่วยกันคิด ช่วยกันทำ / ช่วยกันคิด ช่วยกันทำ ในการปฏิบัติการทางทหารเป็นพิเศษของรัสเซียที่ดำเนินกับยูเครน ควบคู่ไปกับข้อเรียกร้องข้อหนึ่งของรัสเซียในการเจรจากับฝ่ายยูเครนก็คือ การขจัดแนวคิด อำนาจและปฏิบัติการของกลุ่มนีโอนาซีให้หมดสิ้นไปจากยูเครน เราจึงควรมาทำความเข้าใจกับกลุ่มนีโอนาซีในยูเครนเพื่อจะได้เข้าใจปัญหาวิกฤตการณ์ยูเครนในอีกมุมหนึ่งของความเป็นจริง นับแต่การล่มสลายของสหภาพโซเวียตโดย การดำเนินการบ่อนทำลายจากตะวันตก ที่ทำให้ต้นไม้ที่ผุกร่อน ต้องโค่นล้มลงเพราะพายุใหญ่เพียงครั้งเดียว เมื่อกำแพงเบอร์ลินถูกทำลาย ทั้งนี้ได้มีการดำเนินการอย่างเป็นระบบในยูเครนเพื่อปลุกกระแสชาตินิยม ด้วยวัตถุประสงค์ที่จะแบ่งแยกยูเครนให้เบ็ดเสร็จเด็ดขาดจากรัสเซีย เนื่องจากความสัมพันธ์ที่แนบแน่นกันมาแต่เก่าก่อน มันเป็นสงครามทางด้านจิตวิทยาที่จะเข้าครอบงำจิตใจของชาวยูเครนด้วยการปลูกฝังความเป็นชาตินิยมจนสุดโต่ง มันเป็นสงครามที่ยากที่จะปลูกฝังความเป็นชาตินิยมจนสุดโต่ง และมันเป็นสงครามที่ยากและเป็นสงครามที่มีความสำคัญอย่างยิ่งในการเอาชนะ แต่งานนี้ก็ประสบความสำเร็จ กองพันอาซอฟได้รับการจัดตั้งขึ้นในยูเครนก่อนปี ค.ศ.2014 ปีที่รัสเซียตัดสินใจบุกยึดไครเมีย และก่อนมีการยึดอำนาจในยูเครน ในขณะเดียวกันตะวันตกก็เข้ามามีส่วนสำคัญในการฝึกอาวุธ และยุทธวิธีให้กลุ่มชาตินิยมสุดโต่งนี้ ทั้งอังกฤษ สหรัฐฯ และแคนาดา ได้ส่งทหารมาช่วยฝึกอย่างแข็งขัน และเป็นที่ยืนยันได้จากสื่อตะวันตกในขณะนั้น ซึ่งอาจไปสืบค้นดูได้ อย่างไรก็ตามแนวคิดชาตินิยมสุดโต่งได้รับการผสมผสานกับแนวคิดของลัทธินาซี ที่คลั่งชาติพันธุ์ของความเป็นคนผิวขาวที่มีสถานะเหนือกว่าชาติพันธุ์อื่น จวบจนถึงปัจจุบันแนวคิดของลัทธินีโอนาซี กลายเป็นอุดมการณ์ของรัฐ และขยายตัวอย่างรวดเร็ว โดยแทรกซึมเข้าไปวัฒนธรรม และการใช้ชีวิตประจำวันของชาวยูเครน จึงไม่น่าประหลาดใจที่สื่อโทรทัศน์ ช่องยูเครน 24 จะมีพิธีกรที่มาออกอากาศเรียกร้องให้ทำการเข่นฆ่า ชาวรัสเซียโดยไม่ละเว้นแม้แต่เด็กเล็ก ด้วยเหตุผลว่าต้องไม่ปล่อยให้มันเติบโตมาแก้แค้นได้ภายหลัง และสำหรับชาวยูเครนจำนวนไม่น้อย วีรบุรษที่เป็นต้นแบบของเขา คือนายทหารนาซีหน่วย เอสเอส พลตรีเอส เดอินเนโก ผู้บัญชาการหน่วยพิทักษ์ชายแดนของยูเครน ประกาศอย่างเป็นทางการว่า จะเข่นฆ่าลูกเมีย พ่อแม่ของทหารรัสเซีย ที่เข้ามาร่วมปฏิบัติการในยูเครน ทั้งนี้ย่อมหมายรวมถึงกองกำลังอาสาสมัคร จากแคว้นลูฮานสก์ และโดเนสก์ ในวันที่ 19 มีนาคม ศกนี้ ประธานาธิบดียูเครนเซเรนสกี ได้ประกาศเกียรติคุณและมอบรางวัลวีรบุรุษของยูเครน ให้แก่ผู้บัญชากองกำลังนีโอนาซี คือกองพันอาชอฟ และยกระดับเป็นกรม ทั้งๆที่นักรบเหล่านี้จะใช้วิธีซ่อนตัวโดยเอาประชาชนเป็นโล่ในมาริอูโปล และพวกติดอาวุธเหล่านี้ได้รับคำสั่งให้ฆ่าและยิงประชาชนที่คิดจะหลบหนี การปลูกฝังอุดมกาณ์นีโอนาซีนี้ได้รับการบ่มเพาะ ตั้งแต่ยังเยาว์ มีการบรรจุในบทเรียนตั้งแต่ชั้นอนุบาล โดยบรรจุความเกลียดชังโซเวียตรัสเซียเข้าไปในการเรียนประวัติศาสตร์ และในค่ายฤดูร้อนสำหรับเด็กที่เรียกว่า “Azovets” มันกลายเป็นที่ฝึกฝนนักรบที่จะไปทดแทนกองกำลังในอนาคตสำหรับนีโอนาซี ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจว่าทำไมแนวคิดของนีโอนาซี จึงฝังลึกลงไปบนชาวยูเครนรุ่นใหม่ จนมีการแสดงสัญลักษณ์ โดยเปิดเผยตามเมืองต่างๆ ควบคู่กันระหว่างความเป็นชาตินิยมและฟาสซิสต์ แม้กระทั่งมีการขายเป็นสินค้าในรูปลักษณ์ต่างๆ ตั้งแต่เสื้อยืดจนกระทั่งเครื่องแบบตามที่สาธารณะ แม้แต่ อเมซอน ก็ยังมีการขายสัญลักษณ์และเครื่องหมายโดยอ้างว่าเป็นของที่ระลึก รวมทั้งเครื่องหมายสวัสดิการของนาซีบนเสื้อยืด แต่ได้ระงับในระยะต่อมา คาดว่าคงได้รับการเตือนจากนายทุนไซออนิสต์ ด้วยประการฉะนี้ทุกอย่างที่เกิดขึ้นในยูเครนเกิดขึ้น ด้วยนโยบายที่จงใจจากประเทศตะวันตก การปลุกกระแสชาตินิยมจนกลายเป็นลัทธิคลั่งชาติ ซึ่งกลายเป็นทางออกที่ชาวยูเครนคิดว่าเป็นทางออกที่ดีที่สุดแล้ว ทว่าในระยะยาวนโยบายคลั่งชาติแบบสุดโต่งนี้ จะกลายเป็นปัญหาใหญ่สำหรับ ยุโรปและสหรัฐฯ เพราะมันเป็นแนวคิดที่แบ่งแยกเชื้อชาติ สีผิว รวมทั้งศาสนาที่ก่อให้เกิดความขัดแย้งเป็นวงกว้าง แต่ในขณะนี้กลุ่มขวาสุดโต่งหัวรุนแรงจากหลายส่วนของโลก ได้ระดมกำลังไปช่วยยูเครนรบกับรัสเซีย โดยหวังว่าจะช่วยกันสถาปนาลัทธินีโอนาซีขึ้นมาให้ยิ่งใหญ่ได้อีกครั้ง สำหรับการเคลื่อนไหวของกลุ่มนีโอนาซีในยูเครน ณ ปัจจุบัน ได้มีการรับรองกองกำลังอีกหน่วย คือ กองพันดอนบาส ซึ่งกองพันนี้เป็นกองกำลังที่ทำการจัดตั้งเมื่อปีค.ศ.2014 และทำการเข่นฆ่าคนยูเครนเชื้อสายรัสเซียอย่างทารุณมาแล้ว ทั้งนี้กองพันนี้ถูกนับรวมเข้าเป็นส่วนหนึ่งของกองกำลังรักษาชายแดน หน่วยที่ 24 เช่นเดียวกับกองพันอาซอฟ ที่ได้รับการมอบหมายให้ดูแลชายแดนด้านตะวันออก โดยเฉพาะมีหน้าที่ดูแลเมืองมาริอูโปลที่เป็นท่าเรือสำคัญในทะเลอาซอฟ และเป็นสถานที่เคยมีการจัดตั้งกองพันอาซอฟ จนสถาปนาเป็นกรมและขึ้นตรงกับหน่วยรักษาดินแดนยูเครน นอกจากนี้กองกำลังนีโอนาซีหัวรุนแรงสุดโต่งนี้ยังได้รับกำลังสนับสนุน จากทหารรับจ้างอีกประมาณ 200 คน จากยุโรป และสหรัฐฯ ตลอดจนกองกำลังติดอาวุธที่สหรัฐฯใช้ในตะวันออกกลางก็ถูกนำไปเสริมกำลังกับทหารประจำการของยูเครน และนี่จะเป็นมหันตภัยสำหรับชาวโลกหากลัทธินีโอนาซี ได้รับการสถาปนาอย่างเป็นปึกแผ่นบนแผ่นดินยูเครน โดยจะได้รับการประสานงานกับกลุ่มขวาสุดโต่งที่เหยียดผิวเหยียดเชื้อชาติที่เคลื่อนไหวในยุโรปและสหรัฐอเมริกา แม้กระทั่งการเคลื่อนไหว ที่จะเชื่อมโยงแนวคิดกับกลุ่มยิวไซออนิสต์ ที่ก็เหยียดเชื้อชาติเหยียดผิวเช่นกัน โดยที่ในอดีตเกือบจะเป็นไปไม่ได้ แต่มันเกิดขึ้นแล้วจากการประชุมกลุ่มการเมืองทรานแอตแลนติกเมื่อปีที่แล้ว จึงไม่น่าแปลกใจที่เซเรนสกี้ จะเรียกร้องให้อิสราเอลส่งอาวุธมาช่วย แต่นายเบนเนต นาฟตาลี กำลังกลัวกระแสตีกลับเรื่องการเลือกปฏิบัติแบบ 2 มาตรฐานของยุโรปและสหรัฐฯ ต่อการกระทำย่ำยีของอิสราเอลต่อชาวปาเลสไตน์ ที่ละเมิดทั้งกฎหมายระหว่างประเทศ กฎบัตรสหประชาชาติและหลักมนุษยธรรมสากล นายกรัฐมนตรีอิสราเอลจึงยังคงเงียบเฉยอยู่