ในขณะที่ยอดป่วยอาการหนักปอดอักเสบยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็น 1,553 ราย ต้องใส่เครื่องช่วยหายใจ 583 ราย กทม.มียอดป่วยปอดอักเสบในรพ.เพิ่มขึ้น 199 ราย สำหรับผู้ติดเชื้อรายใหม่วันนี้พบ 27,024 ราย มาจากต่างประเทศ 46 ราย แต่เมื่อรวมกับผู้ป่วยจากการตรวจ ส่วนผู้ป่วยเข้าข่ายจากการตรวจ ATK วันนี้เพิ่มขึ้นเป็น 26,768 ราย ทำให้ไทยมีผู้ติดเชื้อบวกเพิ่มเป็น 53,792 ราย ส่วนยอดเสียชีวิตจำนวน 82 ราย  ป่วยติดเตียงถึง 5 ราย ทั้งนี้กลุ่มเสี่ยงเสียชีวิตส่วนใหญ่ยังคงเป็นกลุ่มผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป และกลุ่มโรคเรื้อรัง และส่วนใหญ่ติดเชื้อจากคนใกล้ชิด และพบว่าจำนวน 46 ราย ไม่ได้ฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 อีกด้วย สำหรับจังหวัดที่พบผู้ติดเชื้อรายวันสูงสุด คือ กทม. จำนวน 3,722 รายเพิ่มขึ้นจากเมื่อวานอีกครั้ง (3,378 ราย) และพบการเสียชีวิตกระจายในทุกภาคทั่วไทย เสียชีวิตสูงสุดรายจังหวัดอยู่ที่ ศรีษะเกษ สุราษฎร์ธานี จว.ละ 5 ราย ส่วนยอดติดเชื้อจากเรือนจำ/ที่ต้องขัง มีจำนวน 54 ราย รักษาหาย 23,721 ราย กำลังรักษาอยู่ 240,349 ราย  วันที่ 24 มี.ค.2565 พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) รายงานสถานการณ์ผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ว่า โดยล่าสุดพบผู้ติดเชื้อรายใหม่อีก 27,024 ราย โดยเป็นการติดเชื้อในประเทศ 26,978 ราย และเดินทางมาจากต่างประเทศอีก 46 ราย ติดเชื้อในประเทศ (แยกเป็นจากระบบเฝ้าระวังและบริการสุขภาพสูงถึง 26,740 ราย จากการตรวจคัดกรองเชิงรุกในชุมชน 184 ราย จากเรือนจำ/ที่ต้องขัง 54 ราย)  รวมยอดผู้ป่วยสะสมตั้งแต่ปี 63  รวม 3,450,980 ราย อย่างไรก็ตามหากรวมยอดผู้ป่วยจากการตรวจ ATK จำนวน 26,768 ราย ตัวเลขผู้ป่วยรายใหม่จะมี 53,792 ราย วันนี้มีผู้เสียชีวิตอีก 82 ราย ทำให้ยอดเสียชีวิตขยับไปที่ 24,579 ราย หายป่วย 23,721 ราย รวมยอดรักษาหาย 3,186,052 ราย ยังรักษาอยู่จำนวน 237,128 ราย เป็นการรักษาอยู่ในรพ.63,926 ราย ในรพ.สนาม/HI-CI 176,423 ราย ทั้งนี้มีผู้ป่วยอาการหนัก 1,553 ราย (จากเมื่อวาน1,496 ราย) ต้องใส่เครื่องช่วยหายใจถึง 583 ราย (จากเมื่อวาน 562 ราย) สำหรับรายละเอียดผู้เสียชีวิต จำนวน 82 ราย พบเป็นคนไทย 76 ราย เมียนมา 5 ราย อังกฤษ 1 รายเพศชาย 46 ราย เพศหญิง 36 ราย อายุ 1 เดือน-95 ปี พบทุกภาคทั่วไทยโดยเสียชีวิตมากสุดใน ศรีษเกษ และสุราษฎร์ธานี จว.ละ5 ราย โดยปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดความรุนแรงของโรคและเสียชีวิตส่วนใหญ่เป็นกลุ่มผู้สูงอายุเกิน 60 ปีขึ้นไป และมีโรคประจำตัว ที่เป็นปัจจัยเสี่ยงให้เกิดความรุนแรงของโรคเพิ่มขึ้น ซึ่งในจำนวนผู้เสียชีวิต 82 ราย พบ 60 รายอายุ 60 ปีขึ้นไป และอายุน้อยกว่า 60 ปีแต่มีโรคเรื้อรัง 18 ราย ไม่มีประวัติโรคเรื้อรัง 4 ราย ส่วนผู้ป่วยติดเตียงยังมีการรายงานเสียชีวิตต่อเนื่องวันนี้พบสูงถึง 5 ราย อีกทั้งยังพบว่าในจำนวนผู้เสียชีวิตทั้ง 82 ราย พบ 46 ราย ยังไม่ได้ฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 แม้แต่เข็มเดียว , 6 ราย ฉีดวัคซีนเพียงเข็มแรก ,16 ราย ฉีดวัคซีนแล้ว 2 เข็มแต่ยังไม่ได้รับวัคซีนเข็มกระตุ้น และพบ 6 ราย ฉีดแล้ว 3 เข็ม