เมื่อเวลา 18.00 น.วันนี้ (23 มี.ค.) ที่ตลาดนัดเมืองจำลอง ริมถนนสุขุมวิทพัทยาเหนือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี “กลุ่มพัทยาร่วมใจ” นำโดย “นายนิรันดร์ วัฒนศาสตร์สาธร” อดีตนายกเมืองพัทยา นำทีมผู้สมัครสมากชิภาเมืองพัทยาทั้ง 4 เขตเลือกตั้ง 24 คน พร้อมนำเสนอตัว “นายสินธ์ไชย วัฒนศาสตร์สาธร” น้องชายที่เปิดตัวลงสมัครในตำแหน่งนายกเมืองพัทยาอย่างเป็นทางการ ท่ามกลางกองเชียร์ที่ผ่านที่ผ่ามาตรการการตรวจ ATK ของสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด โดยพบว่าการปราศรัยครั้งแรกของ “กลุ่มพัทยาร่วมใจ” มีเสียงตอบรับจากพี่น้องประชาชนในพื้นที่เข้าร่วมรับฟังอย่างเกินความคาดจำนวนนับพันราย
นายนิรันดร์ วัฒนศาสตร์สาธร อดีตนายกเมืองพัทยา เปิดเผยว่า เคยประกาศเลิกเล่นการเมืองไปแล้วเพื่อไปดูแลธุรกิจครอบครัว แต่จากความคุ้นเคยกับชาวบ้านและประชาชนในพื้นที่อย่างทั่วถึงทำให้ที่ผ่านมาได้รับเสียงสะท้อนของสภาพปัญหาในบ้านเมืองมาอย่างมากมาย ทั้งระบบสาธารณูปโภค วิถีการดำรงชีวิต สุขอนามัย เศรษฐกิจและการท่องเที่ยวที่ตกต่ำอย่างหนัก แม้ว่าพอจะเข้าใจได้ว่าเป็นเรื่องของสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 แต่การแก้ไขปัญหาเป็นไปอย่างล่าช้าและไม่มีผลเป็นรูปธรรม ส่งผลให้เกิดปัญหาการว่างงาน การปิดสถานประ กอบการและแหล่งท่องเที่ยวมากมาย จนทำให้เมืองพัทยาเมืองท่องเที่ยวที่ขึ้นขื่อว่าเป็นเมืองท่องเที่ยวอันดับหนึ่งของประเทศมีสภาพซบเซาอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนตลอดระยะเวลาหลายสิบปีที่ผ่านมา
ขณะที่ถนนหนทางต่างๆก็พบว่ามีการขุดเจาะบูรณะอย่างต่อเนื่อง ปัญหาน้ำท่วมขังก็ยังไม่ได้รับการแก้ไขอย่างเบ็ดเสร็จ นี่คือเหตุผลสำคัญที่ตัดสินใจย้อนกลับมาเล่นการเมืองอีกครั้ง โดยครั้งนี้ได้ดำเนินงานลงพื้นที่มาอย่างต่อเนื่องตลอด 2 ปี เพื่อรับฟังสภาพปัญหา และรับฟังข้อเสนอแนะจากชุมชนต่างๆอย่างเข้าถึง โดยเสียงส่วนใหญ่บ่งชี้ว่าถึงเวลาที่ “คนบ้านเราต้องกลับมาดูแลบ้านเรา” เสียที เพราะคนบ้านเราจะมีความรักบ่านเกิด รู้สภาพปัญหา และทำงานอย่างโปร่งใส เพื่อให้พ่อแม่พี่น้องอยู่กันด้วยความสุขสบายอย่างเต็มที่ ก่อนรวบรวมคนรุ่นใหม่ที่มีศักยภาพ ประสบการณ์ และความสามารถ มาเป็นทีมงาน “กลุ่มพัทยาร่วมใจ” เพื่อเข้ามาเป็นตัวแทนของพี่น้องประชาชนในการแก้ไขปัญหา
ซึ่งโอกาสนี้ทางกลุ่มมีข้อเสนอที่จะผลักดันให้ “สินธ์ไชย วัฒนศาสตร์สาธร” น้องชายมาลงสมัครในตำแหน่งนายกเมืองพัทยา ด้วยมองเห็นถึงศักยภาพความสามารถที่มีประบการ์มากมาย และถึงเวลาแล้วที่ปัจจุบันต้องถึงเวลาของการเปลี่ยนแปลงสำหรับ “คนรุ่นใหม่” เสียที ส่วนการหาเสียงจะเน้นด้วยการขายนโยบาย “ใกล้ชิด อบอุ่น เข้าถึงง่าย” เป็นหลัก โดยจะมีคตัวเองทำหน้าที่ดูแลและเป็นที่ปรึกษาตลอดเวลา
ด้านนายสินธ์ไชย วัฒนศาสตร์สาธร ผู้สมัครนายกเมืองพัทยา “ทีมพัทยาร่วมใจ” กล่าวว่า ตั้งใจอย่างเต็มที่ที่มาลงสมัครในการเลือกตั้งครั้งนี้ ด้วยที่ผ่านมาต้องทนรับฟังสภาพปัญหาความเดือดร้อนของชาวบ้านและสภาพพื้นที่ที่เกิดปัญหาอย่างต่อเนื่องและหลายส่วนยังไม่มีการแก้ไขปัญหาที่เบ็ดเสร็จ สำหรับส่วนตัวแล้วต้องแจ้งให้ทราบเลยว่าไม่เคยเล่นการเมืองมาก่อนและไม่เคยอยู่ใต้อานัติหรือสังกัดใคร แต่ “พัทยาคือบ้านของเรา” เมื่อมอง เห็นถึงปัญหาและรับทราบความเดือดร้อน รวมทั้งเสียงสะท้อนมาอย่างต่อเนื่องจากการทำงานในฐานะกู้ภัยเมืองพัทยาจึงมีคามใกล้ชิดกับพี่น้องประชาชน กระทั่งตัดสินใจมาลงสมัครในการเลือกตั้งครั้งนี้
สำหรับส่วนตัวแล้วตั้งแต่เรียนจบมาก็ทำงานธุรกิจให้กับครอบครัว ก่อนได้รับเลือกเข้าไปช่วยเหลือในกิจกรรมของสมาคมนักธุรกิจและการท่องเที่ยวเมืองพัทยา กระทั่งได้รับตำแหน่งเป็นนายกสมาคมฯถึง 2 สมัย รวมทั้งการเป็นกรรมการสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดชลบุรี รวมทั้งสมาชิกสภาเมืองพัทยาที่แต่งตั้งด้วย คสช. แต่ถูกบังคับด้วยการใช้กฎหมายให้ออกจากตำแหน่ง อย่างไรก็ตามส่วนตัว ถือว่ามีประสบการณ์และ connection ทั้งในระดับรัฐบาล ส่วนกลาง ภูมิภาคและท้องถิ่น ผลักดันการแก้ไขปัญหาการท่องเที่ยวมาตลอด ทั้ง โครงการ Pattaya Move on หรือ Test&go รวมทั้งการาขอผ่อนปรนการขายแอลกอฮอล์ ซึ่งเราทำมาตลอดแต่กลับไม่มีการประชาสัมพันธ์และรับความดีความชอบ แต่ไม่เป็นไรเพราะถือว่าเรามาด้วยใจ มาเพื่อบ้านเรา ทั้งฝั่งพัทยาและเกาะล้าน โดยสิ่งสำคัญที่ต้องเร่งดำเนินการก่อนคือ “เรื่องของปากท้อง” เป็นหลัก สิ่งสำคัญคือหากได้เข้ามาสิ่งสำคัญคือการฟื้นฟูเศรษฐกิจ การแก้ไขปัญหาคอรัปชั่น ยกเลิกโครงการต่างๆและนำงบประมาณมาใช้เพื่อช่วยเหลือประชาชนในระดับรากหญ้าและแรงงานเพื่อให้กลับมาดำเนินชีวิตตามปกติ และทำให้เมืองพัทยากลับมาเป็นเมืองท่องเที่ยวทีสำคัญระดับโลกอีกครั้งแน่นอน
มีรายงานสำหรับบรรยากาศการหาเสียงบนเวทีปราศรัยครั้งแรกของ “กลุ่มพัทยาร่วมใจ” ถือว่าได้รับความสนใจจากพี่น้องประชาชน รวมทั้งกลุ่มภาคธุรกิจ เดินทางมาเข้าร่วมรับฟังเป็นจำนวนมาก ซึ่งถือเป็นครั้งแรกหลัง จากห่างหายมานานกว่า 10 ปี
+++++++++