เมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 21 มี.ค.65 ที่ค่ายรามคำแหง จ.สงขลาพล.ท.เกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาค 4 พล.ต.ท.ณัฐ สิงห์อุดม ผบช.ตชด. พล.ต.ท.นันทเดช ย้อยนวล ผบช.ภ.9 พล.ต.ท.สรายุทธ สงวนโภคัย ผบช.ปส. พล.ต.ต.อรรถวุฒิ อ่อนทรัพย์ ผบก.ตชด.ภาค 4 พล.ต.ประเสริฐ กิตติรัต ผบ.มทบ.42 พล.ต.ต.อาซาน จันทร์ศิริ ผบก.ภ.จ.สงขลา นายเจษฎา จิตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา นายอาคม บุญญโส นายอำเภอรัตภูมิ พล.ต.ต.เสกสันต์ ชูรังสฤษฎิ์ ผบก.สส.จชต. ร่วมกันแถลงจับกุมนายพลวัตร (สงวนนามสกุล) อายุ 33 ปี อยู่ต.ท่าชะมวง อ.รัตภูมิ จ.สงขลา และน.ส.วรัญญา (สงวนนามสกุล) อายุ 28 ปี อยู่บ้านต.ท่าชะมวง อ.รัตภูมิ จ.สงขลา พร้อมของกลางยาไอซ์ 585 กก. ปืนลูกซองยาว 1 กระบอก พร้อมกระสุน 3 นัด และโทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง กล่าวหา ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือไอซ์) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย จับกุมได้ที่บ้านต.ท่าชะมวง อ.รัตภูมิ จ.สงขลา และบ้านต.เขาพระ อ.รัตภูมิ จว.สงขลา ต่อเนื่องกันเมื่อช่วงเย็นวันที่ 20 มี.ค.65
พล.ท.เกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาค 4 กล่าวว่า ตามนโยบายของรัฐบาลและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ด้านการสกัดและปราบปรามยาเสพติด โดย พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. สั่งการให้ กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดนทำการสืบสวนจับกุมและสกัดกั้นขบวนการ ค้ายาเสพติด ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจภายใต้การอำนวยการของตน และหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้องร่วมกันสั่งการให้พล.ต.ต.อรรถวุฒิ อ่อนทรัพย์ ผบก.ตชด.ภาค 4 พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดนสังกัด บก.ตชด.ภาค 4 (กก.ตชด.43) เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอรัตภูมิ เจ้าพนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด เจ้าหน้าที่ฝ่ายทหาร และ เจ้าหน้าที่สำนักการข่าว กอ.รมน. สืบสวนติดตามจับกุมเครือข่ายค้ายาเสพติดข้ามชาติ ซุกซ่อนยาไอซ์ในภาชนะเครื่องใช้ไฟฟ้า (เตาทอดไฟฟ้า) ส่งไปต่างประเทศ เคยมีการจับกุมผู้ต้องหาในพื้นที่ จ.พัทลุง เมื่อปีที่ผ่านมา หลายราย ส่วนหนึ่งได้รับการประสานข้อมูลจากต่างประเทศ และบช.ตชด.ร่วมกันสืบสวนขยายผลมาต่อเนื่อง
กระทั่งเมื่อวันที่ 18 มี.ค. 2565 ชุดจับกุมรับแจ้งจากสายลับว่านายอภิสิทธิ์ (หรือหมาน) มีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับยาไอซ์ เป็นเครือข่ายของนายซอลหลี (บังหลี) นักค้ายาเสพติดรายสำคัญในพื้นที่ อ.รัตภูมิ จ.สงขลา โดยนายอภิสิทธิ์จะรับคำสั่งจากนายซอลหลี และจะสั่งการให้นายพลวัต หรือ บังหมาด และนายอับดลอูหมาด (หรือหมาด) เป็นผู้ไปรับยาเสพติดและเก็บยาเสพติดเพื่อรอส่งให้กับเครือข่ายตามคำสั่งของนายซอลหลี โดยอำพรางยาไอซ์แอบซุกซ่อนไว้ในเครื่องใช้ไฟฟ้า (เตาทอดไฟฟ้า) โดยทั้ง 2คนจะใช้บ้านของตนเอง เป็นที่เก็บและบรรจุยาไอซ์
ต่อมาช่วงเย็นวันที่ 20 มี.ค. 2565 ชุดจับกุมร่วมกันสืบสวนทราบว่านายอภิสิทธิ์สั่งการให้นาย พลวัต และนายอับดลอูหมาด นำยาเสพติดไปเก็บไว้เพื่อรอส่งให้กับเครือข่าย ชุดจับกุมเข้าตรวจค้นบ้าน ต.ท่าชะมวง อ.รัตภูมิ จ.สงขลา บ้านของนายพลวัต เปิดเป็นร้านซ่อมรถจักรยานยนต์เข้าควบคุมนายพลวัตและ น.ส.วรัญญาภรรยา ตรวจค้นภายในบ้านพบยาไอซ์ซุกซ่อนอยู่ในเตาทอดไฟฟ้า 110 กล่อง (บรรจุกล่องละ 1 กก.)และบางส่วนที่ยังไม่ได้บรรจุอีก 267 กก. รวมไอซ์ทั้งหมด 377 กก.
จากการสอบสวนนายพลวัต ให้การว่า ตนรับคำสั่งจากนายอภิสิทธิ์ (หรือหมาน) ให้นำยาไอซ์มาบรรจุรอส่งให้เครือข่าย และนำเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ยังไม่ได้บรรจุยาไปส่งให้นายอับดลอูหมาด เจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นบ้านนายอภิสิทธิ์ และ นายอับดลอูหมาด ที่ต.เขาพระ อ.รัตภูมิ จ.สงขลา ซึ่งบ้านอยู่ติดกัน เมื่อเดินทางไปถึง ระหว่างที่เจ้าหน้าที่แสดงตัวนายอับดลอูหมาด วิ่งหลบหนีออกไปทางป่ายางหลังบ้าน ชุดจับกุม ประสานผู้ใหญ่บ้านและนายวุฒิชัย ซึ่งเป็น ผช.ผญบ.และเป็นน้องชายนายอภิสิทธิ์ ร่วมตรวจค้นบ้านพบยาไอซ์บรรจุเตาทอดไฟฟ้า 108 กล่อง (บรรจุกล่องละ 1 กก.) และบางส่วนที่ยังไม่ได้บรรจุอีก 100 กก. รวมยาไอซ์ทั้งหมด 208 กก. และอาวุธปืนลูกซองยาว 1 กระบอก พร้อมกระสุน 3 นัด
จากการสอบสวนเพิ่มเติมนายพลวัต ให้การอีกว่า ตนรับคำสั่งจาก นายอภิสิทธิ์ (หรือหมาน) รองเดช ให้ไปเก็บยาเสพติด จำนวน 4 ครั้ง โดยนาย อภิสิทธิ์ จะให้ค่าจ้างครั้งละ100,000 บาท ครั้งที่ 1 ประมาณเดือน ม.ค.65 ตนไปรับยาไอซ์ 100 กก. กับนาย อับดลอูหมาด (หรือหมาด) มรรคาเขต บริเวณริมถนนหน้า รร.เนินนิมิตร แล้วนำมาแบ่งกันคนละ 50 กก.แล้วนำมาแพคใส่เครื่องทอดไร้น้ำมัน แล้วนำไปส่งให้ลูกค้าบริเวณริมถนน ต.ป่าบอน อ.ป่าบอน จ.พัทลุง ครั้งที่ 2 ห่างจากครั้งแรกประมาณ 10 วัน ตนไปรับยาไอซ์กับนาย อับดลอูหมาด (หรือหมาด) มรรคาเขต จำนวน 250 กก. บริเวณริมถนนหน้า รร.เนินนิมิตร ตนเก็บไว้ที่บ้าน 150 กก. และนายอับดลอูหมาด เอาไป 100 กก. ครั้งที่ 3 ประมาณเดือน ก.พ.65 ตนไปรับยาไอซ์เพียงคนเดียว 110กก. บริเวณริมถนนหน้า รร.เนินนิมิตร และนำมาเก็บไว้ที่บ้าน และครั้งที่4 ประมาณวันที่ 10 มี.ค.65 ตนไปรับยาไอซ์เพียงคนเดียว 100 กก. บริเวณริมถนนหน้า รร.เนินนิมิตร และนำมาเก็บไว้ที่บ้านของตนเอง จนกระทั่งถูกจับกุม
สำหรับเครือข่ายนายซอลหลี เป็นผู้ค้ารายใหญ่มีหมายจับ ขณะนี้หลบหนีการจับกุม และขบวนการนี้จะใช้วิธีการบรรจุยาไอซ์ไว้อุปกรณ์ไฟฟ้า (เตาทอดไฟฟ้า) โดยจะบรรจุใส่กล่องละ 1 กก. จากนั้นก็จะนำสินค้าขนส่งไปที่แหลมฉบัง เพื่อส่งออกต่างประเทศ เจ้าหน้าที่นำผู้ต้องหาพร้อมของกลาง ส่งพนักงานสอบสวน สภ.รัตภูม ดำเนินคดี ในส่วนของผู้กระทำผิดที่ยังหลบหนีอยู่จะได้รวบรวมหลักฐานเพื่อดำเนินการทางกฎหมายสำหรับทรัพย์สินที่เกี่ยวเนื่องกับการกระทำผิดอยู่ระหว่างการตรวจสอบเพื่อตรวจยึดและดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
พล.ท.เกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาค 4 กล่าวว่า ตามนโยบายของรัฐบาลและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ด้านการสกัดและปราบปรามยาเสพติด โดย พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. สั่งการให้ กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดนทำการสืบสวนจับกุมและสกัดกั้นขบวนการ ค้ายาเสพติด ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจภายใต้การอำนวยการของตน และหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้องร่วมกันสั่งการให้พล.ต.ต.อรรถวุฒิ อ่อนทรัพย์ ผบก.ตชด.ภาค 4 พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดนสังกัด บก.ตชด.ภาค 4 (กก.ตชด.43) เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอรัตภูมิ เจ้าพนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด เจ้าหน้าที่ฝ่ายทหาร และ เจ้าหน้าที่สำนักการข่าว กอ.รมน. สืบสวนติดตามจับกุมเครือข่ายค้ายาเสพติดข้ามชาติ ซุกซ่อนยาไอซ์ในภาชนะเครื่องใช้ไฟฟ้า (เตาทอดไฟฟ้า) ส่งไปต่างประเทศ เคยมีการจับกุมผู้ต้องหาในพื้นที่ จ.พัทลุง เมื่อปีที่ผ่านมา หลายราย ส่วนหนึ่งได้รับการประสานข้อมูลจากต่างประเทศ และบช.ตชด.ร่วมกันสืบสวนขยายผลมาต่อเนื่อง
กระทั่งเมื่อวันที่ 18 มี.ค. 2565 ชุดจับกุมรับแจ้งจากสายลับว่านายอภิสิทธิ์ (หรือหมาน) มีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับยาไอซ์ เป็นเครือข่ายของนายซอลหลี (บังหลี) นักค้ายาเสพติดรายสำคัญในพื้นที่ อ.รัตภูมิ จ.สงขลา โดยนายอภิสิทธิ์จะรับคำสั่งจากนายซอลหลี และจะสั่งการให้นายพลวัต หรือ บังหมาด และนายอับดลอูหมาด (หรือหมาด) เป็นผู้ไปรับยาเสพติดและเก็บยาเสพติดเพื่อรอส่งให้กับเครือข่ายตามคำสั่งของนายซอลหลี โดยอำพรางยาไอซ์แอบซุกซ่อนไว้ในเครื่องใช้ไฟฟ้า (เตาทอดไฟฟ้า) โดยทั้ง 2คนจะใช้บ้านของตนเอง เป็นที่เก็บและบรรจุยาไอซ์
ต่อมาช่วงเย็นวันที่ 20 มี.ค. 2565 ชุดจับกุมร่วมกันสืบสวนทราบว่านายอภิสิทธิ์สั่งการให้นาย พลวัต และนายอับดลอูหมาด นำยาเสพติดไปเก็บไว้เพื่อรอส่งให้กับเครือข่าย ชุดจับกุมเข้าตรวจค้นบ้าน ต.ท่าชะมวง อ.รัตภูมิ จ.สงขลา บ้านของนายพลวัต เปิดเป็นร้านซ่อมรถจักรยานยนต์เข้าควบคุมนายพลวัตและ น.ส.วรัญญาภรรยา ตรวจค้นภายในบ้านพบยาไอซ์ซุกซ่อนอยู่ในเตาทอดไฟฟ้า 110 กล่อง (บรรจุกล่องละ 1 กก.)และบางส่วนที่ยังไม่ได้บรรจุอีก 267 กก. รวมไอซ์ทั้งหมด 377 กก.
จากการสอบสวนนายพลวัต ให้การว่า ตนรับคำสั่งจากนายอภิสิทธิ์ (หรือหมาน) ให้นำยาไอซ์มาบรรจุรอส่งให้เครือข่าย และนำเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ยังไม่ได้บรรจุยาไปส่งให้นายอับดลอูหมาด เจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นบ้านนายอภิสิทธิ์ และ นายอับดลอูหมาด ที่ต.เขาพระ อ.รัตภูมิ จ.สงขลา ซึ่งบ้านอยู่ติดกัน เมื่อเดินทางไปถึง ระหว่างที่เจ้าหน้าที่แสดงตัวนายอับดลอูหมาด วิ่งหลบหนีออกไปทางป่ายางหลังบ้าน ชุดจับกุม ประสานผู้ใหญ่บ้านและนายวุฒิชัย ซึ่งเป็น ผช.ผญบ.และเป็นน้องชายนายอภิสิทธิ์ ร่วมตรวจค้นบ้านพบยาไอซ์บรรจุเตาทอดไฟฟ้า 108 กล่อง (บรรจุกล่องละ 1 กก.) และบางส่วนที่ยังไม่ได้บรรจุอีก 100 กก. รวมยาไอซ์ทั้งหมด 208 กก. และอาวุธปืนลูกซองยาว 1 กระบอก พร้อมกระสุน 3 นัด
จากการสอบสวนเพิ่มเติมนายพลวัต ให้การอีกว่า ตนรับคำสั่งจาก นายอภิสิทธิ์ (หรือหมาน) รองเดช ให้ไปเก็บยาเสพติด จำนวน 4 ครั้ง โดยนาย อภิสิทธิ์ จะให้ค่าจ้างครั้งละ100,000 บาท ครั้งที่ 1 ประมาณเดือน ม.ค.65 ตนไปรับยาไอซ์ 100 กก. กับนาย อับดลอูหมาด (หรือหมาด) มรรคาเขต บริเวณริมถนนหน้า รร.เนินนิมิตร แล้วนำมาแบ่งกันคนละ 50 กก.แล้วนำมาแพคใส่เครื่องทอดไร้น้ำมัน แล้วนำไปส่งให้ลูกค้าบริเวณริมถนน ต.ป่าบอน อ.ป่าบอน จ.พัทลุง ครั้งที่ 2 ห่างจากครั้งแรกประมาณ 10 วัน ตนไปรับยาไอซ์กับนาย อับดลอูหมาด (หรือหมาด) มรรคาเขต จำนวน 250 กก. บริเวณริมถนนหน้า รร.เนินนิมิตร ตนเก็บไว้ที่บ้าน 150 กก. และนายอับดลอูหมาด เอาไป 100 กก. ครั้งที่ 3 ประมาณเดือน ก.พ.65 ตนไปรับยาไอซ์เพียงคนเดียว 110กก. บริเวณริมถนนหน้า รร.เนินนิมิตร และนำมาเก็บไว้ที่บ้าน และครั้งที่4 ประมาณวันที่ 10 มี.ค.65 ตนไปรับยาไอซ์เพียงคนเดียว 100 กก. บริเวณริมถนนหน้า รร.เนินนิมิตร และนำมาเก็บไว้ที่บ้านของตนเอง จนกระทั่งถูกจับกุม
สำหรับเครือข่ายนายซอลหลี เป็นผู้ค้ารายใหญ่มีหมายจับ ขณะนี้หลบหนีการจับกุม และขบวนการนี้จะใช้วิธีการบรรจุยาไอซ์ไว้อุปกรณ์ไฟฟ้า (เตาทอดไฟฟ้า) โดยจะบรรจุใส่กล่องละ 1 กก. จากนั้นก็จะนำสินค้าขนส่งไปที่แหลมฉบัง เพื่อส่งออกต่างประเทศ เจ้าหน้าที่นำผู้ต้องหาพร้อมของกลาง ส่งพนักงานสอบสวน สภ.รัตภูม ดำเนินคดี ในส่วนของผู้กระทำผิดที่ยังหลบหนีอยู่จะได้รวบรวมหลักฐานเพื่อดำเนินการทางกฎหมายสำหรับทรัพย์สินที่เกี่ยวเนื่องกับการกระทำผิดอยู่ระหว่างการตรวจสอบเพื่อตรวจยึดและดำเนินการตามกฎหมายต่อไป