ไม่ไกลจากกรุงเทพมหานครใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมงเศษๆ ในวันหยุดสุดสัปดาห์ ผู้คนนิยมเดินทางมาท่องเที่ยวและกราบไหว้ขอพร “พ่อพันท้ายนรสิงห์” ที่ศาลพันท้ายนรสิงห์ ตั้งอยู่ที่ต.โคกขาม อ.เมืองสมุทรสาคร จ.สมุทรสาคร เพื่อขอให้มีความเจริญก้าวหน้าในตำแหน่งหน้าที่การงาน การดำเนินกิจการ การค้าขายต่างๆให้เจริญรุ่งเรือง รวมไปถึงโชคลาภและความปรารถนาต่างๆ
ทั้งนี้เหนืออื่นใด ก็เพื่อรำลึกถึงคุณูปการ ซึ่งท่านเป็นบุคคลสำคัญท่านหนึ่งในประวัติศาสตร์ ผู้รักษากฎหมายให้ศักดิ์สิทธิ์ ในสมัยอยุธยา รัชกาลของสมเด็จพระสรรเพ็ชญ์ที่ 8 เกิดอุบัติเหตุหัวเรือพระที่นั่งเอกไชย ชนกิ่งไม้จนโขนเรือหักตกลงในน้ำขณะเสด็จผ่านตำบลโคกขาม ที่เป็นคลองคดเคี้ยวและมีกระแสน้ำเชี่ยวกราก พันท้ายนรสิงห์จึงกราบบังคมทูลสมเด็จพระสรรเพ็ชญ์ที่ 8 หรือพระเจ้าเสือให้ประหารชีวิตตามกฎมณเฑียรบาล พระเจ้าเสือทรงจำฝืนพระทัยตามพระราชกำหนดที่วางไว้ จึงมีรับสั่งให้ประการชีวิตพ้นท้ายนรสิงห์แล้วให้ทำศาลขึ้นสูงเพียงตา ให้เอาศรีษะพันท้ายนรสิงห์กับโขนเรือพระที่นั่งเอกไชยที่หักขึ้นพลีกรรมไว้ด้วยกันบนศาลนั้น เพื่อเป็นอนุสรณ์แสดงถึงความซื่อสัตย์จงรักภักดี และการรักษาระเบียบวินัยยิ่งชีวิต
เมื่อมาถึงศาลบูชาดอกไม้ธูปเทียนตามกำลังศรัทธา โดยปัจจุบันไม่อนุญาตให้จุดธูปเทียนเนื่องจากปัญหามลพิษ แต่ยังสามารถนำมาไหว้พร้อมกล่าวคำบูชา แล้ววางธูปเทียนไว้ที่แท่นสักการะซึ่งเจ้าหน้าที่จัดเตรียมไว้ให้ ส่วนพวงมาลัยดาวเรืองและแผ่นทองนำไปถวายและปิดที่องค์พ่อพ้นท้ายนรสงห์ด้านบนศาลได้
สำหรับคาถาบูชาพ่อพันท้ายนรสิงห์มีดังนี้
ตั้งนะโมฯ 3 จบ
พ่อพันท้ายนรสิงห์เทวา สิทธิประสิทธิเม มหาลาโภ
ทุติยัมปิ พ่อพันท้ายนรสิงห์เทวา สิทธิประสิทธิเม มหาลาโภ
ตะติยัมปิ พ่อพันท้ายนรสิงห์เทวา สิทธิประสิทธิเม มหาลาโภ
ด้านหลังศาลมีศาลเพียงตา ที่ผู้ดูแลแนะให้เดินลอดใต้ศาลวนขวา 3 รอบขอพรให้สมปรารถนา และมีหลักประหารเดิมที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้.



